ดาวน์โหลดบทความ
ดาวน์โหลดบทความ
ชีวิตของคนยุคนี้มาไวเคลมไว เครียดง่าย แถมสารเคมีและสารพิษต่างๆ ในชีวิตประจำวันก็เยอะไปหมด กินแต่ฟาสต์ฟู้ด หนีไม่พ้นสิ่งเร้าอย่างกาแฟและเครื่องดื่มคาเฟอีนอื่นๆ ปาร์ตี้สุดเหวี่ยง ไหลไปตามจังหวะชีวิตรวดเร็ว แต่เคยคิดไหมว่าใครต้องรับภาระขับสารพิษพวกนี้ออกจากระบบร่างกายของคุณ? ก็อวัยวะหน้าตาเหมือนถั่ว 2 เมล็ด ที่ซ่อนอยู่ในมุมหนึ่งของช่องท้อง ที่เรียกว่า "ไต" นี่เอง เป็นอวัยวะที่ทำงานตลอดวันตลอดคืน 24 ชั่วโมง คอยกรองสารพิษที่เป็นอันตรายต่อร่างกายออกไป แต่ถ้าสารพิษเยอะจัด ก็เกินที่ไตน้อยๆ จะรับไหว ทำงานได้ช้าลง อาจเกิดนิ่วในไต ติดเชื้อ มีซีสต์ เนื้องอก และสุดท้ายคือไตวายไปเลย บทความวิกิฮาวนี้จะแนะนำวิธีการดีท็อกซ์หรือขับพิษในไตให้คุณเอง
ขั้นตอน
-
ดื่มน้ำเยอะๆ. ขั้นตอนสำคัญในการดีท็อกซ์ไตทั่วไป คือต้องดื่มน้ำเปล่าเยอะๆ ประมาณ 8 แก้วต่อวัน (ถ้าเสียเหงื่อหรือออกกำลังกายเยอะก็ต้องมากกว่านั้น) เพื่อขับสารพิษที่สะสมในร่างกาย ถ้าดื่มน้ำเยอะพอ ฉี่จะใส กลิ่นไม่ฉุนแรง ถ้าฉี่สีเข้มเกินเหลืองอ่อน แปลว่าข้นเกินไป ถ้าฉี่ใสเมื่อไหร่แปลว่าร่างกายขับสารพิษดี [1] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- แนะนำให้ดื่มน้ำเปล่า อย่าดื่มน้ำอัดลม หรือชา/กาแฟ
- คุณอาจจะเคยได้ยินหรือมีคนแนะนำมา ว่าให้ดีท็อกซ์ไตด้วยชาและน้ำผลไม้ต่างๆ แต่ในทางการแพทย์ มีแค่น้ำสะอาดเท่านั้นที่ช่วยล้างไตได้ จริงอยู่ว่าชาและน้ำผลไม้ต่างๆ มีสารอาหารที่มีประโยชน์ เช่น วิตามินและแร่ธาตุ แต่ก็มีคาเฟอีนเข้มข้นหรือมีน้ำตาลสูง เป็นอันตรายต่อไตแทน ยังไงน้ำเปล่าสะอาดๆ ก็ดีที่สุด
-
กินผลไม้เยอะๆ. ผักผลไม้ที่มีโพแทสเซียมสูง ช่วยชำระล้างไตได้ ผลไม้ที่มีรสเปรี้ยวอย่างองุ่น มะนาว ส้ม แคนตาลูป กล้วย กีวี แอพริคอต และพรุน พวกนี้โพแทสเซียมสูงทั้งนั้น [2] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง นมกับโยเกิร์ตก็เป็นแหล่งโพแทสเซียมชั้นดีเช่นกัน
- ให้กินผลไม้พวกนี้ทุกวัน จะได้รักษาระดับเกลือแร่ในเลือด ทำให้ไตทำงานได้ดีมีประสิทธิภาพ
- แนะนำให้ดื่มน้ำองุ่น 1 แก้วทุกวัน จะเช้าหรือบ่ายก็ได้ เพราะช่วยกำจัดกรดยูริกส่วนเกินที่สะสม ที่พบหลังไตกรองของเสีย
- ร่างกายต้องได้รับอาหารโพแทสเซียมสูง ในปริมาณที่ พอดี ถ้าได้รับเยอะเกิน จะเกิดภาวะที่เรียกว่า hyperkalemia (โพแทสเซียมในเลือดสูง) อาจทำให้หัวใจหยุดเต้น เป็นอันตรายต่อชีวิตได้ คนที่ไตมีปัญหา เช่น ไตวาย จะได้รับโพแทสเซียมมากไปไม่ได้ คนปกติที่สุขภาพร่างกายแข็งแรงดี ต้องได้รับโพแทสเซียมไม่เกิน 4.7 กรัมต่อวัน [3] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
-
กินเบอร์รี่ด้วย!. ผลไม้ตระกูลเบอร์รี่ เช่น แครนเบอร์รี่ ช่วยดีท็อกซ์ไตได้ เพราะแครนเบอร์รี่มีสารที่เรียกว่าควินิน (quinine) ที่กลายเป็นกรดฮิพพูริก (hippuric acid) ได้ ผ่านกระบวนการเผาผลาญในตับ กรดฮิพพูริกจะไปกำจัดยูเรียและกรดยูริกส่วนเกินที่สะสมในไต แค่ดื่มน้ำแครนเบอร์รี่วันละ 1 แก้วก็ดีท็อกซ์ไตได้แล้ว [4] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- นอกจากนี้ยังมีงานวิจัยทางวิทยาศาสตร์ที่ชี้ว่าแครนเบอร์รี่ใช้ป้องกันโรคติดเชื้อระบบทางเดินปัสสาวะได้ เพราะมีสรรพคุณต้านแบคทีเรีย [5] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
-
เพิ่มข้าวบาร์เลย์ในมื้ออาหาร. บาร์เลย์ก็เป็นอีกธัญพืชที่ใช้ดีท็อกซ์ได้ดี รวมถึงป้องกันไตเสียหายจากเบาหวานที่คุมไม่ได้ (uncontrolled diabetes) ถึงข้าวบาร์เลย์จะใช้รักษาโรคไม่ได้ แต่ถ้าใช้ร่วมกับวิธีอื่น ไตก็สามารถทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ข้าวบาร์เลย์เป็นโฮลเกรน (ธัญพืชเต็มเมล็ด) แนะนำให้ใช้แป้งข้าวบาร์เลย์แทนแป้งขาวที่ผ่านการขัดสี จะได้มีข้าวบาร์เลย์ในอาหารประจำวัน
- อีกวิธีเพิ่มข้าวบาร์เลย์ในอาหารประจำวัน คือแช่ข้าวบาร์เลย์ 1 กำมือในน้ำ ทิ้งไว้ข้ามคืน แล้วใช้ดื่มตอนตื่นนอน ช่วยดีท็อกซ์และซ่อมแซมสารพิษที่สะสมในไตได้ [6] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- เขาพิสูจน์กันมาแล้วว่าถ้ากินข้าวบาร์เลย์เป็นประจำ จะช่วยรักษาระดับ creatinine ให้สมดุล ถ้าค่านี้สูงเพราะเป็นเบาหวาน ก็จะปรับลงมาให้ปกติ [7] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
-
หลีกเลี่ยงแอลกอฮอล์ คาเฟอีน และช็อคโกแลต. จริงๆ ก็ยังอยู่ระหว่างการวิจัยหาข้อสรุป แต่แนะนำให้หลีกเลี่ยงแอลกอฮอล์ คาเฟอีน ช็อคโกแลต ถั่ว และอาหารแปรรูปต่างๆ [8] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง ที่ให้หลีกเลี่ยงไม่ใช่เพราะเป็นอันตรายต่อไต แต่เพราะส่งผลเสียต่อสุขภาพร่างกายโดยรวม เพราะงั้นไม่ว่าคุณจะตั้งใจดีท็อกซ์หรือเปล่า ก็ควรเพลาๆ เครื่องดื่มและอาหารที่ว่า
- แต่ก็อย่างที่บอก ว่ายังไม่มีงานวิจัยที่แสดงหลักฐานยืนยันชัดเจนถึงอันตรายต่อไต ว่าทำไมควรหลีกเลี่ยงอาหารที่ว่า ก็ต้องศึกษาและติดตามกันต่อไป
-
หลีกเลี่ยงโปรตีน. อาหารชนิดเดียวที่พิสูจน์แล้วว่าเป็นอันตรายต่อไต ก็คืออาหารโปรตีนสูง คุณได้ยินแล้วคงแปลกใจ ที่ว่าเป็นอันตราย ก็เพราะเหลือของเสียหลังย่อยและเผาผลาญโปรตีนเยอะกว่าอาหารประเภทอื่น ของเสียที่ได้ก็คือ creatinine นั่นคือสาเหตุว่าทำไมถึงต้องเช็คระดับ creatinine ของผู้ป่วยโรคไต ถ้าระดับ creatinine สูง แสดงว่าไตมีปัญหาเรื่องการกรองและกำจัดของเสีย ระดับ creatinine ถึงต้องต่ำอยู่เสมอ ถ้าลดโปรตีนก็ช่วยได้แน่นอน [9] X แหล่งข้อมูลที่เชื่อใจได้ Mayo Clinic ไปที่แหล่งข้อมูล
- ข้อมูลอ้างอิงจากแนวทางการปฏิบัติทางคลินิกและแนวทางเวชปฏิบัติของโรคเบาหวานและโรคไตเรื้อรัง ของ KDOQI (National Kidney Foundation Kidney Disease Outcomes Quality Initiative) ชี้ว่า ผู้ใหญ่ที่เป็นโรคไต เช่น โรคไตเรื้อรัง ควรจำกัดปริมาณโปรตีนในแต่ละวัน ให้เหลือแค่ 0.8 กรัมต่อน้ำหนักตัว 1 กก. เช่น ถ้าเป็นผู้ใหญ่เพศชาย น้ำหนัก 60 กก. ต้องได้รับโปรตีนไม่เกิน 48 กรัมต่อวัน เทียบง่ายๆ คือประมาณเนื้อหมู 1 ชิ้นหรือชีส 1 แผ่นเท่านั้น!
- ต้องปรึกษาคุณหมอก่อนปรับเปลี่ยนอาหาร อย่าลืมว่าโปรตีนถือเป็นอาหารหมู่สำคัญ คนที่สุขภาพร่างกายปกติไม่ควรลดหรืองดโปรตีน
-
เลิกบุหรี่ หากคุณเป็นสิงห์นักสูบ การสูบบุหรี่เพิ่มความดันโลหิตซึ่งนำไปสู่ปัญหาไต มันยังมีผลด้านลบอื่นๆ อีก ดังนั้นถ้าคิดจะเปลี่ยนแปลงชีวิตก็ต้องเลิกมันซะโฆษณา
-
ลองใช้แดนดิไลออน. dandelion เป็นสมุนไพรที่ปกติใช้เป็นสารเติมแต่งในอาหาร พบได้ในสลัด น้ำสลัด ชา กาแฟ และช็อคโกแลต เป็นต้น แดนดิไลออนมีโพแทสเซียมสูง และมีสรรพคุณขับปัสสาวะ เลยช่วยกำจัดน้ำส่วนเกินในร่างกาย เหมาะสำหรับคนที่อยากให้ฉี่เยอะขึ้น
- ถ้าจะดีท็อกซ์ด้วยแดนดิไลออน ให้ใช้ dandelion mother tincture ประมาณ 10 - 15 หยด 3 ครั้งต่อวัน จะช่วยดีท็อกซ์ไตได้ โดยใช้ติดต่อกันได้ 6 เดือนโดยไม่อันตรายแต่อย่างใด [10] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
-
ลองใช้ Bear’s grape หรือ uva ursi (สารสกัดจากแบร์เบอร์รี่). เป็นอาหารเสริมจากธรรมชาติที่ใช้ดีท็อกซ์ไตได้ดี ช่วยซ่อมแซมเนื้อเยื่อไตที่อักเสบหรือเสียหาย อันเกิดจากการติดเชื้อหรือนิ่วในไต สารสกัดจากแบร์เบอร์รี่มีไกลโคไซด์ (glycoside) ชื่ออาร์บูติน (arbutin) มีสรรพคุณต้านจุลชีพ เลยช่วยรักษาโรคติดเชื้อระบบทางเดินปัสสาวะได้
- นอกจากนี้ยังมีสรรพคุณคลายกล้ามเนื้อ ลดอาการบวมของกล้ามเนื้อหรือทางเดินปัสสาวะได้ โดยปรับความเป็นกรดในปัสสาวะให้สมดุล ทำให้ไม่แสบร้อนจากการติดเชื้อ
- ปกติคุณกินอาหารเสริมนี้ได้ ปลอดภัยดี แต่ถ้าใช้ยารักษาโรคทางจิตเวชอยู่ เช่น ลิเธียม (lithium) ต้องระวัง นอกจากนี้ uva ursi ยังอาจไปขัดขวางการกำจัด lithium ของร่างกาย ทำให้ระดับ lithium ในเลือดสูงจนเป็นพิษหรืออาจอันตรายถึงชีวิตได้ [11] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง ดังนั้นคนที่มีโรคอื่นร่วมด้วย ควรปรึกษาคุณหมอก่อนเริ่มกิน uva ursi เพื่อดีท็อกซ์ไต
-
ลองใช้โคกกระสุน (gokshura). เป็นอาหารอายุรเวทสำหรับฟื้นฟูสุขภาพไต เหมาะสำหรับคนที่กลับมาติดเชื้อระบบทางเดินปัสสาวะหรือเป็นนิ่วในไตซ้ำ เพราะช่วยเรื่องการไหลของปัสสาวะ และทำให้เยื่อบุทางเดินปัสสาวะเย็นสบายไม่ระคายเคือง เลยบรรเทาอาการเจ็บปวด นอกจากนี้ยังมีสรรพคุณเหมือนยาปฏิชีวนะ ช่วยรักษาอาการติดเชื้อในกระเพาะปัสสาวะ
- ให้กินโคกกระสุน 1 - 2 แคปซูลต่อวัน จะช่วยฟื้นฟูการทำงานของไตได้
-
ลองใช้ยูโรเปียนบาร์เบอร์รี่ (European barberry). เป็นสมุนไพรเก่าแก่ที่คนนิยมใช้ดีท็อกซ์นิ่วในไต แพทย์ทางเลือกอย่าง homeopathy (ใช้หลักหนามยอกต้องเอาหนามบ่ง) จะใช้ mother tincture ที่ได้จากสมุนไพรนี้ (Berberis Vulgaris) มาบรรเทาอาการปวดจากนิ่วในไต (renal colic) ทำให้ไม่ต้องรักษาด้วยการผ่าตัด แต่ทั้งนี้ ขนาดของนิ่วก็ต้องเล็กกว่าเส้นผ่านศูนย์กลางของท่อปัสสาวะด้วย ไม่งั้นจะเป็นอันตรายต่อเยื่อบุท่อปัสสาวะตอนร่างกายขับออกมา [12] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- ผสม mother tincture 10 - 15 หยดกับน้ำเล็กน้อย แล้วใช้ดื่ม 3 ครั้งต่อวัน จะช่วยขับนิ่วในไตได้หมดใน 2 - 3 อาทิตย์
โฆษณา
-
พบแพทย์ถ้าคุณมีอาการโรคไต. ถ้าคิดว่าตนเองมีปัญหาด้านไต จำเป็นต้องเข้ารับการตรวจและรักษาในทันที พบแพทย์ถ้ามีอาการดังต่อไปนี้: [13] X แหล่งข้อมูลที่เชื่อใจได้ Mayo Clinic ไปที่แหล่งข้อมูล
- คลื่นไส้ อาเจียน เบื่ออาหาร
- อ่อนเพลีย หรือนอนหลับยาก
- ปัสสาวะติดขัดหรือปริมาณมีการเปลี่ยนแปลงไป
- เป็นตะคริว
- ตั้งสมาธิได้ยาก
- เท้าหรือข้อเท้าบวม
- คันตามผิวหนัง
- เจ็บหน้าอกหรือหายใจลำบาก
-
พบแพทย์ถ้าคุณปวดไต. อาการปวดไตเป็นสัญญาณของการเป็นนิ่ว การติดเชื้อ หรือโรคแทรกซ้อนรุนแรง [14] X แหล่งข้อมูลที่เชื่อใจได้ Mayo Clinic ไปที่แหล่งข้อมูล ไปพบแพทย์ทันทีถ้าคุณมีอาการปวดหนึบตรงด้านข้างหรือหลังด้านหนึ่งเป็นประจำ ปวดตามตัว อ่อนเพลีย หรือคลื่นไส้อาเจียน บอกหมอด้วยว่าคุณเพิ่งมีการติดเชื้อทางปัสสาวะมาหรือเปล่า [15] X แหล่งข้อมูลที่เชื่อใจได้ Mayo Clinic ไปที่แหล่งข้อมูล
- ไปห้องฉุกเฉินถ้าจู่ๆ ก็ปวดมาก หรือปัสสาวะออกมามีเลือดปน
-
ปรึกษาแพทย์ก่อนเปลี่ยนการรับประทานอาหาร. อาหารสำหรับคนที่เป็นโรคไตนั้นต่างจากคนปกติ ก่อนเปลี่ยนรูปแบบจึงต้องปรึกษาแพทย์เพื่อดูว่าอาหารตัวไหนปลอดภัยและมีประโยชน์กับคุณ [16] X แหล่งข้อมูลที่เชื่อใจได้ Mayo Clinic ไปที่แหล่งข้อมูล
- เช่น คนส่วนใหญ่จะได้รับประโยชน์จากโปแตสเซียมในอาหาร ซึ่งจะช่วยป้องกันการเกิดนิ่วได้ [17] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง แต่ถ้าคุณเป็นโรคไต การทานอาหารที่มีโปแตสเซียมสูงกลับเป็นอันตราย [18] X แหล่งข้อมูลที่เชื่อใจได้ Mayo Clinic ไปที่แหล่งข้อมูล
-
ปรึกษาคุณหมอก่อนลองใช้สมุนไพร. ก่อนใช้ต้องปรึกษาแพทย์ถึงความเสี่ยงด้วย อาหารเสริมบางตัวมีปฏิกิริยากับยาจนเป็นอันตราย และอาจทำให้อาการแย่ลงถ้าเป็นโรคไตอยู่แล้ว [19] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง ปรึกษาแพทย์ก่อนว่ามันปลอดภัยหรือไม่
- ก่อนลองอาหารเสริม ให้รายชื่อยาทั้งหมด วิตามินและอาหารเสริมที่คุณใช้แก่แพทย์ด้วย
- ให้แพทย์ทราบว่าคุณมีปัญหาสุขภาพอื่น เพราะมันอาจมีผลต่ออาหารเสริม
-
ทำตามคำแนะนำของแพทย์. ถ้าคุณได้รับการตรวจว่ามีปัญหาด้านไตหรือมีความเสี่ยง จำเป็นต้องปฏิบัติตัวตามการดูแลของแพทย์ [20] X แหล่งข้อมูลที่เชื่อใจได้ Mayo Clinic ไปที่แหล่งข้อมูล ไปพบแพทย์ตามนัดเพื่อตรวจหรือทดสอบ และอย่าลังเลที่จะไปพบหากอาการเปลี่ยนไป
- รับประทานยาตามที่แพทย์สั่ง และดูแลตนเองตามคำแนะนำ
- แพทย์อาจแนะนำให้เปลี่ยนรูปแบบอาหารและการใช้ชีวิตควบคู่ไปกับการรักษา
โฆษณา
เคล็ดลับ
- 2 เรื่องที่สำคัญในการดีท็อกซ์ไตก็คือ ต้องหลีกเลี่ยงอาหารโปรตีนสูง และดื่มน้ำเยอะๆ
โฆษณา
ข้อมูลอ้างอิง
- ↑ http://www.all4naturalhealth.com/kidney-detox.html
- ↑ http://www.nlm.nih.gov/medlineplus/ency/article/002413.htm
- ↑ http://www.nlm.nih.gov/medlineplus/ency/article/002413.htm
- ↑ http://www.all4naturalhealth.com/kidney-detox.html
- ↑ http://www.webmd.com/vitamins-supplements/ingredientmono-958-CRANBERRY.aspx?activeIngredientId=958&activeIngredientName=CRANBERRY&source=0
- ↑ http://www.kidney-cares.org/creatinine/1485.html
- ↑ http://timesofindia.indiatimes.com/life-style/food/drinks-corner/Barley-water-the-best-beverage/articleshow/9635941.cms
- ↑ http://www.ars.usda.gov/Services/docs.htm?docid=17476
- ↑ https://www.mayoclinic.org/healthy-lifestyle/nutrition-and-healthy-eating/expert-answers/high-protein-diets/faq-20058207
- ↑ http://www.botanical.com/botanical/mgmh/d/dandel08.html#med
- ↑ http://www.webmd.com/vitamins-supplements/ingredientmono-350-UVA%20URSI.aspx?activeIngredientId=350&activeIngredientName=UVA%20URSI
- ↑ http://www.webmd.com/vitamins-supplements/ingredientmono-433-EUROPEAN%20BARBERRY.aspx?activeIngredientId=433&activeIngredientName=EUROPEAN%20BARBERRY
- ↑ https://www.mayoclinic.org/diseases-conditions/chronic-kidney-disease/symptoms-causes/syc-20354521
- ↑ https://www.mayoclinic.org/symptoms/kidney-pain/basics/causes/sym-20050902
- ↑ https://www.mayoclinic.org/symptoms/kidney-pain/basics/when-to-see-doctor/sym-20050902
- ↑ https://www.mayoclinic.org/diseases-conditions/chronic-kidney-disease/diagnosis-treatment/drc-20354527
- ↑ https://ods.od.nih.gov/factsheets/Potassium-HealthProfessional/#h7
- ↑ https://www.mayoclinic.org/diseases-conditions/chronic-kidney-disease/diagnosis-treatment/drc-20354527
- ↑ https://www.kidney.org/atoz/content/herbalsupp
- ↑ https://www.mayoclinic.org/diseases-conditions/chronic-kidney-disease/symptoms-causes/syc-20354521
- The National Kidney and Urologic Diseases Information Clearinghouse. "They Kidneys and How They Work." NIH Publication No. 09–3195 February 2009
- National Kidney Foundation Kidney Disease Outcomes Quality Initiative (NKF KDOQI) Clinical Practice Guidelines and Clinical Practice Recommendations for Diabetes and Chronic Kidney Disease. American Journal of Kidney Diseases. Accessed 23 April 2014.
โฆษณา