ดาวน์โหลดบทความ ดาวน์โหลดบทความ

เตาอบจริงๆ แล้วใช้ง่าย ถ้ารู้เคล็ดลับและเทคนิคดีๆ โดยเตาอบแบบใช้แก๊สกับใช้ไฟฟ้านั้น จะทำงานต่างกันนิดหน่อย ขอให้เลือกภาชนะให้เหมาะสมกับประเภทเตาอบที่ใช้ แต่ไม่ว่าจะเป็นแบบแก๊สหรือไฟฟ้า ก็ต้องหมั่นทำความสะอาดบ่อยๆ โดยเฉพาะตอนที่เห็นเศษอาหารสะสมตามพื้นเตาอบและตะแกรงวางถาด

วิธีการ 1
วิธีการ 1 ของ 3:

ใช้เตาอบแก๊ส

ดาวน์โหลดบทความ
  1. ก่อนจะเร่ิมใช้งานเตาอบแก๊สหรือแบบไหนก็ตาม ต้องอ่านวิธีการใช้งานในคู่มือให้เข้าใจซะก่อน จะได้พอรู้วิธีใช้งานพื้นฐานเบื้องต้น ว่าจะเปิดและปิดเครื่องยังไง รวมถึงวิธีเอาตะแกรงออกมา และวิธีใช้งานส่วนอื่นๆ ของเตาอบ
    • เตาอบทุกเครื่องจะมาพร้อมตะแกรงเป็นชั้นๆ ก่อนจะเริ่มอบจริง ต้องลองเอาตะแกรงนี้เข้าและออกเตาอบดูให้คล่องก่อน เพราะไม่ว่าจะทำเมนูอะไร บางทีอาจต้องปรับตะแกรงวางถาดอบ เลยอยากให้คุณรู้วิธีเคลื่อนย้ายตะแกรงซะก่อน
    • ต้องรู้ก่อนว่าเปิดเตาอบและตั้งอุณหภูมิยังไง ปกติจะมีปุ่มหน้าเตาให้หมุน ก็หมุนปุ่มนี้ไปยังอุณหภูมิที่เหมาะสมได้เลย เตาอบบางรุ่นก็มีไฟบอก (ติดและดับ) รวมถึงส่งเสียงเตือนได้ เมื่อถึงอุณหภูมิที่เหมาะสม
  2. เตาอบแบบใช้แก๊สมักอุณหภูมิไม่คงที่ ถึงจะตั้งอุณหภูมิที่ต้องการไว้ แต่ความร้อนมักจู่ๆ เพิ่มสูงหรือลดลงระหว่างอบ ดังนั้นต้องเตรียมเทอร์โมมิเตอร์สำหรับวัดอุณหภูมิเตาอบไว้ หลังจากนั้นก็เพิ่มหรือลดอุณหภูมิเล็กน้อยระหว่างอบ [1]
    • สังเกตไฟของเตาอบ จะได้รู้อุณหภูมิของเตาอบ ถ้าเปิดเตาอบเช็คบ่อยเกินไประหว่างอบ จะทำให้อุณหภูมิตกกะทันหันได้
  3. ความร้อนจะไม่คงที่ถ้าใช้เตาอบแบบแก๊ส บางจุดจะร้อนหรือเย็นกว่าที่อื่นระหว่างอบ เพราะฉะนั้นจะช่วยได้มากถ้าเปิดฝาเตาอบเป็นระยะ แล้วหมุนถาดอบสัก 2 - 3 องศา จะได้อบทั่วถึง [2]
    • ถ้าเป็นถาดเค้ก ขนมปัง และมัฟฟิน ให้กลับถาด 90 องศาหลังอบไปได้ครึ่งทาง ถ้าอบโดยใช้ตะแกรงมากกว่า 1 ชั้น เช่น อบคุกกี้ ให้สลับถาดบนและล่างด้วย
    • ถาดอบก้นลึก ให้หมุนเล็กน้อยหลายๆ รอบระหว่างอบ
  4. แผ่นหิน baking stone ใช้อบขนมและพิซซ่าได้ แต่ก็เอามาใช้คุมอุณหภูมิในเตาอบแบบแก๊สได้ด้วย โดยจะกระจายอุณหภูมิขึ้นข้างบนแบบสม่ำเสมอ ให้เอาไว้ก้นเตาอบหรือตะแกรงล่างสุดตอนยังไม่ได้ใช้ จะอบอะไรก็เอาวางไว้เหนือแผ่นหิน จะได้อบออกมาสุกทั่วถึงขึ้น [3]
  5. ถ้าอยากให้หน้าเป็นสีน้ำตาล ให้เอาของที่อบเลื่อนขึ้น. ถ้าใช้เตาอบแก๊ส บางทีหน้าพายก็ไม่เป็นสีน้ำตาลสวย แก้ได้โดยเลื่อนถาดอบขึ้นไปชั้นบนสุด จะทำให้กลายเป็นสีน้ำตาลเร็วขึ้น [4]
  6. เตาอบแบบแก๊สจะชื้นง่าย ทำให้ขนมไม่ค่อยกรอบ ถ้าอบมันฝรั่งก็อาจจะไม่ค่อยกรอบ แก้ได้โดยเพิ่มอุณหภูมิให้ร้อนกว่าสูตรประมาณ 25 องศา จะได้ขนมหรืออาหารที่ออกมากรอบอร่อยสมใจ [5]
  7. ห้ามใช้ภาชนะที่เป็นโลหะสีเข้มหรือสีดำในเตาอบแก๊ส เพราะความร้อนจะแผ่มาจากด้านล่างของเตา ซึ่งภาชนะโลหะสีเข้มจะดูดซับความร้อนง่าย ทำให้ขนมก้นถาดเป็นสีน้ำตาลหรือไหม้เร็วมาก [6]
    • ให้เปลี่ยนจากภาชนะโลหะสีเข้มหรือดำ เป็นภาชนะแก้ว ซิลิโคน หรือโลหะสีอ่อนแทน
    โฆษณา
วิธีการ 2
วิธีการ 2 ของ 3:

ใช้เตาอบไฟฟ้า

ดาวน์โหลดบทความ
  1. ก่อนจะเร่ิมใช้งานเตาอบไฟฟ้า ต้องอ่านวิธีการใช้งานเบื้องต้นในคู่มือให้เข้าใจซะก่อน ว่าจะเปิดและปิดเครื่องยังไง รวมถึงวิธีเลื่อนตะแกรงขึ้นลงในเตา
    • ต้องรู้วิธีตั้งอุณหภูมิเตาอบ ปกติเตาอบไฟฟ้าจะให้คุณระบุอุณหภูมิได้เลยที่แผงหน้าปัดของเตา และจะมีตัวบอกเวลาเตาอบพร้อม โดยไฟของเตาอบจะติดหรือดับ หรือเป็นเสียงเตือนแทนเมื่อเตาอบร้อน
  2. ถ้าใช้เตาไฟฟ้า ให้วอร์มเตาอบไว้ระหว่างเตรียมวัตถุดิบทำอาหารหรือขนม ถ้าเป็นเตาอบแก๊สจะร้อนไว แต่เตาอบไฟฟ้าต้องใช้เวลากว่าจะถึงอุณหภูมิที่เหมาะสม [7]
    • ให้ใช้เทอร์โมมิเตอร์สำหรับเตาอบ เช็คอุณหภูมิเตาอบไฟฟ้า ว่าได้อุณหภูมิที่เหมาะสมหรือยัง
  3. ถ้าในสูตรไม่ได้เจาะจงว่าต้องวางถาดที่ตะแกรงบนหรือล่าง ให้วางถาดที่ตะแกรงตรงกลางเตาเสมอ เพราะเป็นจุดที่ความร้อนจะคงที่ตลอดการอบ ไม่เพิ่มลดกะทันหัน แบบนี้อาหารหรือขนมที่ได้จะสุกทั่วถึงกว่า [8]
  4. ในเตาอบไฟฟ้าจะค่อนข้างแห้ง หลายครั้งเลยทำให้อบขนมปังหรืออะไรที่ใกล้เคียงแล้วขึ้นฟูช้า ถ้ามีปัญหาขอบพิซซ่าหรือขนมปังแถวไม่ขึ้นฟู ให้เพิ่มไอน้ำเข้าไปในเตาอบไฟฟ้าเล็กน้อย ทำได้โดยเทน้ำร้อน 1 ถ้วยตวงใส่ถาดอบ แล้วเอาวางไว้ก้นเตาอบ หรือแง้มฝาเตาอบไว้ แล้วสเปรย์น้ำเข้าไปเล็กน้อย [9]
  5. จริงๆ แล้วคุณใช้ได้หลากหลายภาชนะเวลาอบอาหารหรือขนมในเตาอบไฟฟ้า แต่ภาชนะแต่ละชนิดก็อบอาหารหรือขนมออกมาต่างกัน ให้เลือกภาชนะที่เหมาะสมกับอาหารหรือขนมที่จะอบดีกว่า [10]
    • ถ้าอยากให้ขอบและก้นอาหารหรือขนมเป็นสีน้ำตาล แนะนำให้เลือกภาชนะโลหะ
    • ถ้าตรงกันข้าม ให้เลือกภาชนะที่ทำจากแก้วหรือซิลิโคนแทน
    โฆษณา
วิธีการ 3
วิธีการ 3 ของ 3:

ล้างเตาอบ

ดาวน์โหลดบทความ
  1. ถ้าเตาอบที่ใช้มีฟังก์ชั่นล้างตัวเอง ก็แนะนำให้ใช้จะดีที่สุด ปกติในคู่มือของเตาอบจะบอกวิธีใช้ฟังก์ชั่นล้างตัวเองไว้ ส่วนใหญ่จะเป็นการที่เตาอบล็อคแล้วล้างตัวเองประมาณ 2 ชั่วโมง พอล้างเตาเสร็จแล้ว คุณก็แค่ใช้ทิชชู่หนาๆ เช็ดเก็บเศษตกค้างเท่านั้น [11]
  2. ถ้าเตาอบที่ใช้ไม่มีฟังก์ชั่นล้างตัวเอง ก็ต้องเป็นคุณที่ล้างเตาอบ เริ่มจากถอดตะแกรงในเตาอบออกมาล้างทำความสะอาด [12]
    • ปูผ้าที่ก้นอ่างอาบน้ำ แล้วเปิดน้ำร้อนให้เต็ม จากนั้นใส่ผงล้างจานสำหรับใช้กับเครื่องล้างจาน 1/2 ถ้วยตวงลงไป แล้วตีน้ำผสม
    • แช่ตะแกรงไว้ประมาณ 4 ชั่วโมง จากนั้นขัดคราบและเศษเกรอะกรังด้วยแปรงขัดแบบไม่ขัดหยาบ
    • ล้างตะแกรงให้สะอาด แล้วผึ่งลมให้แห้ง
  3. ผสมเบคกิ้งโซดากับน้ำให้เข้ากันจนข้นเหนียว ใช้ทาหรือปาดได้ จากนั้นใช้ผ้าหรือฟองน้ำป้ายไปทาเคลือบเตาอบ ทั้งด้านข้าง ด้านล่าง และด้านบนของเตา [13]
  4. ราดน้ำส้มสายชูทับเบคกิ้งโซดาผสมน้ำในขั้นตอนก่อน จากนั้นทิ้งไว้จนมีฟองฟู่เล็กน้อย ปกติก็แทบจะในทันที ขั้นตอนนี้ช่วยให้คราบและเศษสิ่งสกปรกละลายหลุกออกมา เช็ดทำความสะอาดได้ง่าย [14]
    • พอน้ำส้มสายชูทำปฏิกิริยาเป็นฟองฟู่แล้ว ให้ใช้ฟองน้ำขัดทั้งด้านบน ด้านข้าง และด้านล่างของเตาอบ ขัดไปเรื่อยๆ จนหลุดหมดทั้งคราบและเศษสิ่งสกปรก
    • เสร็จแล้วให้ใช้ทิชชู่หนาๆ เช็ดออกให้หมด ทั้งเบคกิ้งโซดา น้ำ และคราบกับเศษอาหารที่หลุดออกมา
  5. พอล้างทำความสะอาดในเตาอบเสร็จแล้ว ให้เอาตะแกรงใส่กลับไปในเตาอบ เท่านี้เตาอบของคุณก็สะอาดพร้อมใช้แล้ว [15]
    โฆษณา

เคล็ดลับ

  • ระหว่างอบอาหาร แนะนำให้เปิดฝาเตาอบแค่ช่วงสั้นๆ เท่านั้น และเปิดเฉพาะเมื่อจำเป็นจริงๆ จะได้ช่วยประหยัดพลังงาน ควบคุมอุณหภูมิให้สม่ำเสมอ
โฆษณา

เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

มีการเข้าถึงหน้านี้ 17,040 ครั้ง

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม

โฆษณา