ดาวน์โหลดบทความ ดาวน์โหลดบทความ

เทสโทสเทอโรน เป็นฮอร์โมนที่ควบคุมอวัยวะเพศ กระบวนการเมตาบอลิซึ่ม การสูญเสียกระดูก และการทำงานของร่างกายส่วนอื่นๆ ถึงแม้ว่ามีผลต่อผู้ชายเป็นหลัก แต่ทั้งสองเพศสามารถมีปริมาณฮอร์โมนเทสโทสเทอโรนที่ลดต่ำได้ การศึกษาแสดงให้เห็นว่า การดำเนินชีวิตในรูปแบบต่างๆ มีส่วนสำคัญต่อระดับฮอร์โมนเทสโทสเทอโรน การออกกำลังกาย การนอนหลับ ความเครียด และการมีน้ำหนักตัวที่มากเกินไป สามารถกระทบต่อระดับฮอร์โมนได้ บทความนี้แสดงวิธีในการเพิ่มระดับฮอร์โมนเทสโทสเทอโรนได้ด้วยวิธีธรรมชาติ

นอกจากนี้ ลองอ่านหัวข้อ เมื่อไหร่ที่คุณควรเพิ่มระดับฮอร์โมนเทสโทสเทอโรน? เพื่อเรียนรู้เพิ่มเติมว่า เมื่อไหร่ที่คุณอาจพิจารณาทดลองวิธีธรรมชาติในการเพิ่มระดับฮอร์โมนเทสโทสเทอโรนของคุณ

วิธีการ 1
วิธีการ 1 ของ 6:

จัดการกับอาหาร และโภชนาการของคุณ

ดาวน์โหลดบทความ
  1. ปรึกษาแพทย์ของคุณสำหรับการตรวจร่างกายประจำปี. ถามถึงรายละเอียดในการวิเคราะห์น้ำหนักของคุณ หากคุณมีน้ำหนักเกิน หรืออ้วนเกินไป นี่สามารถเป็นสาเหตุของการลดระดับของฮอร์โมนเทสโทสเทอโรน
    • คนอ้วนหลั่งอะโรมาเทสมากกว่าปกติ ซึ่งเป็นเอนไซม์ ที่ทำหน้าที่แปลงฮอร์โมนเทสโทสเทอโรน ให้เป็นฮอร์โมนเอสโตรเจน กระบวนการเมตาบอลิซึ่มของคุณจะเริ่มลดลง เมื่อร่างกายของคุณสร้างเอนไซม์อะโรมาเทสมากขึ้น ซึ่งทำให้ปัญหายิ่งเพิ่มมากขึ้น ฉะนั้นจงคิดแผนลดน้ำหนักกับแพทย์ของคุณ
  2. หลีกเลี่ยงอาหารแปรรูป บรรจุห่อ และสำเร็จรูป. เพราะอาหารเหล่านี้เพิ่มน้ำหนัก และทำให้อ้วน ซึ่งสามารถทำให้ระดับฮอร์โมนเทสโทสเทอโรนลดลง [1] การเปลี่ยนประเภทอาหารที่รับประทานของคุณสามารถสร้างความแตกต่างได้เป็นอย่างมาก ไม่ใช่แค่การรักษาระดับฮอร์โมนเทสโทสเทอโรนของคุณ แต่ยังช่วยลดความเสี่ยงของการเป็นโรคหัวใจ และเบาหวานได้อีกด้วย เริ่มต้นเปลี่ยนแปลงการรับประทานอาหารของคุณ โดยตัดอาหารแปรรูป บรรจุห่อ และสำเร็จรูปออกจากชีวิตประจำวัน
  3. รับประทานอาหารในแบบที่มันเป็นให้มากที่สุดเท่าที่เป็นไปได้. การรับประทานอาหารครบถ้วน หมายถึงการตัดน้ำตาล ไขมัน สารกันบูด เป็นต้น ให้คุณพยายามเน้นอาหารดังต่อไปนี้:
    • เน้นผลไม้ และผัก [2]
    • เน้นปลา และสัตว์ปีกที่ปราศจากหนัง ในขณะที่จำกัดการรับประทานเนื้อแดง
    • เน้นแป้งที่มีความซับซ้อน เช่น ธัญพืชเต็มเมล็ดที่ไม่ผ่านการขัดสี ถั่วเลนทิล ถั่ว และผัก
    • เน้นถั่ว และเมล็ดพืช
  4. ซึ่งรวมถึงน้ำตาลที่ถูกเพิ่มในอาหารแปรรูป (เช่น น้ำตาลข้าวโพดที่เต็มไปด้วยน้ำตาลฟรุกโตสสูง) และสารเร่งความหวานสังเคราะห์ [3] หากคุณต้องการ “ความหวาน” ให้ลองใช้หญ้าหวาน (Stevia) เป็นสมุนไพร ที่สามารถให้ความหวานได้มากกว่าน้ำตาลถึง 60 เท่า
  5. ไขมันโอเมก้า-3 เป็นไขมันดี พบได้ในอาหารหลากหลายชนิด เช่น ไข่ สาหร่าย ปลา และหอยแมลงภู่ รวมไปถึงพืชน้ำมันบางชนิด เช่น เมล็ดแฟลกซ์ ปอ และน้ำมันผลวอลนัท ไขมันดีจะช่วยสร้างให้ร่างกายมีสุขภาพที่ดีขึ้น
  6. น้ำจำนวนมากเป็นสิ่งที่จำเป็นต่ออาหารเพื่อสุขภาพ นอกเหนือจากช่วยหล่อเลี้ยงไม่ให้ร่างกายขาดน้ำ น้ำสามารถช่วยยับยั้งไม่ให้คุณรู้สึกหิว
  7. ตัดของคบเขี้ยว การรับประทานเมื่อรู้สึกเบื่อ และแคลอรี่ที่แอบแฝงอยู่ทิ้งให้หมด ให้ลองรับประทานอาหารเมื่อคุณรู้สึกหิวเพียงเท่านั้น
  8. การจำกัดแคลอรี่อย่างมีนัยสำคัญ อาจส่งสัญญาณไม่ดีต่อร่างกายของคุณ ซึ่งร่างกายจะไม่เพิ่มระดับฮอร์โมนเทสโทสเทอโรน แต่ให้คุณตัดปริมาณแคลอรี่ให้ลดลงประมาณ 15 เปอร์เซ็นต์ในสัปดาห์แรก
    • เป้าหมายการลดน้ำหนักทั้งหมดควรสมเหตุสมผล เช่น ตั้งเป้าที่จะลดน้ำหนักให้ได้ 2.2 กิโลกรัม ต่อสัปดาห์ โดยการปรับเปลี่ยนอาหาร และเพิ่มระดับกิจกรรม
  9. เวย์โปรตีน โยเกิร์ตที่มีโปรตีนสูง และผักบางชนิดสามารถช่วยสร้างกล้ามเนื้อ โดยการเพิ่มกล้ามเนื้อจะช่วยเผาผลาญไขมัน และเพิ่มระดับฮอร์โมนเทสโทสเทอโรน
    โฆษณา
วิธีการ 2
วิธีการ 2 ของ 6:

ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ

ดาวน์โหลดบทความ
  1. เริ่มต้นกิจวัตรการฝึกฝนความแข็งแกร่งของร่างกาย. หากคุณไม่เคยยกเวทเลย ให้ลองใช้ยางยืดออกกำลังกาย หรือเครื่องเล่นเวท ว่าจ้างผู้ฝึกสอนส่วนตัว หรือนักบำบัดทางร่างกาย เพื่อแนะนำรูปแบบ และกระบวนการที่เหมาะสมสำหรับคุณ [4]
    • หากคุณอ่อนแอมากๆ ให้เริ่มต้นด้วยยางยืดออกกำลังกาย รูปแบบของการฝึกฝนความแข็งแกร่งของร่างกายที่ไม่ยุ่งยากซับซ้อนนี้ คุณจะใช้เพียงแค่สายยางยืดเพื่อฝึกฝนกล้ามเนื้อที่อ่อนแอก่อนที่จะยกเวทจริงๆ [5] ให้ฝึกด้วยวิธีนี้ 2 – 3 ครั้งต่อสัปดาห์ สำหรับ 3 – 4 สัปดาห์แรก หากคุณมีปัญหากับข้อต่อ หรือหลัง คุณอาจต้องการสายที่แข็งมากขึ้นกว่าเดิม และยึดรูปแบบการฝึกฝนความแข็งแกร่งด้วยรูปแบบนี้เป็นหลัก
    • คุณสามารถเพิ่มระดับฮอร์โมนเทสโทสเทอโรนของคุณได้ 20 เปอร์เซ็นต์ โดยการยกเวท 3 ครั้งต่อสัปดาห์ เป็นระยะเวลา 11 สัปดาห์ติดต่อกัน
    • การฝึกฝนความแข็งแกร่งของร่างกายในเวลากลางคืนสามารถเพิ่มระดับฮอร์โมนเทสโทสเทอโรนในตอนกลางคืน ผลลัพธ์ที่ได้อาจมีเพียงแค่เล็กน้อย หากคุณมีร่างกายที่กระชับเข้ารูปมากขึ้น [6] อย่างไรก็ตามมันก็ยังส่งผลดีต่อคุณ
  2. เล่นเครื่องเล่นเวท หรืออุปกรณ์ที่สามารถนำมาใช้ได้ในท่าทางอิสระ หรือฟรีเวท 2 – 3 ครั้งต่อสัปดาห์. สำหรับผู้ชาย คุณอาจเลือกอุปกรณ์เล่นเวทที่ทำให้กล้ามเนื้อของคุณอ่อนล้า หลังจากการเล่นซ้ำ 5 ที โดยเมื่อผ่านเซ็ทที่ 3 คุณควรรู้สึกว่ากล้ามเนื้อของคุณอ่อนล้า หลังจากการเล่นเวท ควรปล่อยให้กล้ามเนื้อของคุณพักเป็นเวลา 24 – 48 ชั่วโมง
    • ผู้หญิง หรือคนที่มีปัญหาที่ข้อต่อ อาจเลือกการฝึกฝนความอดทนของร่างกายแทน ยกตัวอย่างเช่น เล่นเวทที่มีน้ำหนักน้อยกว่า และเล่นครั้งละ 3 เซ็ท โดยให้เล่น 10 – 15 ครั้งต่อหนึ่งเซ็ท
    • ในแต่ละเซ็ทให้ฝึกกล้ามเนื้อแต่ละแบบอย่างละครึ่ง นี่หมายความว่า ในครึ่งเซ็ทแรก หรือครึ่งเซ็ทหลัง คุณควรฝึกเส้นใยกล้ามเนื้อแบบกระตุกเร็ว ควบคู่ไปการฝึกเส้นใยกล้ามเนื้อแบบกระตุกช้าในอีกครึ่งเซ็ท
    • ยกเวทอย่างช้าๆ หายใจอย่างช้าๆ และห้ามวางเวท พยายามควบคุมให้เวทกลับมาอยู่ในตำแหน่งเริ่มต้น
  3. เริ่มต้นด้วยการออกกำลังกายแบบคาร์ดิโอเป็นเวลาอย่างน้อย 30 นาที 5 ครั้งต่อสัปดาห์
    • การออกกำลังกายแบบหนักสลับเบา คุณจำเป็นต้องอบอุ่นร่างกาย วิ่งเร็ว และออกกำลังกายอย่างหนักหน่วงเป็นระยะเวลาสั้นๆ (เช่น 90 วินาที) และต่อด้วยการออกกำลังกายแบบสบายๆ ที่ไม่เร่งรีบในช่วงเวลาที่ยาวนานขึ้นเล็กน้อย (ประมาณ 2 – 4 นาที) ให้ทำเซ็ทเหล่านี้ซ้ำๆ ประมาณ 30 นาที โดยรวมการอบอุ่นร่างกาย และการผ่อนคลายกล้ามเนื้อหลังออกกำลังกายเสร็จ โดยความแตกต่างของแต่ละช่วงเวลาขึ้นอยู่กับกิจกรรมคาร์ดิโอแต่ละประเภท หากคุณยังใหม่สำหรับการออกกำลังกายแบบหนักสลับเบา ให้พิจารณาว่าจ้างผู้ฝึกสอนส่วนตัวเพื่อรับคำแนะนำกฎเกณฑ์ที่ตรงกับระดับของประสบการณ์ของคุณเอง
    • เครื่องเล่นที่ใช้ฝึกระบบหัวใจ และหลอดเลือด เช่น เครื่องสแตร์แมชชีน จักรยาน เครื่องออกกำลังกายเดินวงรี และเครื่องวิ่งสายพาน สามารถถูกจัดเข้าไว้ในการออกกำลังกายแบบหนักสลับเบาได้ หากคุณไม่ต้องการที่จะวิ่ง หรือว่ายน้ำสำหรับรูปแบบของคุณเอง
  4. แน่ใจว่าคุณเหงื่อออกในระยะเวลา 30 นาทีที่คุณออกกำลังกาย. ในขณะที่กิจกรรมทั่วๆ ไปก็ดีเพียงพอแล้ว คุณยังจำเป็นที่จะทำให้หัวใจของคุณทำงานหนักมากขึ้นเพื่อให้การลดน้ำหนักประสบผล และบรรลุเป้าหมายการเพิ่มระดับฮอร์โมนเทสโทสเทอโรน นี่เป็นเรื่องจริงสำหรับทั้งการออกกำลังกายเพื่อให้ร่างกายแข็งแรง และแบบคาร์ดิโอ
    • ห้ามออกกำลังกายหักโหมเกินไป หากคุณมีสภาพร่างกายที่ฟิตสมบูรณ์ดีอยู่แล้ว การออกกำลังกายแบบคาร์ดิโอค่อนข้างส่งผลทำให้ระดับฮอร์โมนเทสโทสเทอโรนลดลง [7] เป้าหมายของคุณ คือการรักษากระบวนการเมตาบอลิซึ่มของคุณให้อยู่ในระดับสูง ในขณะที่ให้เวลาร่างกายได้พักผ่อน และฟื้นตัวมากเพียงพอ
    • ดื่มน้ำให้มากเพียงพอ ก่อน ในระหว่าง และหลังออกกำลังกาย คนที่ร่างกายขาดน้ำจะสร้างฮอร์โมนเทสโทสเทอโรนต่ำ หลังจากออกกำลังกาย
    • อย่าลืมประโยชน์ด้านอื่นจากการออกกำลังกาย เช่น ทำให้ระบบไหลเวียนโลหิต และการหายใจมีสุขภาพดีขึ้น ลดน้ำหนัก เพิ่มความแข็งแรง และความอดทน [8]
  5. การอดอาหารเป็นช่วงเวลา เมื่อรวมเข้ากับการออกกำลังกายแบบทั่วไป จนถึงระดับจริงจัง แสดงให้เห็นว่ามีส่วนช่วยเพิ่มระดับฮอร์โมนเทสโทสเทอโรน [9] ในระหว่างช่วงเวลาที่อดอาหาร ให้เลือกออกกำลังกายในระดับทั่วไป เรื่อยไปจนถึงระดับจริงจังรูปแบบใดก็ได้ หลักการ คือเมื่อคุณกำลังอดอาหาร ร่างกายของคุณจะพยายามเก็บไขมันเพื่อใช้เป็นพลังงาน [10]
    โฆษณา
วิธีการ 3
วิธีการ 3 ของ 6:

การเปลี่ยนรูปแบบการดำเนินชีวิตของคุณ

ดาวน์โหลดบทความ
  1. แพทย์แนะนำว่าควรนอนหลับให้ได้ 7 – 8 ชั่วโมงต่อคืน การนอนหลับไม่เพียงพอสามารถลดระดับฮอร์โมนเทสโทสเทอโรนได้ 10 เปอร์เซ็นต์ นอกจากนี้ การนอนหลับไม่เพียงพอยังทำให้การลดน้ำหนักเป็นเรื่องที่ยากลำบากมากขึ้นอีกด้วย [11]
  2. เคลื่อนไหวอยู่ตลอดเวลา และลดการนั่งให้น้อยลงจะทำให้ระดับฮอร์โมนมีความสมดุล ลดความตึงเครียด และส่งผลให้น้ำหนักลดลง
    • ซื้อเครื่องมือวัดจำนวนก้าวที่เดิน แน่ใจว่าคุณเดินอย่างน้อยเป็นจำนวน 10,000 ก้าว ต่อวัน ของการใช้ชีวิตประจำวันของคุณ
  3. ความตึงเครียดสร้างฮอร์โมนคอร์ติซอล และขัดขวางกระบวนการสร้างฮอร์โมน เช่น เทสโทสเทอโรน [12] [13]
    • โพกัสในการสร้างสมดุลระหว่างการทำงาน และชีวิต. ใช้เวลาสัก 2 ชั่วโมงต่อวันในการทำกิจกรรมยามว่างที่คุณชอบ พยายามทำให้ชั่วโมงทำงานลดลงเหลือ 10 ชั่วโมง หรือน้อยกว่านั้น [14]
    • เริ่มต้นการทำสมาธิ หายใจเข้าออกลึกๆ โยคะ ไทชิ และ/หรือชี่กง โดยกิจกรรมเหล่านี้สามารถลดความเครียด และช่วยให้คุณหลับดีขึ้น หากคุณไม่คิดว่าคุณมีเวลา ให้ใช้เวลา 2 – 3 นาที ตลอดทั้งวัน เพื่อหายใจเข้าออกลึกๆ 25 ครั้ง ต่อการพักแต่ละครั้ง
  4. หากระดับฮอร์โมนเทสโทสเทอโรนที่ต่ำมีผลกระทบต่อชีวิตเซ็กส์ของคุณ ให้ลองพิจารณาประกอบกิจกรรมทางเพศในตอนเช้าแทน ทั้งนี้ ระดับฮอร์โมนเทสโทสเทอโรนโดยธรรมชาติจะมีระดับที่สูงขึ้นในตอนเช้า
    โฆษณา
วิธีการ 4
วิธีการ 4 ของ 6:

การใช้ไวตามิน แร่ธาตุ และสมุนไพร

ดาวน์โหลดบทความ
  1. การได้รับไวตามิน ดี คุณจำเป็นต้องให้พื้นที่ของผิวของคุณรับแสงแดดโดยตรงเป็นเวลาประมาณ 15 – 30 นาที การรักษาระดับไวตามิน ดีให้สูง สามารถสร้างฮอร์โมนเทสโทสเทอโรนได้เพิ่มขึ้น 20 เปอร์เซ็นต์ พิจารณาปรึกษาผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์เกี่ยวกับอาหารเสริมไวตามิน ดี หากคุณต้องทำงานภายในร่มตลอดทั้งวัน และไม่ถูกแสงแดดโดยตรง [15]
  2. การขาดธาตุสังกะสีในระดับเล็กน้อย จนถึงปานกลาง พบว่าทำให้ระดับฮอร์โมนเทสโทสเทอโรนลดต่ำลง [16] ปรึกษาผู้ค้าด้านสุขภาพที่มีความรู้เกี่ยวกับอาหารเสริมธาตุสังกะสี
  3. จากการศึกษาแสดงให้เห็นว่า อาหารเสริมสมุนไพรบางอย่างอาจช่วยเพิ่มระดับฮอร์โมนเทสโทสเทอโรน หรือต่อสู้กับผลกระทบของระดับฮอร์โมนเทสโทสเทอโรนที่ต่ำ โดยอาหารเสริมสมุนไพรดังกล่าว ได้แก่:
    • สมุนไพรหนามกระสุน ซึ่งการศึกษาพบว่าช่วยเพิ่มกิจกรรมทางเพศในสัตว์ ทั้งนี้ โปรดทำตามคำแนะนำของผู้ผลิต
    • โสมอินเดีย ซึ่งได้รับการรายงานในการทดลองทางการแพทย์เบื้องต้นว่าช่วยเพิ่มคุณภาพของสเปิร์ม [17] การศึกษาส่วนมากใช้ในปริมาณ 450 มิลลิกรัม 4 เวลาต่อวัน
    • แป๊ะก๊วย ช่วยเพิ่มการสังเคราะห์ฮอร์โมนเทสโทสเทอโรน [18] ควรรับประทานสารสกัดแป๊ะก๊วยเม็ดละ 270 มิลลิกรัม 4 เวลาต่อวัน ทั้งนี้ โปรดทำตามคำแนะนำของผู้ผลิต
    • โยฮิมบี ถูกใช้ในการเพิ่มความสนใจทางเพศ และรักษาอาการหย่อนสมรรถภาพทางเพศ [19] ปริมาณยาอาจแตกต่างกันไปมีตั้งแต่ 5.4 มิลลิกรัม (รับประทาน 3 เวลาต่อวัน) จนถึง 10.8 มิลลิกรัม (รับประทาน 3 เวลาต่อวัน) ทั้งนี้ โปรดทำตามคำแนะนำของผู้ผลิต
    โฆษณา
วิธีการ 5
วิธีการ 5 ของ 6:

การวินิจฉัยว่ามีระดับฮอร์โมนเทสโทสเทอโรนต่ำ

ดาวน์โหลดบทความ
  1. ผู้ชายที่มีระดับฮอร์โมนเทสโทสเทอโรนต่ำอาจสังเกตได้จากอาการที่เกี่ยวข้องต่างๆ ได้ โดยอาการเหล่านั้น ได้แก่:
    • เป็นโรคหย่อนสมรรถภาพทางเพศ รวมไปถึงการลดจำนวนครั้ง และคุณภาพของการแข็งตัวของอวัยวะเพศ
    • อัณฑะเล็กลง (ภาวะฮอร์โมนเพศต่ำ)
    • การลดปริมาณของจำนวนสเปิร์ม
    • มวลกล้ามเนื้อลดลง ทำให้ความแข็งแกร่ง และความอดทนลดลง
    • มีการเปลี่ยนแปลงในไขมันในเลือด เช่น ระดับคอเรสเตอรอล
    • เป็นโรคกระดูกบาง (กระดูกอ่อน ไม่แข็งแรง) และโรคกระดูกพรุน (ความหนาแน่นของกระดูกลดลง)
    • มีอาการร้อนวูบวาบ
    • เต้านมบวม หรือเจ็บ (ภาวะเต้านมโต)
  2. สำหรับผลกระทบต่อร่างกาย ผู้ชายอาจสังเกตเห็นว่ามีอารมณ์แปรปรวน ซึ่งเกี่ยวข้องกับระดับฮอร์โมนเทสโทสเทอโรนที่ลดต่ำลง อาการดังกล่าว ได้แก่:
    • ความรู้สึกทางเพศลดลง
    • เหนื่อยล้า
    • มีอารมณ์แปรปรวน เช่น รู้สึกหดหู่ หงุดหงิด และวิตกกังวล
    • มีปัญหาเรื่องความจำ สมาธิ หรือขาดความมั่นใจในทันทีทันใด
  3. การวินิจฉัยต้องอาศัยการตรวจเลือดเพื่อวิเคราะห์สภาพทางร่างกาย การทดสอบส่วนใหญ่ต้องเจาะเลือดในตอนเช้า เพราะเป็นช่วงเวลาที่ฮอร์โมนเทสโทสเทอโรนมีระดับสูงสุด
    • แพทย์ของคุณจะวินิจฉัยสภาพ หากอาการโดยรวมของคุณ และผลจากห้องแล็บ แสดงว่าฮอร์โมนเทสโทสเทอโรนมีระดับต่ำ
    โฆษณา
วิธีการ 6
วิธีการ 6 ของ 6:

เมื่อไหร่ที่คุณควรเพิ่มระดับฮอร์โมนเทสโทสเทอโรน?

ดาวน์โหลดบทความ
  1. 1
    เพิ่มฮอร์โมนเทสโทสเทอโรน หากคุณเป็นผู้ใหญ่ที่มีระดับฮอร์โมนเทสโทสเทอโรนที่ต่ำผิดปกติ. ในเกือบทุกสถานการณ์ ผู้ใหญ่ที่ถูกวินิจฉัยทางการแพทย์ว่ามีระดับฮอร์โมนเทสโทสเทอโรนต่ำ สามารถเพิ่มระดับของฮอร์โมนได้อย่างปลอดภัย และวิธีทางธรรมชาติสามารถเป็นวิธีที่ดีต่อสุขภาพมากที่สุด นั่นหมายความว่า คุณควรหลีกเลี่ยงการเพิ่มฮอร์โมนเทสโทสเทอโรนโดยตั้งใจ หากคุณเป็นคนหนุ่มสาว หรือว่าคุณเป็นผู้ใหญ่ที่มีระดับฮอร์โมนเทสโทสเทอโรนอยู่ในเกณฑ์ปกติ หรือไม่เคยได้รับการวินิจฉัยระดับฮอร์โมนเทสโทสเทอโรนมาก่อน
    • ฮอร์โมนเทสโทสเทอโรน โดยปกติจะมีระดับสูงสุดในช่วงวัยหนุ่มสาว แต่เนื่องจากฮอร์โมนของคุณจะเกิดการแปรปรวนในช่วงวัยนี้ของชีวิตคุณ มันจะเป็นการดีที่สุดที่จะปล่อยให้มันปรับเปลี่ยนตัวมันเองมากกว่าที่จะพยายามเปลี่ยนแปลงมันด้วยตัวคุณเอง [20] หากคุณเป็นกังวลเกี่ยวกับระดับฮอร์โมนเทสโทสเทอโรนที่ต่ำในช่วงวัยรุ่น ให้ปรึกษาแพทย์ก่อนที่จะทำการเปลี่ยนแปลงใดๆ
    • การเพิ่มฮอร์โมนเทสโทสเทอโรน เมื่อระดับฮอร์โมนของคุณอยู่ในเกณฑ์ปกติอยู่แล้ว สามารถส่งผลกระทบเชิงลบต่อสุขภาพของคุณ หรือแม้แต่ในวัยผู้ใหญ่ สำหรับผู้หญิง ระดับฮอร์โมนเทสโทสเทอโรนที่สูงอาจนำไปสู่ ภาวะถุงน้ำรังไข่หลายใบ เป็นหมัน โรคอ้วน และผมบาง เป็นต้น [21] มีข้อโต้แย้งเกี่ยวกับว่า ระดับฮอร์โมนเทสโทสเทอโรนสูงเป็นอันตรายต่อผู้ชายได้มากน้อยเพียงใด แต่งานวิจัยบางชิ้นแนะนำว่า ระดับฮอร์โมนเทสโทสเทอโรนที่สูงเกินความจำเป็นสามารถเพิ่มความเสี่ยงของผู้ชายในการเป็นโรคหัวใจ และหลอดเลือด [22]
  2. 2
    ลองอาหารเสริมสมุนไพร. หากคุณไม่มีความกังวลด้านสุขภาพอื่นๆ ยกเว้นปัญหาระดับฮอร์โมนเทสโทสเทอโรนที่ต่ำ ดังนั้นอาหารเสริมสมุนไพรเกือบทั้งหมดจะมีความปลอดภัยหากคุณจะทดลองใช้ก่อนในระยะสั้น อาการทางการแพทย์บางอาการอาจทำให้การบำบัดทางสมุนไพรเป็นเรื่องอันตราย อย่างไรก็ตาม คุณอาจปรารถนาที่จะหลีกเลี่ยงการใช้สมุนไพรเพื่อเพิ่มระดับฮอร์โมนเทสโทสเทอโรน หากคุณรู้ว่ามีปัญหาด้านสุขภาพ
    • สำหรับผู้หญิง หลีกเลี่ยงอาหารเสริมสมุนไพรดังต่อไปนี้ หากคุณกำลังตั้งครรภ์ หรือคาดว่าจะตั้งครรภ์ หรือหากคุณกำลังให้นมลูกอยู่ในปัจจุบัน ได้แก่ หนามกระสุน โสมอินเดีย แป๊ะก๊วย และโยฮีมบี ถูกพิจารณาว่าไม่ปลอดภัยภายใต้สภาวะที่กล่าวมา
    • สำหรับผู้ชาย หนามกระสุน อาจถูกเชื่อมโยงไปสู่ปัญหาที่ต่อมลูกหมาก [23]
    • โสมอินเดีย อาจก่อให้เกิดปัญหาในคนที่เป็นโรคเบาหวาน โรคความดันโลหิตต่ำ โรคกระเพาะ โรคภูมิคุ้มกันทำลายตัวเอง และโรคไทรอยด์เป็นพิษ [24]
    • แป๊ะก๊วยอาจเป็นสาเหตุให้เกิดอาการแพ้ หากคุณแพ้พิษจากพืชตระกูลมะม่วงหิมพานต์ เช่น เถาวัลย์มีพิษ และมะม่วงหิมพานต์ มันยังสามารถก่อให้เกิดปัญหา หากคุณมีอาการความดันเลือดไม่ปรกติ โรคเบาหวาน ภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำ ความผิดปรกติในระบบทางเดินอาหาร ความผิดปรกติของระบบกล้ามเนื้อ และกระดูกโครงร่าง ความผิดปรกติของระบบประสาท โรคลมชัก ความผิดปรกติของผิวหนัง โรคทางจิตเวช หรือโรคหัวใจ [25]
    • โยฮิมบีเป็นอันตราย หากคุณประสบกับสภาวะเลือดออก โรคจิตเภท ปัญหาที่ต่อมลูกหมาก โรคเครียด โรคตับ โรคไต ความผิดปรกติของความดันโลหิต โรคหัวใจ ความวิตกกังวล ความตึงเครียด หรือโรคเบาหวาน [26]
  3. 3
    ออกกำลังกายด้วยความระมัดระวัง หากคุณได้รับการรักษาด้วยยาบางประเภท. หากคุณไม่ได้รับทานยาใดๆ ในปัจจุบัน วิธีการรักษาด้วยสมุนไพรเกือบทั้งหมดจะมีความปลอดภัยในการใช้ อย่างไรก็ตาม คุณอาจจำเป็นต้องหลีกเลี่ยงการใช้สมุนไพรในการรักษา หากคุณกำลังรับประทานยาอยู่ในปัจจุบันที่อาจมีผลตอบสนองต่อสมุนไพรที่ใช้
    • หลีกเลี่ยงหนามกระสุน หากคุณรับประทานยาความดันโลหิต ยาเบาหวาน หรือสเตียรอยด์ [27]
    • โสมอินเดียอาจเป็นอันตราย หากคุณรับประทานยากดภูมิคุ้มกัน หรือยาต้านอาการวิตกกังวล [28]
    • แป๊ะก๊วยอาจตอบสนองในทางลบกับตัวเร่งปฏิกิริยาโรคหัวใจ ยารักษาอาการลมชัก ยารักษาอาการหอบหืด ยารักษาอาการซึมเศร้า และตัวเร่งกระบวนการเมตาบอลิซึ่ม CPY450 [29]
    • หลีกเลี่ยงโยฮีมบี หากคุณรับประทานยารักษาอาการซึมเศร้า ยาโคลนิดีน ยาลดความดันโลหิต ยารักษาโรคความดันโลหิตสูง ยานาลอกโซน ยาฟิโนไทอาซีน หรือสารกระตุ้นต่างๆ [30]
  4. 4
    พิจารณาการใช้การรักษาด้วยสมุนไพรในระยะสั้น. ตราบเท่าที่คุณไม่มีสภาวะ หรือการรักษาด้วยยา ที่อาจส่งผลให้เกิดภาวะแทรกซ้อน การรักษาด้วยสมุนไพรเพื่อเพิ่มระดับฮอร์โมนเทสโทสเทอโรนเป็นวิธีที่ปลอดภัยสำหรับผู้ใหญ่ เมื่อรับประทานเป็นระยะเวลา 6 เดือน หรือน้อยกว่า
    • หากเกินกว่า 6 เดือน การรักษาด้วยสมุนไพรบางอย่างอาจส่งผลให้เกิดอาการแทรกซ้อน เช่น เลือดออกเป็นจำนวนมาก [31] ท้องเสีย ท้องเดิน และการอาเจียน [32] อาจส่งผลให้เกิดอาการนอนหลับยากด้วยเช่นกัน [33]
  5. 5
    ใช้อาหารเสริมในปริมาณที่พอดี. ในขณะที่ปริมาณที่พอดีของไวตามิน ดี และธาตุสังกะสี สามารถช่วยให้ร่างกายของคุณสร้างฮอร์โมนเทสโทสเทอโรนมากขึ้น และมีสุขภาพดีขึ้น ทั้งนี้ปริมาณสารอาหารส่วนเกินสามารถก่อให้เกิดพิษต่อร่างกาย โดยทั่วไปการรับสารอาหารทั้งสองชนิดจากแหล่งธรรมชาติเป็นวิธีที่ดีที่สุด แต่หากคุณเลือกที่จะใช้รูปแบบของอาหารเสริม คุณควรแน่ใจว่าคุณทำตามคำแนะนำที่ระบุไว้บนฉลาก
    • ปริมาณของไวตามิน ดี ที่แนะนำให้บริโภคต่อวันอยู่ที่ 600 หน่วยสากล (IU) ความเป็นพิษโดยทั่วไปจะเกิดขึ้นกับผู้ที่รับประทานสารอาหารที่ประมาณ 50,000 หน่วยสากล เป็นระยะเวลาหลายเดือนต่อเนื่อง แต่ปริมาณนี้อาจน้อยกว่าสำหรับผู้ที่มีปัญหาเรื่องตับ ไต หรือสุขภาพด้านอื่น [34]
    • สำหรับธาตุสังกะสี ปริมาณที่แนะนำให้รับประทานต่อวัน อยู่ระหว่าง 8 – 10 มิลลิกรัม สำหรับผู้ใหญ่ [35] ปริมาณจำกัดสูงสุดอยู่ที่ 40 มิลลิกรัมต่อวัน และความเป็นพิษจะเกิดขึ้นเมื่อรับประทานเกินปริมาณที่กำหนด [36]
  6. 6
    ทำการเปลี่ยนแปลงรูปแบบการดำเนินชีวิตที่เป็นประโยชน์ หลังจากปรึกษากับแพทย์ของคุณ. การเลือกอาหารที่ดีต่อสุขภาพมากขึ้น และการออกกำลังกายเป็นความคิดที่ยอดเยี่ยม ถึงแม้ว่าคุณไม่ต้องการที่จะเพิ่มระดับฮอร์โมนเทสโทสเทอโรนก็ตาม เพื่อให้ได้รับประโยชน์สูงสุดจากรูปแบบการดำเนินชีวิตที่ถูกปรับเปลี่ยนใหม่ ในขณะที่ลดความเสี่ยงใดๆ ที่อาจเป็นไปได้ก็ตาม ให้คุณพบแพทย์ก่อนที่จะทำการเปลี่ยนแปลงตัวเองครั้งใหญ่เสียก่อน
    • ในส่วนของการทดสอบระดับฮอร์โมนเทสโทสเทอโรนของคุณ และการแจ้งข้อจำกัดด้านสุขภาพส่วนตัวให้คุณรับทราบนั้น แพทย์ของคุณสามารถร่วมมือกันกับคุณเพื่อตัดสินใจวิธีการการรักษาที่ดีที่สุดเท่าที่เป็นไปได้ แพทย์ของคุณอาจแนะนำการรักษาทางการแพทย์ แต่จงอย่ากลัวที่จะบอกให้แพทย์ทราบ หากคุณปรารถนาอย่างแรงกล้าที่จะใช้วิธีทางธรรมชาติ ตราบเท่าที่มันไม่กระทบต่อสุขภาพของคุณ แพทย์ส่วนใหญ่ยินดีที่จะปรับเปลี่ยนกระบวนการรักษาให้สอดคล้องกับความปรารถนาของคุณ
    โฆษณา

เคล็ดลับ

  • ปรึกษาแพทย์ของคุณ หากคุณต้องการเพิ่มระดับฮอร์โมนเทสโทสเทอโรน ในขณะที่คุณรับประทานยาระงับความเจ็บปวด อะนาบอลิค เสตียรอยด์ หรือเพรดนิโซน เนื่องจากตัวยาเหล่านี้สามารถทำให้ระดับฮอร์โมนเทสโทสเทอโรนลดต่ำลง [37] อย่างไรก็ตาม คุณไม่ควรหยุดรับประทานยาดังกล่าวหากไม่ได้รับคำแนะนำจากแพทย์ของคุณ
  • อดทน การลดน้ำหนัก การทำให้หุ่นกลับมาเข้าที่ และการเพิ่มระดับฮอร์โมนเทสโทสเทอโรนต้องอาศัยเวลา


โฆษณา

คำเตือน

  • หากคุณเลือกที่จะใช้สมุนไพร ให้ปรึกษาแพทย์ธรรมชาติบำบัด หรือแพทย์สมุนไพรก่อน ซึ่งผู้เชี่ยวชาญจะเป็นผู้กำหนดปริมาณยาที่เหมาะสม และการตอบสนองที่เป็นไปได้ต่อการให้ยา
โฆษณา

สิ่งของที่ใช้

  • แพทย์
  • ผู้ฝึกสอนส่วนตัว/นักบำบัดร่างกาย
  • อาหารที่อุดมไปด้วยไขมันที่เป็นประโยชน์
  • อาหารที่อุดมไปด้วยธาตุสังกะสี
  • อาหารที่อุดมไปด้วยโปรตีน
  • ยางยืดออกกำลังกาย
  • เครื่องเล่นเวท/อุปกรณ์ที่สามารถนำมาใช้ได้ในท่าทางอิสระ
  • น้ำ
  • การฝึกฝนเป็นช่วงๆ
  • การนอนหลับ
  • เครื่องมือวัดจำนวนก้าวที่เดิน
  • กิจกรรมยามว่าง
  • การนั่งสมาธิ/โยคะ
  • ไวตามิน ดี

ข้อมูลอ้างอิง

  1. http://care.diabetesjournals.org/content/34/7/1669.long
  2. http://www.webmd.com/diet/the-natural-diet-best-foods-for-weight-loss
  3. http://authoritynutrition.com/4-healthy-natural-sweeteners/
  4. http://www.webmd.com/men/features/can-you-boost-testosterone-naturally
  5. http://www.webmd.com/men/features/can-you-boost-testosterone-naturally
  6. Khoo, J., Tian, H., Tan, B., Chew, K., Ng, C., Leong, D., & ... Chen, R. Y. (2013). Comparing effects of low- and high-volume moderate-intensity exercise on sexual function and testosterone in obese men. The Journal Of Sexual Medicine, 10(7), 1823-1832.
  7. http://www.leangains.com/
  8. http://www.webmd.com/men/features/exercise-and-testosterone?page=2
  9. O'Leary, C. B., & Hackney, A. C. (2014). Acute and Chronic Effects of Resistance Exercise on the Testosterone and Cortisol Responses in Obese Males: a Systematic Review. Physiological Research, 63(6), 693-704.
  1. http://dailyburn.com/life/health/intermittent-fasting-exercise-weight-loss/
  2. http://www.webmd.com/diet/sleep-and-weight-loss
  3. http://www.webmd.com/men/features/can-you-boost-testosterone-naturally?page=2
  4. http://www.utexas.edu/news/2010/09/27/stress-hormone/
  5. http://www.webmd.com/men/features/can-you-boost-testosterone-naturally?page=2
  6. http://www.ncbi.nlm.nih.gov/pmc/articles/PMC3712348/
  7. TP. Croxford,NH. McCormick, SL. Kelleher, Moderate Zinc Deficiency Reduces Testicular Zip6 and Zip10 Abundance and Impairs Spermatogenesis in Mice. J Nutr. 2011 March; 141(3): 359–365.
  8. http://www.webmd.com/vitamins-supplements/ingredientmono-953-withania%20somnifera%20%28ashwagandha%29.aspx?activeingredientid=953&activeingredientname=withania%20somnifera%20%28ashwagandha%29
  9. Zhang, Z., Tong, Y., Zou, J., Chen, P., & Yu, D. (2009). Dietary supplement with a combination of Rhodiola crenulata and Ginkgo biloba enhances the endurance performance in healthy volunteers. Chinese Journal Of Integrative Medicine, 15(3), 177-183.
  10. http://www.webmd.com/vitamins-supplements/ingredientmono-759-yohimbe.aspx?activeingredientid=759&activeingredientname=yohimbe
  11. http://www.mayoclinic.org/healthy-lifestyle/sexual-health/in-depth/testosterone-therapy/art-20045728
  12. http://www.webmd.com/women/guide/normal-testosterone-and-estrogen-levels-in-women?page=2#3
  13. http://well.blogs.nytimes.com/2014/02/03/weighing-testosterone-benefits-and-risks/?_r=0
  14. http://www.webmd.com/vitamins-and-supplements/tribulus-terrestris-uses-and-risks
  15. http://www.webmd.com/vitamins-supplements/ingredientmono-953-ASHWAGANDHA.aspx?activeIngredientId=953&activeIngredientName=ASHWAGANDHA
  16. http://www.mayoclinic.org/drugs-supplements/ginkgo/safety/hrb-20059541
  17. http://www.webmd.com/vitamins-supplements/ingredientmono-759-YOHIMBE.aspx?activeIngredientId=759&activeIngredientName=YOHIMBE
  18. http://www.webmd.com/vitamins-and-supplements/tribulus-terrestris-uses-and-risks
  19. http://www.webmd.com/vitamins-supplements/ingredientmono-953-ASHWAGANDHA.aspx?activeIngredientId=953&activeIngredientName=ASHWAGANDHA
  20. http://www.mayoclinic.org/drugs-supplements/ginkgo/safety/hrb-20059541
  21. http://www.webmd.com/vitamins-supplements/ingredientmono-759-YOHIMBE.aspx?activeIngredientId=759&activeIngredientName=YOHIMBE
  22. http://www.mayoclinic.org/drugs-supplements/ginkgo/safety/hrb-20059541
  23. http://www.webmd.com/vitamins-supplements/ingredientmono-953-ASHWAGANDHA.aspx?activeIngredientId=953&activeIngredientName=ASHWAGANDHA
  24. http://www.webmd.com/vitamins-and-supplements/tribulus-terrestris-uses-and-risks
  25. http://www.mayoclinic.org/healthy-lifestyle/nutrition-and-healthy-eating/expert-answers/vitamin-d-toxicity/faq-20058108
  26. http://umm.edu/health/medical/altmed/supplement/zinc
  27. https://ods.od.nih.gov/factsheets/Zinc-HealthProfessional/
  28. http://www.webmd.com/men/features/can-you-boost-testosterone-naturally?page=2

เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

มีการเข้าถึงหน้านี้ 10,044 ครั้ง

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม

โฆษณา