PDF download ดาวน์โหลดบทความ PDF download ดาวน์โหลดบทความ

ในฐานะเจ้าของ เป้าหมายสำคัญของคุณควรเป็นการดูแลสุขภาพและรักษาความสุขของสัตว์เลี้ยง ทางหนึ่งที่จะทำได้คือการให้อาหารที่สมดุลและดีต่อสุขภาพ หนูตะเภานั้นก็เหมือนกับสัตว์เลี้ยงอื่นๆ ที่ต้องการสารอาหารโดยเฉพาะเพื่อช่วยให้มันดำรงชีวิต หากคุณใช้เวลาเพื่อตรวจสอบให้แน่ใจว่าหนูตะเภาได้กินอาหารที่ดีต่อสุขภาพ คุณก็สามารถมั่นใจได้ว่ามันจะมีความสุขและสุขภาพดี

วิธีการ 1
วิธีการ 1 ของ 2:

เตรียมอาหารที่ดีต่อสุขภาพ

PDF download ดาวน์โหลดบทความ
  1. หนูตะเภารักหญ้าแห้งมาก! มันต้องการหญ้าเพื่อช่วยในการย่อยและสุขภาพฟัน หนูตะเภาควรได้กินหญ้าอย่างไม่จำกัด ซึ่งหมายถึงคุณต้องเติมหญ้าลงในจานอาหารขนาดพอดี 3-5 ครั้งต่อวัน
    • หญ้าทิโมธีนั้นเป็นหญ้าที่ดีที่สุดสำหรับหนูตะเภาโดยทั่วไป พวกมันจะกินและเล่นกับหญ้าอย่างมีความสุข และหญ้าชนิดนี้ยังดีต่อสุขภาพหนูตะเภาทุกช่วงอายุ
    • หญ้าอัลฟัลฟ่ามีแคลเซียมสูง มันจึงเหมาะกับหนูตะเภาที่อายุมาก แต่ต้องให้เป็นขนมบางโอกาสเท่านั้น ถึงแม้หนูตะเภาของคุณจะชอบหญ้าอัลฟัลฟ่ามาก แต่ก็ไม่ควรให้ตามใจ ไม่ควรให้กินเป็นอาหารทุกวัน ให้คิดว่ามันคือขนมหวานหรือขนมกินเล่น อย่างไรก็ดี ควรให้หญ้าอัลฟัลฟ่าแก่หนูตะเภาที่ท้องหรือกำลังให้นมลูก และให้แก่หนูตะเภาเด็กที่อายุน้อยกว่าหกเดือน
    • มองหาหญ้าที่มีสีเขียวและนิ่ม เพราะหญ้าที่มีสีเหลืองและหยาบจริงๆ แล้วคือฟาง
    • สามารถซื้อหญ้าได้ที่ร้านสัตว์เลี้ยง แต่ส่วนใหญ่หญ้าจะถูกเก็บไว้นาน ซึ่งไม่ดีต่อสุขภาพของหนู แต่คุณสามารถสั่งหญ้าได้โดยตรงจากฟาร์มในพื้นที่ หรือสั่งจากสัตวแพทย์ หญ้าเหล่านี้จะมีราคาถูกและดีกว่าฟาง
  2. [1] เป้าหมายคือเพื่อให้มีความหลากหลายในอาหาร ทำให้หนูได้รับสารอาหารที่ครบถ้วน ผักที่ดีต่อหนูตะเภาได้แก่ ผักชี แครอท มะเขือเทศจากต้น แตงกวา ข้าวโพด กะหล่ำปลี บรอคโคลี่สดเล็กน้อย ผักขมเล็กน้อย และฝักถั่ว [2] .
    • ผักชนิดอื่น เช่น หัวบีตรูต ผักชีฝรั่ง พริกไทยจำนวนเล็กน้อย และอาหารสัตว์ชนิดอื่น เช่น ใบโคลเวอร์หรือใบแดนดิไลออน (นำไปล้างก่อน) ควรให้เป็นบางโอกาส [3]
    • อย่าให้ผักที่เน่าหรือเหี่ยวแล้วกับหนูตะเภา อย่าลืมว่า ไม่ควรให้ผักอะไรก็ตามที่มีสภาพแย่ขนาดที่คุณเองก็ไม่อยากกิน
    • ระมัดระวังเรื่องปริมาณแคลเซียมที่ได้รับ การได้รับแคลเซียมมากเกินไปจะส่งผลให้เกิดนิ่ว ฉะนั้นให้ผักจำพวกคะน้าฝรั่ง ผักโขมและผักชีฝรั่งแค่พอสมควร
    • ผักที่มีความเป็นกรด เช่น มะเขือเทศ สามารถทำให้เกิดอาการปวด ขึงควรจำกัดเพียง 1-2 ครั้งต่อสัปดาห์
  3. ควรระวังว่าอาหารอัดเม็ดนั้นมีพลังงานสูง และการกินมากๆ จะทำให้เกิดโรคอ้วนและปัญหาฟัน ควรให้แค่ 1/8 ถึง ¼ แก้วต่อวันเพื่อช่วยเป็นอาหารเสริมอาหารที่กินอยู่แล้ว
    • มองหาอาหารอัดเม็ดที่มีวิตามินซี ซึ่งเป็นสารอาหารสำคัญที่หนูตะเภาต้องการในอาหารของมัน
    • หลีกเลี่ยงการให้มูสลี่ (อาหารผสมประกอบด้วยธัญพืช ถั่วและผลไม้แห้ง) เพราะอาจทำให้หนูเลือกกินอาหาร
    • ให้อาหารเม็ดที่ทำสำหรับหนูตะเภาเท่านั้น อาหารเม็ดสำหรับกระต่ายหรือสัตว์ฟันแทะชนิดอื่นนั้นไม่เหมาะกับหนูตะเภาเพราะมีปริมาณวิตามินและสารอาหารที่ต่างกัน
    โฆษณา
วิธีการ 2
วิธีการ 2 ของ 2:

ให้อาหารหนูตะเภา

PDF download ดาวน์โหลดบทความ
  1. หนูตะเภาเป็นหนึ่งในสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม (เช่นเดียวกับมนุษย์) ที่ไม่สามารถผลิตวิตามินซีเองได้ ดังนั้นมันจึงต้องการวิตามินซีจากอาหาร เป็นปริมาณ 10-30 มิลลิกรัมต่อวัน [4] ผักที่มีวิตามินซีสูงและดีต่อหนูตะเภาได้แก่ ผักใบมากที่มีสีเขียวเข้ม พริกหยวก บรอคโคลี และกระหล่ำดอก
    • หนูตะเภานั้นมีโอกาสเป็นโรคลักปิดลักเปิดได้ง่าย โรคนี้เป็นผลมาจากการมีปริมาณวิตามินซีต่ำ
    • คุณสามารถให้วิตามินซีเสริมแก่หนูตะเภาได้
    • ไม่ควรใส่วิตามินซีลงในน้ำของหนู การใส่วิตามินซีลงไปในน้ำจะทำให้หนูหยุดดื่มน้ำถ้าหากมันไม่ชอบรสชาตินั้น นอกจากนี้ มันยังควบคุมปริมาณวิตามินซีที่หนูตะเภาบริโภคได้ยาก เพราะหนูอาจดื่มน้ำน้อยหรือมากก็ได้
  2. ซึ่งได้แก่ ผลไม้ปริมาณมากที่มีน้ำตาลสูง (ควรให้แต่พอเหมาะเท่านั้น) และผักที่มีแป้ง เช่น มันฝรั่ง [5]
    • ผักที่ไม่ควรให้หนูตะเภาได้แก่ ผักกาดแก้ว ผักร็อคเก็ตสลัด ผักใบสีแดง กระหล่ำดอก หัวบีท มันฝรั่ง และหัวไช่เท้า
    • ให้ผลไม้ในปริมาณน้อย. ผลไม้ไม่เพียงแต่มีน้ำตาลสูง แต่อาจมีแคลเซียมต่ำเมื่อเทียบกับอัตราส่วนฟอสฟอรัส ซึ่งจะนำไปสู่ปัญหากระเพาะปัสสาวะและอาการท้องเสีย [6] ข้อนี้เป็นจริงอย่างมากในผลไม้เช่นลูกเกด
    • อย่าให้ผลไม้จำพวกมะนาวทุกชนิด [7]
    • หนูตะเภาเป็นสัตว์กินพืช ซึ่งหมายความว่าไม่ควรให้เนื้อสัตว์หรือผลิตภัณฑ์นมแก่มัน [8]
  3. มันสิ้นเปลืองเงินและไม่ดีต่อสัตว์เลี้ยงของคุณด้วย หนูตะเภาจะชอบแอปเปิลหั่นชิ้นหรือข้าวโอ๊ตชนิดเกล็ดมากกว่าขนมตามโฆษณาซึ่งเต็มไปด้วยน้ำตาล และขนมจากธรรมชาติยังดีต่อมันมากกว่า [9]
  4. ให้อาหารที่สารอาหารครบถ้วน แทนที่จะให้วิตามินหลากชนิดเสริมหรือก้อนเกลือแร่. การให้อาหารเสริมแบบนี้ไม่จำเป็นเลยหากคุณให้อาหารหนูตะเภาอย่างดี หากคุณไม่จำเป็นต้องให้อาหารเสริมแก่หนูตะเภา ก็ลองให้อาหารเสริมซึ่งอุดมไปด้วยเส้นใยที่สัตวแพทย์แนะนำมา
  5. หนูตะเภานั้นเคี้ยวตามสัญชาติญาณ และมันจะกินมากเท่าที่คุณให้มันตลอดทั้งวัน ควรดูว่าคุณให้อาหารมันมากเท่าไรและควบคุมอาหารให้สารอาหารสมดุล ควรอธิบายเรื่องนี้ให้เด็กที่เลี้ยงหนูตะเภาฟัง เพื่อที่เด็กจะได้ไม่ให้อาหารหนูมากเกินไป
    • เรื่องนี้ใช้สำหรับกับผักเท่านั้น ส่วนหญ้าแห้งนั้นต้องมีติดกรงไว้ ตลอดเวลา
  6. หนูตะเภาจะเคี้ยวทุกอย่างที่มันสามารถเคี้ยวได้ รวมไปถึงจานอาหารด้วย คุณจึงควรเลือกจานเซรามิคหนักๆ ที่ไม่คว่ำง่ายและไม่แตกง่าย [10]
  7. ควรนำอาหารที่หนูไม่กินไปทิ้งทันที ภายในวันเดียวกัน . หนูตะเภาเป็นสัตว์เลือกกิน ดังนั้นการวางอาหารใดๆ ไว้ในกรงของมันนานขึ้นก็ไม่ช่วยให้หนูอยากกินมากขึ้น หากหนูตะเภาเลือกไม่กินมาตลอดทั้งวัน ก็เป็นไปได้ว่ามันจะไม่กินอีกและอาหารจะกลายเป็นของเกะกะในกรง
  8. ปรับเปลี่ยนปริมาณอาหารหากหนูตะเภาน้ำหนักน้อยเกินหรือน้ำหนักมากเกิน. [11] ปริมาณอาหารที่หนูตะเภาต้องการนั้นขึ้นอยู่กับอายุ วิถีชีวิต และสุขภาพโดยรวมของมัน ซึ่งหมายความว่าปริมาณอาหารที่คุณให้หนูตะเภานั้นอาจมีการเปลี่ยนแปลงไปตามเวลาเพื่อให้หนูมีสุขภาพดี
  9. [12] แขวนกระบอกน้ำไว้ในกรง หนูตะเภาจะได้สามารถดื่มน้ำสะอาดได้ตลอดเวลา อย่าปล่อยให้กระบอกน้ำว่างเปล่า หากหนูตะเภาไม่ได้รับน้ำ มันอาจป่วยได้
    • กระบอกน้ำที่ดีคือกระบอกน้ำที่ทำขึ้นเพื่อหนูตะเภาและกระต่าย และมีปากกระบอกเป็นโลหะ
    • หากหนูตะเภาอยู่ในคอกนอกบ้าน ระวังอย่าให้น้ำจับตัวเป็นน้ำแข็งในฤดูหนาว
    • ทำความสะอาดปากกระบอกกระบอกน้ำเป็นประจำด้วยคอตตอนบัด เพื่อไม่ให้มีสิ่งอุดตันและส่งตกค้าง ทำความสะอาดตัวกระบอกน้ำโดยการใส่ข้าวสารและน้ำลงไปเล็กน้อย จากนั้นเขย่าแรงๆ ข้าวสารจะช่วยกำจัดเศษตะไคร่เขียวที่ติดอยู่
  10. หากคุณมีสนามหญ้าที่รู้จักซึ่งไม่มีสารเคมีและไม่มีสัตว์อื่นมาปัสสาวะและอุจจาระ คุณก็สามารถให้หนูตะเภาไปวิ่งเล่นได้ เตรียมพื้นที่นอกบ้านที่มีรั้วกั้นและปล่อยให้หนูตะเภาวิ่งเล่นไปรอบๆ ในขณะที่อากาศอบอุ่น ควรดูให้แน่ใจว่าไม่มีลมพัดแรง และอุณหภูมินั้นอยู่ที่ 15-24 องศาเซลเซียส
    • ควรปล่อยให้หนูวิ่งเล่นนอกบ้านในขณะที่คุณคอยดูอยู่เท่านั้น แม้หนูตะเภาบางตัวอาจอยู่ในคอกนอกบ้าน แต่ก็ไม่ควรปล่อยมันทิ้งไว้ในคอกกลางแจ้งโดยไม่มีคนดูแล เพราะอาจมีสัตว์นักล่ามาพบหรือมันอาจหนีไปได้
    • ควรมีที่มืดให้มันหลบจากดวงอาทิตย์หรือแอบไปหลบหากมีอะไรมาทำให้มันกลัว
    • เปลี่ยนที่วิ่งเล่นไปในแต่ละวัน หนูตะเภาจะทำให้สวนของคุณดูดีและไม่รก มันยังทำให้ดินอุดมสมบูรณ์อีกด้วย
    โฆษณา

เคล็ดลับ

  • หนูตะเภาแต่ละตัวชอบอาหารที่แตกต่างกันไป หากมันไม่ยอมกินอาหารชนิดใดชนิดหนึ่ง ก็แสดงว่ามันไม่ชอบ แต่ก็อย่าเพิ่งท้อใจไป เพราะบางครั้งอาจมันอาจต้องลองกินก่อน 2-3 คำถึงจะรู้ว่าอาหารนั้นอร่อย เรื่องนี้เป็นไปได้อย่างมากหากหนูตะเภาของคุณนั้นยังอายุน้อยหรือคุณเพิ่งนำมันมาจากร้านขายสัตว์เลี้ยงซึ่งมักจะให้อาหารเพียงชนิดเดียวแก่หนู มันเลยยังไม่มีประสาทการชิมรสที่หลากหลาย
โฆษณา

เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

มีการเข้าถึงหน้านี้ 49,875 ครั้ง

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม

โฆษณา