ดาวน์โหลดบทความ ดาวน์โหลดบทความ

ใครๆ ก็ชอบเค้กช็อคโกแลต เป็นของหวานที่อร่อยได้ทุกที่ทุกเวลา เป็นของว่างประจำวันก็ได้ เสิร์ฟในงานปาร์ตี้ก็ดี ที่สำคัญคือทำง่ายอย่าบอกใคร! จะเริ่มจากเค้กช็อคโกแลตสูตรดั้งเดิม หรือดัดแปลงเป็นสูตรอื่นๆ ตามความต้องการทางโภชนาการได้ด้วย

ส่วนประกอบ

  • ผงโกโก้แบบไม่แต่งรสหวาน 1 ถ้วยตวง
  • แป้งอเนกประสงค์ 2 ½ ถ้วยตวง
  • น้ำตาล 2 ถ้วยตวง
  • ผงฟู 1 ½ ช้อนชา
  • เบคกิ้งโซดา 1 ช้อนชา
  • เกลือ 1 ช้อนชา
  • ไข่ 3 ฟองใหญ่ ในอุณหภูมิห้อง
  • น้ำมันพืช ¾ ถ้วยตวง
  • ซาวครีม ½ ถ้วยตวง
  • กลิ่นวานิลลา 2 ช้อนชา
  • แป้งอเนกประสงค์ ร่อนแล้ว 2 ถ้วยตวง
  • เกลือ 1 ช้อนชา
  • ผงฟู 1 ช้อนชา
  • เบคกิ้งโซดา 2 ช้อนชา
  • ผงโกโก้แบบไม่แต่งรสหวาน ¾ ถ้วยตวง
  • น้ำตาล 2 ถ้วยตวง
  • กาแฟร้อน 1 ถ้วยตวง
  • น้ำมันคาโนลา 1 ถ้วยตวง
  • บัตเตอร์มิลค์ 1 ถ้วยตวง
  • ไข่ 2 ฟอง
  • กลิ่นวานิลลา 1 ช้อนชา
  • แป้งอเนกประสงค์ ร่อนแล้ว 4 ½ ถ้วยตวง
  • น้ำตาลทรายขาว 3 ถ้วยตวง
  • ผงโกโก้แบบไม่แต่งรสหวาน 1 ถ้วยตวง
  • น้ำมันพืช 1 ถ้วยตวง
  • น้ำ 3 ถ้วยตวง
  • เบคกิ้งโซดา 3 ช้อนชา
  • เกลือ ½ ช้อนชา
  • กลิ่นวานิลลา 3 ช้อนโต๊ะ
  • นมถั่วเหลือง หรือนมอัลมอนด์ ⅔ ถ้วยตวง
  • น้ำส้มสายชูหมักจากแอปเปิ้ล 1 ช้อนชา
  • แป้งอเนกประสงค์ ร่อนแล้ว 1 ¾ ถ้วยตวง
  • น้ำตาลทรายขาว 2 ถ้วยตวง
  • ผงโกโก้แบบไม่แต่งรสหวาน ¾ ถ้วยตวง
  • เบคกิ้งโซดา 2 ช้อนชา
  • ผงฟู 1 ช้อนชา
  • เกลือ 1 ช้อนชา
  • ไข่ 2 ฟอง
  • กาแฟชงเข้มๆ 1 ถ้วยตวง
  • ซาวครีมแบบไม่มีส่วนผสมของนม (dairy-free) ½ ถ้วยตวง
  • น้ำมันพืช ½ ถ้วยตวง
  • กลิ่นวานิลลา 1 ช้อนชา
  • แป้งไร้กลูเตน (gluten-free) 1 ½ ถ้วยตวง
  • ผงโกโก้ ½ ถ้วยตวง
  • น้ำตาล 1 ถ้วยตวง
  • เกลือ ½ ช้อนชา
  • เบคกิ้งโซดา 2 ช้อนชา
  • แซนแทนกัม (xanthan gum) ¾ ช้อนชา
  • น้ำมันปรุงอาหาร 5 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำส้มสายชู 1 ช้อนโต๊ะ
  • กลิ่นวานิลลาแท้ 1 ช้อนชา
  • ไข่ 1 ฟอง
  • น้ำ 1 ถ้วยตวง
  • แป้งอเนกประสงค์ หรือแป้งข้าวเจ้า 1½ ถ้วยตวง
  • น้ำตาลทรายขาว 1 ถ้วยตวง
  • ผงโกโก้ ¼ ถ้วยตวง
  • เบคกิ้งโซดา 1 ช้อนชา
  • เกลือ ½ ช้อนชา
  • น้ำมันพืช ⅓ ถ้วยตวง
  • กลิ่นวานิลลา 1 ช้อนชา
  • น้ำส้มสายชูกลั่นขาว 1 ช้อนชา
  • น้ำ 1 ถ้วยตวง
วิธีการ 1
วิธีการ 1 ของ 6:

เค้กช็อคโกแลตสูตรดั้งเดิม

ดาวน์โหลดบทความ
  1. ส่วนผสมแห้งที่ว่า ก็คือแป้ง ผงโกโก้ ผงฟู เบคกิ้งโซดา และเกลือนั่นเอง ให้เทส่วนผสมแห้งทั้งหมดรวมกันในที่ร่อนแป้ง จากนั้นร่อนใส่ชามไปเรื่อยๆ เพื่อไม่ให้ส่วนผสมจับตัวกันเป็นก้อน
  2. ส่วนผสมเหลวที่ว่า ก็คือไข่ น้ำมันพืช ซาวครีม และกลิ่นวานิลลา บางคนก็ถนัดใส่ไปทีละวัตถุดิบ แต่บางคนว่าตีส่วนผสมเหลวทั้งหมดรวมกันในชามใบที่ 2 แล้วค่อยนำไปผสมกับวัตถุดิบแห้งจะสะดวกกว่า
  3. ทาน้ำมันและโรยแป้งในแม่พิมพ์เค้กกลมขนาด 8 นิ้ว (20 เซนติเมตร). ค่อยๆ เทแป้งเค้กที่ผสมแล้วลงไป ต้องเทลงไปในแม่พิมพ์ให้ครบทั้งหมด อย่าให้กระเด็น
  4. อบเค้กที่อุณหภูมิ 350 °F (ประมาณ 175 °C) เป็นเวลา 30 นาที .
  5. หลังจากนี้จะแต่งหน้าเค้กด้วยครีมหรือท้อปปิ้งอื่นๆ ด้วยก็ได้ เท่านี้เค้กก็พร้อมเสิร์ฟ!
    โฆษณา
วิธีการ 2
วิธีการ 2 ของ 6:

เค้กช็อคโกแลตสูตรเนื้อนุ่มชุ่มฉ่ำ

ดาวน์โหลดบทความ
  1. วอร์มเตาอบที่อุณหภูมิ 325°F หรือประมาณ 160°C และทาน้ำมันกับโรยแป้งในพิมพ์เค้กกลมขนาด 9 นิ้ว (22 ซม.) 2 อัน
  2. ให้ผสมแป้ง เกลือ ผงฟู เบคกิ้งโซดา ผงโกโก้ และน้ำตาลเข้าด้วยกันในชามใบใหญ่ จนส่วนผสมทั้งหมดเข้ากันดี
  3. เทกาแฟร้อน น้ำมันคาโนล่า และบัตเตอร์มิลค์ใส่ชามที่มีส่วนผสมแห้ง จากนั้นใช้ที่ตีไข่หรือเครื่องปั่นมือถือผสมจนเข้ากัน ได้เป็นแป้งเค้กสีน้ำตาลอ่อน
  4. ตอกไข่ลงไป แล้วใส่กลิ่นวานิลลาในแป้งเค้กที่ผสมแล้ว จากนั้นตีผสมอีกทีจนเนียน ไม่เหลือเศษแป้งแห้งๆ ได้แป้งเค้กช็อคโกแลตข้นๆหน่อย
  5. เทแป้งเค้กลงในแม่พิมพ์ทั้ง 2 อัน โดยใช้ไม้พายยางช่วยขูด โดยเฉพาะอย่าให้เหลือแป้งเค้กติดอยู่ตามข้างชาม
  6. เอาแม่พิมพ์ทั้ง 2 อันที่เทแป้งเค้กใส่แล้ว เข้าไปวางในเตาอบ จากนั้นอบเค้กประมาณ 1 ชม. จนเค้กขึ้นฟู นุ่มน่าทาน ให้เช็คว่าเค้กสุกพร้อมทานหรือยัง โดยใช้มีดเล็กๆ จิ้มเข้าไปตรงกลาง ถ้ามีดออกมาสะอาดเอี่ยม แสดงว่าเค้กสุกเต็มที่แล้ว
  7. เอาแม่พิมพ์ทั้ง 2 อันออกมาจากเตาอบ แล้วพักเค้กไว้บนตะแกรงให้เย็นตัวลง ประมาณ 10 นาที ให้พักเค้กไว้แบบนั้นจนเย็นพอจับได้
  8. เอาเค้ก 2 ก้อนซ้อนกัน จะได้เค้ก 2 ชั้น จากนั้นแต่งหน้าด้วยครีมเค้กช็อคโกแลตสูตรบัตเตอร์ครีม และ/หรือตกแต่งด้วยท้อปปิ้งตามชอบ เช่น เบอร์รี่ ไอซิ่ง มะพร้าวเกล็ด และเกล็ดน้ำตาลสีๆ
  9. หั่นเค้กช็อคโกแลตเสิร์ฟเป็นชิ้นในจาน แล้วอร่อยกันได้เลย!
    โฆษณา
วิธีการ 3
วิธีการ 3 ของ 6:

เค้กช็อคโกแลตสูตรไม่ใส่ไข่

ดาวน์โหลดบทความ
  1. วอร์มเตาที่อุณหภูมิ 350°F หรือประมาณ 175°C จากนั้นทาน้ำมันและโรยแป้งในแม่พิมพ์เค้กขนาด 9 x 13 นิ้ว (22 x 33 ซม.)
  2. ร่อนแป้ง ผงโกโก้แบบไม่แต่งรสหวาน และเบคกิ้งโซดารวมกันในชามใบใหญ่ จากนั้นผสมด้วยที่ตีไข่จนเข้ากัน
  3. ค่อยๆ เทน้ำตาลลงไปในส่วนผสมแห้ง แล้วผสมด้วยที่ตีไข่อีกรอบ จนน้ำตาลเข้ากันกับส่วนผสมแห้งทั้งหมด
  4. ใส่น้ำมันพืช น้ำเปล่า และกลิ่นวานิลลาลงไปในส่วนผสมแห้ง จากนั้นตีผสมด้วยที่ตีไข่หรือเครื่องปั่นมือถือ จนได้แป้งเค้กข้นๆ ไม่เหลือผงแป้ง
  5. เทแป้งเค้กลงในแม่พิมพ์ทั้ง 2 อัน โดยใช้ไม้พายยางช่วยขูด โดยเฉพาะอย่าให้เหลือแป้งเค้กติดอยู่ตามข้างชาม
  6. เอาแม่พิมพ์เค้กเข้าเตาอบ อบเค้กประมาณ 1 ชม. จนเค้กขึ้นฟู นุ่มน่าทาน
  7. เอาแม่พิมพ์ออกมาจากเตาอบ แล้วพักเค้กไว้บนตะแกรงให้เย็นตัวลง ประมาณ 10 นาที ให้พักเค้กไว้แบบนั้นจนเย็นพอจับได้
  8. แต่งหน้าด้วยครีมเค้กช็อคโกแลตสูตรบัตเตอร์ครีม และ/หรือตกแต่งด้วยท้อปปิ้งตามชอบ เช่น เบอร์รี่ ไอซิ่ง มะพร้าวเกล็ด และเกล็ดน้ำตาลสีๆ
  9. หั่นเค้กช็อคโกแลตเสิร์ฟเป็นชิ้นในจาน แล้วอร่อยกันได้เลย!
    โฆษณา
วิธีการ 4
วิธีการ 4 ของ 6:

เค้กช็อคโกแลตสูตรไม่ใส่นม

ดาวน์โหลดบทความ
  1. วอร์มเตาอบที่อุณหภูมิ 325°F หรือประมาณ 160°C และทาน้ำมันกับโรยแป้งในพิมพ์เค้กกลมขนาด 9 นิ้ว (22 ซม.) 2 อัน
  2. เทแป้ง น้ำตาล ผงโกโก้ เบคกิ้งโซดา ผงฟู และเกลือเข้าด้วยกันในชามใบใหญ่ ผสมด้วยที่ตีไข่ แล้วทำหลุมตรงกลางชาม
  3. ใส่นมถั่วเหลืองหรือนมอัลมอนด์ น้ำส้มสายชู ไข่ กาแฟที่ชงแล้ว และซาวครีมแบบไม่มีนมผสม ลงไปในหลุมกลางชาม จากนั้นใช้เครื่องผสมประมาณ 2 นาที จนแป้งเค้กข้นเนียน ไม่เหลือผงแป้ง
  4. เทแป้งเค้กลงในแม่พิมพ์ทั้ง 2 อัน โดยใช้ไม้พายยางช่วยขูด โดยเฉพาะอย่าให้เหลือแป้งเค้กติดอยู่ตามข้างชาม
  5. เอาแม่พิมพ์เค้กเข้าเตาอบ อบเค้กประมาณ 30 - 40 นาที จนเค้กขึ้นฟู นุ่มน่าทาน
  6. เอาแม่พิมพ์ออกมาจากเตาอบ แล้วพักเค้กไว้บนตะแกรงให้เย็นตัวลง ประมาณ 20 นาที ให้พักเค้กไว้แบบนั้นจนเย็นพอจับได้
  7. เอาเค้ก 2 ก้อนซ้อนกัน จะได้เค้กช็อคโกแลต 2 ชั้น จากนั้นแต่งหน้าด้วยครีมเค้กช็อคโกแลตสูตรบัตเตอร์ครีม และ/หรือตกแต่งด้วยท้อปปิ้งตามชอบ เช่น เบอร์รี่ ไอซิ่ง มะพร้าวเกล็ด และเกล็ดน้ำตาลสีๆ
  8. หั่นเค้กช็อคโกแลตเสิร์ฟเป็นชิ้นในจาน แล้วอร่อยกันได้เลย!
    โฆษณา
วิธีการ 5
วิธีการ 5 ของ 6:

เค้กช็อคโกแลตสูตรกลูเตนฟรี

ดาวน์โหลดบทความ
  1. วอร์มเตาอบที่อุณหภูมิ 350°F หรือประมาณ 175°C และทาน้ำมันกับโรยแป้งในพิมพ์เค้กสี่เหลี่ยมขนาด 9 นิ้ว (22 ซม.)
  2. ใส่แป้งกลูเตนฟรี ผงโกโก้ น้ำตาล เกลือ และ xanthan gum ลงในชามใบใหญ่ จากนั้นคนผสมด้วยที่ตีไข่จนเข้ากัน
  3. เทน้ำมันที่ใช้ปรุงอาหาร น้ำส้มสายชู กลิ่นวานิลลา น้ำ และไข่ลงไป จากนั้นผสมด้วยที่ตีไข่หรือเครื่องปั่นมือถือ จนได้แป้งเค้กข้นๆ ไม่เหลือผงแป้ง
  4. เทแป้งเค้กลงในแม่พิมพ์ทั้ง 2 อัน โดยใช้ไม้พายยางช่วยขูด โดยเฉพาะอย่าให้เหลือแป้งเค้กติดอยู่ตามข้างชาม
  5. เอาแม่พิมพ์เค้กเข้าเตาอบ อบเค้กประมาณ 30 - 35 นาที จนเค้กขึ้นฟู นุ่มน่าทาน
  6. เอาแม่พิมพ์ออกมาจากเตาอบ แล้วพักเค้กไว้บนตะแกรงให้เย็นตัวลง ประมาณ 10 นาที ให้พักเค้กไว้แบบนั้นจนเย็นพอจับได้
  7. แต่งหน้าด้วยครีมเค้กช็อคโกแลตสูตรบัตเตอร์ครีม และ/หรือตกแต่งด้วยท้อปปิ้งตามชอบ เช่น เบอร์รี่ ไอซิ่ง มะพร้าวเกล็ด และเกล็ดน้ำตาลสีๆ
  8. หั่นเค้กช็อคโกแลตเสิร์ฟเป็นชิ้นในจาน แล้วอร่อยกันได้เลย!
    โฆษณา
วิธีการ 6
วิธีการ 6 ของ 6:

เค้กช็อคโกแลตสูตรวีแกน

ดาวน์โหลดบทความ
  1. วอร์มเตาอบที่อุณหภูมิ 350°F หรือประมาณ 175°C และทาน้ำมันกับโรยแป้งในพิมพ์ขนมปังขนาด 9 x 5 นิ้ว (22 x 13 ซม.)
  2. ใส่แป้ง น้ำตาล ผงโกโก้ เบคกิ้งโซดา และเกลือในชามใบใหญ่ จากนั้นคนผสมด้วยที่ตีไข่จนส่วนผสมแห้งทั้งหมดเข้ากันดี
  3. เทน้ำมันพืช กลิ่นวานิลลา น้ำส้มสายชูกลั่นขาว และน้ำใส่ลงไป จากนั้นคนผสมด้วยที่ตีไข่หรือเครื่องปั่นมือถือ จนแป้งเค้กข้นเนียน ไม่เหลือผงแป้ง
  4. เทแป้งเค้กลงในแม่พิมพ์ทั้ง 2 อัน โดยใช้ไม้พายยางช่วยขูด โดยเฉพาะอย่าให้เหลือแป้งเค้กติดอยู่ตามข้างชาม
  5. เอาแม่พิมพ์เค้กทั้ง 2 อันเข้าเตาอบ อบเค้กประมาณ 45 นาที จนเค้กขึ้นฟู นุ่มน่าทาน
  6. เอาแม่พิมพ์ทั้ง 2 อันออกมาจากเตาอบ แล้วพักเค้กไว้บนตะแกรงให้เย็นตัวลง ประมาณ 20 นาที ให้พักเค้กไว้แบบนั้นจนเย็นพอจับได้
  7. เอาเค้ก 2 ก้อนซ้อนกัน จะได้เค้กช็อคโกแลต 2 ชั้น จากนั้นแต่งหน้าด้วยครีมเค้กช็อคโกแลตสูตรบัตเตอร์ครีม และ/หรือตกแต่งด้วยท้อปปิ้งตามชอบ เช่น เบอร์รี่ ไอซิ่ง มะพร้าวเกล็ด และเกล็ดน้ำตาลสีๆ
  8. หั่นเค้กช็อคโกแลตเสิร์ฟเป็นชิ้นในจาน แล้วอร่อยกันได้เลย!
    โฆษณา

ไอเดียดัดแปลง

  • ทำเค้กช็อคโกแลตให้แป้งออกมาเบาๆ หยุ่นๆ ก็เป็นของว่างที่ไม่หนักท้องดี
  • ถ้ากลัวอบเค้กจะยากไป ลองทำเค้กบิสกิตช็อคโกแลตดู

เคล็ดลับ

  • ถ้าเค้กก้อนใหญ่หรือเล็กกว่า ก็เพิ่มหรือลดปริมาณวัตถุดิบได้ตามความเหมาะสม
  • ลองแต่งหน้าเค้กด้วยท้อปปิ้งต่างๆ เช่น ช็อคโกแลตชิป ดอกไม้ครีม ลูกปัดแบบกินได้ เป็นต้น
  • ถ้าใช้ไข่ด้วย ให้ตีไข่แดงผสมไปก่อน แล้วค่อยตีไข่ขาวมาผสมเพิ่มในชาม
  • อย่ารีบตัดเค้กหรือยกออกจากถาดอบ จนกว่าจะพักไว้ให้เย็นตัวลง 5 นาทีขึ้นไป ถ้าทิ้งไว้นานๆ จนแน่ใจว่าเย็นได้จะดีที่สุด อนุโลมให้ตัดเค้กหรือย้ายจากถาดอบก่อนจะเย็น ได้เฉพาะกรณีที่ต้องรีบใช้หรือต้องการเสิร์ฟเค้กทั้งยังอุ่นๆ
  • ถ้าอยากได้เค้กเนื้อนุ่ม ให้เพิ่มผงฟู
  • ถ้าอยากเช็คว่าอบเค้กสุกดีหรือยัง ให้เอาไม้จิ้มฟันปักลงไปตรงกลาง ถ้าเนื้อเค้กที่ติดมาแห้งสนิท แสดงว่าอบเสร็จแล้ว [1]
  • โรยแป้งที่ก้นแม่พิมพ์ จะช่วยให้ยกเค้กออกได้ง่ายขึ้น
โฆษณา

เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

มีการเข้าถึงหน้านี้ 22,092 ครั้ง

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม

โฆษณา