ดาวน์โหลดบทความ ดาวน์โหลดบทความ

เคยมีคนลงความเห็นว่าคุณเป็นคนยึดติด โหยหาคนอื่นมากๆ หรือเปล่า คุณตื่นเต้นมากเมื่อพบเพื่อนใหม่หรือเริ่มความสัมพันธ์ใหม่ถึงขั้นต้องเรียกร้องความสนใจบ่อยๆ จนอีกฝ่ายต้องเว้นระยะห่างไปเลยใช่ไหม ถ้ารู้สึกอยากโทรหา ส่งข้อความหรืออีเมล์ไปหาใครสักคนมากกว่าที่เขาตอบคุณ คุณอาจรู้ตัวแล้วว่าอารมณ์โหยหา ยึดติดนี้ทำให้คนอื่นหมดอารมณ์จะคุยกับคุณ ดังนั้นมาดูวิธีจัดการกับนิสัยช่างเรียกร้องและสร้างความมั่นใจในตนเองกันเถอะ

วิธีการ 1
วิธีการ 1 ของ 2:

สร้างความสมดุล

ดาวน์โหลดบทความ
  1. ทุกความสัมพันธ์พัฒนาไปตามจังหวะของมัน ไม่จำเป็นต้องรีบร้อนอยากเป็น "เนื้อคู่" หรือ "เพื่อนซี้ที่สุดในโลก" เพียงแค่คุณรู้สึกว่ามันใช่ จงมองเห็นคุณค่าของความสัมพันธ์และความตื่นเต้นกับการเจอคนใหม่ พอผ่านช่วงนี้แล้วก็จะไม่มีทางย้อนกลับมาอีก คุณอาจรู้สึกกระวนกระวายนิดหน่อยเพราะไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น แต่มันก็น่าตื่นเต้นอยู่นะ พยายามอดทนและใช้เวลายินดีกับความตื่นเต้นนี้ อย่าพยายามเร่งความสัมพันธ์ให้ไปถึงจุดที่ต้องการในขณะที่ยังไม่พร้อม จะหมดสนุกและเครียดกันเปล่าๆ
    • เมื่อไปเที่ยวกับเพื่อนแล้วรู้สึกว่า เออ มันสนุกมากเลยนะ ก็อาจอยากไปอีกเร็วๆ นี้ แทนที่จะโทรชวนเพื่อนไปเที่ยวอีกทีพรุ่งนี้เลย ให้เว้นระยะสักสองสามวัน ให้โอกาสตนเองและเพื่อนนึกถึงเวลาดีๆ นี้บ้าง พอนัดกันอีกรอบก็จะอยากเจอหน้ากันแล้ว ทำให้ใช้เวลาร่วมกันได้เจ๋งขึ้นไปอีก
  2. สาเหตุที่บางคนตื่นเต้นมากเพราะเรามองคนอื่นดีเกินไปเมื่อเริ่มรู้จักกัน มันง่ายมากที่จะหลงอยู่ในจินตนาการถึงมิตรภาพหรือความสัมพันธ์อันงดงามเวลารู้สึกผูกพันกับใครสักคน แต่บางทีจินตนาการเหล่านั้นทำให้ตั้งความหวังไว้สูงและบางครั้งสิ่งที่หวังไว้น่ะ ก็ไม่เป็นความจริงเลย ตอนนี้คุณอาจอยากใช้เวลากับเพื่อนคนนั้น แต่รู้ไหมว่ากำลังจะทำให้ตนเองผิดหวัง
    • ตั้งเป้า เตือนตนเองไว้เลยว่าอีกฝ่ายก็เป็นคนเหมือนกัน หมายความว่าเขา ไม่สมบูรณ์แบบ คนเราก็ทำผิดพลาดบ้าง คุณต้องเรียนรู้ที่จะอยู่กับมันและให้อภัยไม่ใช่รู้สึกตกใจที่อีกคนไม่สมบูรณ์แบบ
  3. เรียนรู้ quid pro quo (สุภาษิตภาษาละตินแปลว่า "หมูไปไก่มา"). มองการปฏิสัมพันธ์เหมือนเล่นเทนนิสหรือวอลเลย์บอล เวลาเริ่มเล่นคุณส่งลูกบอลไปฝั่งตรงข้าม ระหว่างนี้ก็ต้องรอให้อีกฝ่ายตีกลับมา ไม่มีใครปาลูกบอลใส่คนอื่นรัวๆ เพื่อดูว่าเขาสนใจเล่นด้วยไหม หากคุณกำลังโหยหาคนอื่น คุณอาจรู้สึกกระวนกระวายรอให้เขาตอบกลับ เวลารู้สึกแบบนี้ให้หายใจเข้าลึกๆ ไม่ต้องส่งข้อความไปอีกหากได้ติดต่อไปแล้วก่อนหน้านี้ (ไม่ว่าจะทางอีเมลหรือข้อความ) เมื่อไหร่ก็ตามที่จะส่งอะไรไปอีก ลองคิดให้ดีว่า:
    • เขาอาจจะยังไม่ได้รับข้อความ
    • กำลังยุ่งมาก ตอบไม่ได้ตอนนี้ ถ้าคุณเชื่อใจเพื่อนก็ให้โอกาสเขาหรือเธอหน่อย คิดไปเลยว่ายุ่งอยู่
    • เขายังไม่อยากคุยกับคุณตอนนั้น
  4. อย่าทำตัวน่าอึดอัด.ไม่ว่าจะสนิทแค่ไหน ถ้ารู้สึกอยากอยู่ด้วย ตลอดเวลา ก็เกินไปหน่อย ถึงเขาหรือเธอจะรักคุณแต่ก็คงไม่อยากอยู่กับคุณทั้งวันทั้งคืนแน่นอน ถ้าคิดว่าตีตัวออกห่างเขามันยากไป คุณก็กำลังเล่นกับระเบิดเวลาที่จะทำให้คุณบาดเจ็บ แม้มันจะดูยาก แต่พยายาม บังคับตนเอง ให้ถอยห่างและให้โอกาสเขาหายใจบ้าง ถอยห่างสักสองสามคืน ทำกิจกรรมอย่างอื่นที่ คุณ ชอบ อย่าโทรหรือส่งข้อความไป ความสัมพันธ์ของคุณจะพัฒนา สุภาษิตโบราณกล่าวว่า "ตัวไกล ใจคะนึง" เป็นเรื่องจริงนะ
  5. บางทีก็มีเหตุผลหลายอย่างที่ทำให้เขาเลิกใส่ใจ แต่ที่แน่ๆ การถล่มเขาด้วยการเรียกร้องความสนใจเพิ่มจะ ไม่มีวัน เปลี่ยนใจเขาหรอก ความอุตสาหะไม่ใช่คำตอบ การตีตัวออกห่างอาจเป็นวิธีที่เขาใช้เพื่อถอยโดยไม่ต้องเผชิญหน้าคุณ เชื่อว่าลึกๆ แล้วคุณคงรู้ว่าการไปแหย่เขาเพิ่มจะไม่เปลี่ยนความคิดเขา และถ้าเขาไม่มีมารยาทพอที่จะตอบ ก็อย่าเสียเวลาไปยุ่งด้วยเลย คุณสมควรได้รับสิ่งที่ดีกว่านั้น
    • คิดดูว่าเขาทำตัวเอาแน่เอานอนไม่ได้หรือเปล่า หลายคนไม่เก่งเรื่องกระชับมิตรภาพหรือความสัมพันธ์ บางทีก็ขี้เกียจไม่ก็ลืม ส่วนมากหากอีกฝ่ายไม่ค่อยโต้ตอบไม่ใช่เพราะว่าลืมตอบกลับหรืออะไร แต่เพราะเลือกจะไม่ทำเอง
    • บางทีคนเราก็อยากได้เวลาไปทำอย่างอื่นสักพัก ไม่ได้หมายความว่าเขาอยากยุติความสัมพันธ์กับคุณ
  6. เรารู้ว่าการโดนเมินหรือเย็นชาใส่เป็นการโดนปฏิเสธ ใช่ มันคือการโดนปฏิเสธนั่นแหละ แล้วก็ทำให้คุณเจ็บมากด้วย แต่ถ้าเขาตัดสินใจแล้วว่าจะก้าวต่อไปโดยไม่มีคุณ คุณก็ไม่มีสิทธิ์บังคับให้เขากลับมา พยายามเดินตามทางของตนเองต่อไปให้ดีที่สุดและต่อต้านความรู้สึกอยากไปกดดันเขา การระเบิดอารมณ์หรือพยายามทำให้อีกฝ่ายรู้สึกแย่ทำให้เขาถอยห่างจากเรามากขึ้นอีก
  7. ถ้าเขาไม่ได้ปฏิเสธคุณตรงๆ แต่กลับทำตัวคลุมเครือเหมือนว่าอยากให้ไปต่อ ลองคิดดูว่าอยากจะรู้จักคนๆ นี้จริงหรือเปล่า แค่คุณอยากใช้เวลาร่วมกับเพื่อนหรือแฟนไม่ได้หมายความว่าคุณต้องเป็นคน "ยึดติด" เสมอไป ทุกความสัมพันธ์ต้องการเวลาและความพยายาม บ้าง เพื่อที่จะดำรงอยู่ หากคนๆ นั้นทำให้คุณรู้สึกว่า คุณเรียกร้องมากเกินไปแต่คุณรู้ตัวว่าไม่ได้ขออะไรมากมายเลย ปัญหาอาจอยู่ที่เขาก็ได้ไม่ใช่คุณ
    • ตัดสินใจว่าจะทุ่มเวลาและความสนใจมากแค่ไหนกับความสัมพันธ์และคุณคาดหวังจากอีกฝ่ายขนาดไหน หากคาดหวังอย่างพอเหมาะแต่ยังรู้สึกถูกทอดทิ้งหรือทำให้ผิดหวัง อาจถึงเวลาต้องหาเพื่อนหรือแฟนคนใหม่ที่เห็นคุณค่าและใส่ใจคุณ
    • การสร้างความสมดุลในความสัมพันธ์ไม่ใช่เรื่องง่าย บางครั้งอาจรู้สึกว่าฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งพยายามมากเกินไป การที่คนหนึ่งมีเวลายุ่งแต่อีกคนดูว่างโทรหาหรือส่งข้อความมากกว่าเป็นเรื่องปกติ อย่างไรก็ตามถ้าความสัมพันธ์ของคุณดำเนินไปเช่นนี้เสียส่วนใหญ่และคุณไม่คิดว่ามันจะเปลี่ยนได้ ก็ให้หยุดก่อนที่จะเสียความมั่นใจในตนเองไปหมด
    โฆษณา
วิธีการ 2
วิธีการ 2 ของ 2:

สร้างความมั่นใจในตนเอง

ดาวน์โหลดบทความ
  1. คนที่มีอะไรทำจะไม่มีเวลาโหยหาเรียกร้องอะไรเพราะจะยุ่งกับการทำสิ่งอื่น รู้ไหมว่าการทำกิจกรรมต่างๆ นั้นช่วยให้เราหาเพื่อนและแฟนที่น่าสนใจมากขึ้น ถ้าคุณไม่มีอะไรทำจนมัวแต่หมกมุ่นรอให้อีกฝ่ายโทรหรือส่งข้อความกลับมา ก็อาจเบื่อได้นะ (คนชอบพูดกันว่า ถ้าคุณทำตัวเบื่อ คุณก็เป็นคน น่าเบื่อ ) จะรอไปทำไมกัน
    • เปิดโลกให้กว้าง หางานอาสาสมัครทำ เรียนเต้น ไปวิ่ง เรียนวาดรูปสีน้ำมัน เข้าร่วมกลุ่มต่างๆ พาตัวเองออกไปเปิดหูเปิดตา หาประสบการณ์แล้วก็ทำตัวสนุกซะ ความกังวลจะมลายหายไป พอเขาทักมาอีกที ก็จะเป็นเรื่องน่าตื่นเต้นดีใจ ไม่ใช่โล่งอกเพราะรอมาตลอด
  2. การพุ่งความสนใจไปที่เพื่อนคนเดียวไม่ดีต่อสุขภาพจิตและความมั่นใจในตนเองเลย คุยกับเพื่อนคนอื่นในกลุ่มแทนที่จะทุ่มเทพลังงานทั้งหมดให้คนๆ เดียว รวมกลุ่มไปดูหนังหรือกินข้าวกันแล้วก็อย่าใช้เวลาทั้งหมดกังวลถึง คนนั้น ใช้เวลาที่ดีกับคนหลากหลายบุคลิก คุณมีที่ในชีวิตให้เพื่อนมากกว่าหนึ่งคนอยู่แล้ว
  3. คนโสดหลายคนยังมีความสุขกับชีวิตและใช้ชีวิตได้เต็มที่ พวกเขามีอิสรภาพและความสนุก บางทีอาจมีความสุขพอๆ กับคนมีแฟนเลย ความจริงคือ การสร้างความสัมพันธ์เป็นความต้องการ ไม่ใช่สิ่งจำเป็น ปัญหาเกิดขึ้นก็เพราะเราทำให้มันดูจำเป็นและเชื่อว่าจะอยู่ไม่ได้ถ้าไม่มีแฟน
    • ลองฝึกทำสิ่งนี้ดู: เมื่อรู้สึกโหยหาขึ้นมา ให้ท่องกับตัวเองเลยว่า "ฉันเข้มแข็ง" หรือ "ฉันมีทุกอย่างที่ต้องการแล้ว" นึกซ้ำๆ แบบนี้ในหัวจะทำให้รู้สึกว่าคุณเป็นตัวเองได้โดยไม่ ต้องการ คนอื่นเพื่อมีชีวิตอยู่
    • ฟังเพลงหรือดูหนังเกี่ยวกับอิสรภาพและความเข้มแข็งก็ช่วยได้เช่นกัน
  4. หากคุณมีปัญหาเรียกร้องความสนใจจากคนอื่นก็เป็นไปได้ว่าคุณไม่ค่อยมีความมั่นใจในตนเอง คุณอาจกำลังมองหาคนที่ทำให้คุณรู้สึกดีกับตนเองมากขึ้น แต่ความจริงมีเพียง คุณ เท่านั้นที่ทำได้ คุณไม่ควรเอาความสุขของตนเองไปผูกกับคนอื่น มันไม่ผิดถ้ามีคนทำให้คุณมีความสุขแต่ถ้าพวกเขาเป็นแหล่งความสุข เดียว ของคุณ ก็อาจรู้สึกโกรธหรือเศร้าตอนเขาไม่อยู่ได้แล้วนั่นก็ทำให้อีกฝ่ายรู้สึกถูกเรียกร้องจนเกินไปเพราะคุณทำให้เขารู้สึกผิด โดนบังคับและในที่สุดก็จะเซ็งคุณ
    • ทางเดียวที่จะกำจัดนิสัยเรียกร้องไปได้คือต้องพิสูจน์ตัวเองว่าไม่ต้องการใคร ลองทำสิ่งต่างๆ เองหรือโสดสักพักจนกว่าจะรู้สึกมั่นใจ ทำราวกับว่าคุณ ต้องการ เพื่อนซี้หรือแฟน แต่ไม่ จำเป็นต้องมี พวกเขา
    • อย่าเพิ่งแสวงหาความสัมพันธ์ใหม่จนกว่าจะแน่ใจว่าจะไม่ทำตัวอีหรอบเดิมอีก
  5. เมื่อคุณจัดการใจตัวเองได้แล้ว คุณก็จะต่อสู้กับปัญหาที่เกี่ยวข้องกับคนอื่นได้ อาการเรียกร้องมีรากมาจากความไม่เชื่อใจ บางครั้งก็เป็นเพราะกลัวโดนทิ้ง ถ้าสงสัยความรู้สึกคนอื่นหรือความซื่อสัตย์ของเขาต่อคุณ ให้ถามตัวเองว่าเชื่อใจอีกฝ่ายไหม เขาได้ทำอะไรแปลกๆ หรือเปล่า หรือว่ามีคนในอดีตเคยทำคุณเจ็บมาก่อน คุณเลยคิดว่าคนใหม่จะทำแบบเดียวกัน
    • ถ้าเป็นข้อหลัง เตือนตัวเองว่ามันถูกแล้วเหรอ ถ้าจะตัดสินคนหนึ่งด้วยการกระทำของอีกคน
    • ถ้าคุณใส่ใจคนนี้จริงๆ แล้วรู้สึกเชื่อใจ ก็แสดงให้เห็นเถอะ
  6. เก็บเกี่ยวประโยชน์จากอิสระที่ได้รับอย่างเต็มที่. เป็นคนมั่นใจและไม่เรียกร้องทำให้คุณมีเสน่ห์มากขึ้น เป็นเคล็ดลับเลยล่ะ ยิ่งคุณมีความมั่นใจและไม่เรียกร้องมากเท่าไหร่ คุณก็จะมีเสน่ห์มากเท่านั้น หากคุณเป็นอิสระจริงๆ ก็จะรู้ได้ คุณจะมีความมั่นใจพอที่จะจัดการกับความสัมพันธ์โดยไม่ต้องกังวลมากจนเกินไปว่าอีกฝ่ายคิดยังไง คุณจะให้ค่าการอยู่คนเดียวมากพอๆ กับตอนอยู่กับคนรัก
  7. จิตใจคนเราค่อนข้างตื่นตัวและต้องการอะไรอยู่ตลอดเวลา ดังนั้นเมื่อคุณไม่มีอะไรทำก็มักจะรู้สึกเรียกร้อง เบื่อหรือเซ็ง เป็นการสมควรที่เราจะแทนที่ความต้องการนั้นด้วยกิจกรรมที่ชอบ หากิจกรรมใหม่ๆ ทำ ค้นหาความชอบและความสัมพันธ์ อะไรก็ได้ที่จะช่วยรับมือกับนิสัยช่างเรียกร้องแบบชั่วคราวได้ คนที่ไม่เรียกร้องจะแสดงความตื่นตัวอย่างสร้างสรรค์และเสริมสร้างในด้านต่างๆ ของชีวิตหรือไม่ก็ความต้องการหรือความจำเป็นในชีวิตได้รับการตอบสนองจากใครสักคนแล้ว นั่นคือสาเหตุที่เขาดูไม่เรียกร้องและมีเสน่ห์
    • ยกตัวอย่างเช่น: คนที่มีเพื่อนดีไม่ค่อยมีนิสัยเรียกร้อง โดยเฉพาะเมื่อรู้จักเพื่อนใหม่ เพราะว่าความ 'ต้องการ' ด้านนั้นได้รับการตอบสนองไปแล้ว อีกตัวอย่างหนึ่งคือ คนที่ชอบงานที่ตัวเองทำจะไม่มีนิสัยเรียกร้องเพราะความต้องการด้านนั้นได้รับการตอบสนองเช่นกัน ในกรณีเดียวกัน ถ้าผู้ชายคนหนึ่งมีความสัมพันธ์ที่ดี เขาจะไม่ทำตัวเรียกร้องต่อหน้าผู้หญิงคนอื่นเพราะ 'ความต้องการ' นั้นได้รับการตอบสนองจากแฟนแล้ว ดังนั้นเขาจึงดูไม่ยึดติด ทำให้เขาเป็นคนมีเสน่ห์ในสายตาสาวๆ [1]
    • สิ่งที่เห็นตรงกันจากตัวอย่างข้างต้นคืออะไร ทุกสิ่งเป็นแค่ปัจจัยภายนอกที่ไม่คงทน หากเรากำจัด 'ปัจจัยภายนอก' ไป จิตใจก็จะว้าวุ่น กลับมาเรียกร้องอีก อย่างน้อยก็ในแง่นั้น เช่น ย้ายไปอยู่อีกเมืองหนึ่งให้ห่างจากเพื่อน ตกงาน เลิกกันแฟน ฯลฯ
    • หมายความว่า การเลิกทำกิจกรรม ออกไปกับเพื่อน มีความสัมพันธ์ ฯลฯ เป็นส่วนหนึ่งของเส้นทางไปสู่การเลิกนิสัยเรียกร้อง
    • การสลัดอาการเรียกร้องที่แท้จริงคือเมื่อคุณหยุดค้นหาอะไรมาเติมเต็ม เพราะลึกๆ แล้วคุณรู้ว่า ไม่มีปัจจัยภายนอกใดๆ ที่จะตอบสนองคุณได้ คุณอาจต้องเดินตามความชอบของคุณ ไปเที่ยวกับเพื่อน สร้างความสัมพันธ์ ฯลฯ การที่คุณชอบทำสิ่งเหล่านี้ไม่ได้หมายความว่าคุณต้องแสวงหาการเติมเต็มจากมันเพราะคุณได้พบ 'การเติมเต็มที่แท้จริง' แล้ว คุณได้เปลี่ยนเป็นคนที่เรียบง่ายและถ่อมตน เหมือนมหาสมุทร "สายน้ำทั้งหลายไหลไปยังมหาสมุทรเพราะว่ามหาสมุทรอยู่ต่ำกว่า ความนอบน้อมทำให้มันมีพลัง" เต๋า เต๋อ จิง
    • หากคุณรู้สึกไม่มั่นคง ยินดีด้วย
    โฆษณา

เคล็ดลับ

  • ให้พื้นที่เขาบ้าง เคารพในขอบเขต
  • ออกห่างสักพักแล้วสิ่งต่างๆ ด้วยตนเอง ทำตัวให้ยุ่งเข้าไว้
  • การเรียกร้องความสนใจมากเกินไปทำให้คุณโดนปฏิเสธ ซึ่งจะทำให้คุณขาดความมั่นใจและรู้สึกโดดเดี่ยว
  • ทำอะไรก็ตามที่ทำให้รู้สึกดีมีความสุข อย่าอยู่คนเดียวมากเกินไป ออกไปนอกบ้าน ไปเที่ยวกับเพื่อน ยิ่งคุณมีความสนใจและงานอดิเรกมากเท่าไหร่ คุณก็ยิ่งมีเสน่ห์มากเท่านั้น
  • ถ้าคุณรักเขา แสดงให้รู้ได้แต่อย่ามากจนเกินไปและอย่าบังคับเขา เพราะจะทำให้เขาถอยห่าง
  • ทำตัวให้ชินกับการอยู่คนเดียว เวลาที่คุณมีจะมีค่าขึ้นอีกทั้งคุณยังมองความสัมพันธ์อย่างมีเหตุผลมากขึ้นด้วย
  • ทำตัวฉุนเฉียวเร็วเกินไปไม่น่ารักเลย ตั้งสติและค่อยเป็นค่อยไปดีกว่าเมื่อคิดจะเริ่มความสัมพันธ์
  • คุณกำลังเสียเวลาด้วยการทำตัวยึดติด เรียนรู้ที่จะควบคุมตนเอง เราเชื่อว่าคุณทำได้
  • จงรู้ว่าคนบางคนก็นิสัยไม่ดีเอง ไม่ใช่ความผิดคุณแต่เป็นความผิดของพวกเขาต่างหาก ถ้าเจอแบบนี้ก็หาเพื่อนใหม่เลย
  • คุณอาจเจอเนื้อคู่โดยไม่ทันตั้งตัวเลยล่ะ แค่อดทนและมองโลกในแง่บวก
โฆษณา

คำเตือน

  • อาการเรียกร้องอาจกลายเป็นวงจรอุบาทว์ คุณเรียกร้องความสนใจจนอีกฝ่ายเซ็งแล้วตีตัวออกห่าง คุณรู้สึกแย่กว่าเดิมเลยโหยหาหนักขึ้นอีก มองสถานการณ์ให้แตกแล้วเปลี่ยนแปลงซะ
  • การเป็นแบบนี้จะทำให้คุณซึมเศร้า เป็นที่รู้กันดีว่าอาการซึมเศร้าส่งผลเสียอย่างไร ทางทีดีคือหางานอดิเรกหลายๆ อย่างทำจะได้เบนความสนใจไปที่อื่นบ้าง
  • หากคุณไม่อดทน คุณก็จะนึกถึงแต่เรื่องไม่จริงอยู่นั่น ใจเย็นๆ แล้วพุ่งความสนใจไปยังสิ่งที่ชอบทำดีกว่า
โฆษณา

เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

มีการเข้าถึงหน้านี้ 25,063 ครั้ง

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม

โฆษณา