ดาวน์โหลดบทความ ดาวน์โหลดบทความ

ในขณะที่ตามปกตินั้น เชฟจะเรียกสิ่งที่ใช้ละเลงบนเค้กซึ่งมีส่วนผสมหลักเป็นน้ำตาลว่าไอซิ่ง และเรียกสิ่งที่มีส่วนผสมหลักเป็นครีมหรือเนยว่า ฟรอสติ้ง แต่ผู้ที่ไม่ใช่มืออาชีพจะใช้ทั้งสองชื่อเรียกรวมๆ กันไปหมด เมนูข้างล่างนี้จะเปิดทางให้คุณทำทั้งสองชนิด แต่ไม่ว่าคุณจะตัดสินใจเรียกผลลัพธ์ที่ได้ว่าอะไร ก็ล้วนแต่มีรสชาติอร่อย จงทดลองใช้ส่วนผสมต่างๆ กันสำหรับไอซิ่งและเค้ก หรืออ่านตอนเริ่มต้นของแต่ละวิธีสำหรับคำแนะนำเรื่องการจับคู่กัน

หากคุณกำลังมองหาไอซิ่งที่จะใช้สร้างสรรค์ลวดลายซับซ้อนในการแต่งหน้าเค้ก ให้มองหาคำว่า "รอแยล ไอซิ่ง" ในคำแนะนำแทน

ส่วนประกอบ

บัตเตอร์ครีม ไอซิ่ง:

  • เนย 1 ถ้วยตวง (240 มิลลิลิตร) (หรือดูในคำแนะนำสำหรับสิ่งที่ใช้แทนกันได้สำหรับผู้กินมังสวิรัติ)
  • น้ำตาลทรายป่น 3 ถ้วยตวง (720 มิลลิลิตร)
  • วิปปิง ครีม 2 ช้อนโต๊ะ (30 มิลลิลิตร)
  • สารสกัดธรรมชาติวานิลลา หรืออัลมอลด์ 1 ช้อนชา (5 มิลลิลิตร)
  • สารปรุงรสเพิ่มเติมตามใจชอบ (ดูเมนูสำหรับข้อเสนอแนะต่างๆ)

ชูการ์ ไอซิ่ง:

  • ~น้ำตาลทรายป่น 2 ถ้วยตวง (480 มิลลิลิตร)
  • ~นมหรือน้ำผลไม้ 4–12 ช้อนโต๊ะ (60–180 มิลลิลิตร)
  • ~สารสกัดธรรมชาติวานิลลาหรืออัลมอนด์ 1 ช้อนชา (5 มิลลิลิตร)

ครีมชีส ไอซิ่ง:

  • เนยหรือเนยเทียม 0.5 ถ้วยตวง (120 มิลลิลิตร)
  • ครีมชีส 1 ถ้วยตวง (240 มิลลิลิตร)
  • น้ำตาลทรายป่น 2 ถ้วยตวง (480 มิลลิลิตร)
  • สารสกัดธรรมชาติวานิลลา 1 ช้อนชา (5 มิลลิลิตร)
วิธีการ 1
วิธีการ 1 ของ 3:

ทำชูการ์ ไอซิ่งแบบง่ายๆ

ดาวน์โหลดบทความ
  1. ทำตามสูตรง่ายๆ นี้เพื่อทำแป้งเปียกมันวาวรสหวาน. คุณสามารถทำเมนูนี้ได้ภายในสิบนาที ถึงคุณจะไม่มีถ้วยตวง : ทำได้ง่ายขนาดนั้นเลยทีเดียว ผลลัพธ์ที่ได้จะหวานกว่า และเหลวกว่าฟรอสติ้งส่วนใหญ่ ดังนั้น จึงใช้ได้เป็นอย่างดียิ่งในการทำหน้าเค้ก หรือใส่ตรงกลางเค้กที่แบ่งเป็นชั้นๆ จับคู่ได้ดีมากเป็นพิเศษกับเค้กรสผลไม้เนื้อบางเบา แต่อาจจะถูกแซงหน้าด้วยเค้กเนื้อหนาและเข้มข้น อย่างเค้กช็อกโกแลต
  2. คุณอาจจะตวงน้ำตาลทรายป่น 2 ถ้วยตวง หรือทำง่ายๆ แค่เทจำนวนที่คุณคิดว่าเหมาะสมกับความต้องการ ง่ายเป็นพิเศษที่จะปรับสูตรนี้หรือทำเพิ่ม ดังนั้น จึงไม่ต้องรู้สึกเครียดที่จะต้องวัดปริมาณให้เท่ากันเป๊ะ [1]
    • น้ำตาลสำหรับทำลูกกวาด หรือน้ำตาลไอซิ่ง เป็นเพียงชื่อเรียกอื่นๆ ของน้ำตาลทรายป่น
  3. คุณอาจใช้นม น้ำมะนาว หรือน้ำผลไม้อื่นๆ เทลงไป โดยขึ้นอยู่กับรสชาติที่ต้องการ ตวงของเหลวดังกล่าวใส่ลงไปประมาณ 4 ช้อนโต๊ะ หรือทำง่ายๆ เพียงเทใส่ลงไปจำนวนเล็กน้อย น้อยกว่าจำนวนน้ำตาลที่ใช้มาก จะดีกว่าที่จะเทลงไปจำนวนน้อยเกินไป แล้วค่อยเทเพิ่มในภายหลัง แทนที่จะเทจำนวนมากเกินไป จนต้องเติมน้ำตาลมากกว่าที่คุณตั้งใจจะใช้
    • หากเค้กของคุณใส่ผลไม้ ให้พิจารณาเรื่องเติมน้ำผลไม้ที่ทำจากผลไม้ชนิดนั้นด้วย
    • พิจารณาเลือกใช้น้ำผลไม้โดยยึดหลักว่าต้องการให้เค้กของคุณมีสีอะไร
  4. คนเบาๆ ในตอนแรก ไม่อย่างนั้น น้ำตาลอาจจะไหลย้อยเลยขอบชาม ทำให้เลอะเทอะ จงคนจนกระทั่งเริ่มข้นเป็นแป้งเปียก หรือจนกระทั่งน้ำตาลดูดซับของเหลวทั้งหมด
  5. คนของเหลวเพิ่มในแต่ละครั้ง จนไม่เห็นน้ำตาลแห้งเหลืออยู่. ค่อยๆ เติมนมหรือน้ำผลไม้ทีละเล็กทีละน้อย แล้วคนให้เข้ากัน เมื่อส่วนผสมเหนียวข้นเท่ากัน โดยไม่มีน้ำตาลแห้งอยู่บนแป้งเปียก ก็ใช้ได้แล้ว คุณอาจเติมของเหลวเล็กน้อย เพื่อให้ส่วนผสมอ่อนลง หรือเติมรสชาติของของเหลวให้เข้มขึ้น แต่จะไม่ทำก็ได้ อย่างไรก็ตาม หากส่วนผสมไหลย้อย ให้คนน้ำตาลเพิ่มขึ้นเล็กน้อยเพื่อชดเชย
  6. ปิดท้ายด้วยการผสมสารสกัดธรรมชาติวานิลลาหรืออัลมอนด์จำนวนเล็กน้อย. เติมสองสามหยดอย่างระมัดระวังลงในไอซิ่ง หรือตักใส่ 1 ช้อนชา (5 มิลลิลิตร) แล้วคนให้ทั่ว ตอนนี้ คุณพร้อมแล้วที่จะใช้มีดหรือช้อนละเลงไอซิ่งลงบนเค้ก!
    โฆษณา
วิธีการ 2
วิธีการ 2 ของ 3:

ทำบัตเตอร์ครีม ไอซิ่งแบบง่ายๆ

ดาวน์โหลดบทความ
  1. ใช้ตระกร้อมือตีเร็วๆ เพื่อให้ได้แป้งเปียกรสหวานและเข้มข้น. ซึ่งเป็นไอซิ่งชนิดที่หลายคนวาดภาพไว้ ยามคิดถึงเค้กวันเกิดแบบคลาสสิค หรือการแต่งหน้าคัพเค้ก คุณทำได้โดยใช้เวลาน้อยกว่า 20 นาที ก่อนจะใช้ละเลงด้านบนและด้านข้างของเค้กเพื่อเป็นตัวเคลือบที่สวยและอร่อยด้วย
  2. วิธีเร็วสุดที่จะละลายเนยคือใส่ในจานที่ใช้ได้อย่างปลอดภัยในไมโครเวฟ แล้วใส่ในไมโครเวฟ 10–30 วินาที หากไม่มีไมโครเวฟ ก็แค่ตัดเป็นชิ้นเล็กๆ แล้วทิ้งไว้บนเคาน์เตอร์ ไม่ว่าจะใช้วิธีใด ให้ทำจนเนยมีอุณหภูมิห้อง และค่อนข้างนิ่ม แต่ไม่ได้ละลาย
    • หากจะเสิร์ฟเค้กให้กับผู้ที่เป็นมังสวิรัติ ให้เปลี่ยนเนยกับวิปครีม เป็นน้ำมันพืชกับกลิ่นเข้มข้น เช่น เนยโกโก้ หรือน้ำมันมะพร้าว ส่วนผสมเหล่านี้มีแนมโน้มจะละลายและแข็งตัวอย่างรวดเร็วมากขึ้น ซึ่งอาจทำให้ใช้งานได้ยากขึ้น [2] ตัวเลือกที่ง่ายกว่าคือเนยเทียม ต้องพิจารณาปรับปรุงรสชาติให้ดีขึ้น โดยเติมช็อกโกแลตเหลวแบบมังสวิรัติจำนวนเล็กน้อย หรือเมเปิล ไซรัป หรือส่วนผสมที่มีรสชาติจัดจ้านชนิดอื่นๆ
  3. ใส่เนยที่ละลายแล้วลงในชามใบใหญ่ แล้วค่อยๆ เติมน้ำตาลทรายป่น 3 ถ้วยตวง (720 มิลลิลิตร) ในระหว่างการผสม ซึ่งจะทำได้เร็วมากขึ้นหากใช้เครื่องผสมอาหารไฟฟ้า แต่ก็สามารถทำด้วยมือได้ภายในเวลาเพียงไม่กี่นาที ตราบใดที่เนยยังนุ่มอยู่ หากใช้เครื่องผสมอาหารไฟฟ้า ให้เริ่มจากความเร็วต่ำๆ ก่อนจะเพิ่มเป็นความเร็วปานกลาง เมื่อไม่มีน้ำตาลแห้งเหลืออยู่ [3]
  4. คุณสามารถข้ามขั้นตอนนี้ไปโดยสิ้นเชิง และยังคงได้ผลผลิตเป็นบัตเตอร์ ครีม ไอซิ่ง อเนกประสงค์รสชาติอร่อย อย่างไรก็ตาม หากต้องการ คุณอาจเปลี่ยนแปลงรสชาติโดยเติมรสชาติอื่นลงไปจำนวนเล็กน้อย พิจารณาเติมผิวเลมอนขูด 1 ช้อนชา (5 มิลลิลิตร) เพื่อให้เข้าคู่กับเค้กไข่ขาว หรือเติมช็อกโกแลตละลายชนิดไม่หวานจำนวน 1 ออนซ์ (30 มิลลิลิตร) เพื่อให้ไอซิ่งเข้มข้นมากขึ้น หรือเติมกาแฟสำเร็จรูป 1 ช้อนโต๊ะ (15 มิลลิลิตร) เพื่อให้เค้กช็อกโกแลตมีรสมอคคา
  5. เติมวิปปิ้ง ครีม ( หรือครีมชนิดข้น) จำนวน 2 ช้อนโต๊ะ (30 มิลลิลิตร) กับสารสกัดธรรมชาติวานิลลาหรืออัลมอนด์จำนวน 1 ช้อนโต๊ะ ก่อนจะตีด้วยช้อนหรือเครื่องผสมอาหาร จนกระทั่งสีกับผิวพื้นคงเส้นคงวา หากส่วนผสมหนา แต่ใช้มีดละเลงได้เรียบเสมอกัน ก็พร้อมแล้วที่จะใช้ละเลงลงบนเค้ก ไม่อย่างนั้น ก็ให้แก้ปัญหาด้วยเคล็ดลับเหล่านี้ : [4]
    • หากไอซิ่งนิ่มเกินไป ให้ใส่น้ำตาลทรายป่น 2 ช้อนโต๊ะ แล้วใช้ตระกร้อมือตีให้ทั่ว ทำซ้ำจนกระทั่งฟรอสติ้งหนาพอที่จะใช้ละเลงได้
    • หากไอซิ่งแข็งตัวอยู่ในภาชนะบรรจุ หรือปริแตกเมื่อคุณพยายามจะนำไปละเลงบนเค้ก ให้เติมน้ำครั้งละ 1 ช้อนโต๊ะ คนให้ทั่วจนกระทั่งฟรอสติ้งเริ่มนิ่มมากพอที่จะใช้ละเลงได้
    โฆษณา
วิธีการ 3
วิธีการ 3 ของ 3:

ทำครีมชีส ไอซิ่ง

ดาวน์โหลดบทความ
  1. ครีมชีส ไอซิ่งนี้นิยมใช้กับเค้กแคร์รอตเป็นพิเศษ แต่ก็ใช้ได้ดีเช่นกันกับเค้กช็อกโกแลต เค้กกำมะหยี่สีแดง หรือเค้กขนมปังขิง ครีมชีสชนิดนี้มีรสหวานน้อยกว่าบัตเตอร์ครีม ไอซิ่ง จึงสามารถใช้กับเค้กหรือคุกกี้ใดๆ ก็ได้เพื่อช่วยสร้างสมดุลกับรสหวานของน้ำตาลด้วยรสชาติเข้มข้นของมันเอง
  2. ใช้เนยหรือมาการีนจำนวน 0.5 ถ้วยตวง (120 มิลลิลิตร) กับครีมชีส 1 ถ้วย ทำให้ละลายด้วยไมโครเวฟ หรือทำง่ายๆ ด้วยการตัดเป็นชิ้นเล็กๆ แล้วทิ้งไว้ที่อุณหภูมิห้อง ทำต่อหากส่วนผสมนุ่มแล้วแต่ไม่ละลาย
    • คุณอาจแทนที่ครึ่งหนึ่งของครีมชีสด้วยเนยในปริมาณที่เท่ากัน หากคุณชอบมากกว่าให้รสชาติใกล้เคียงกับบัตเตอร์ครีม ไอซิ่งตามปกติ ที่มีรสชาติครีมชีสปนอยู่ แทนที่จะเป็นรสชาติที่มีครีมชีสเป็นหลัก
    • หากใช้ครีมชีสชนิดฟูล แฟตจะได้ฟรอสติ้งที่มีพื้นผิวดี ส่วนหากใช้ครีมชีสชนิดโลว์ แฟตจะได้ฟรอสติ้งที่ไหลหยดย้อย [5]
  3. หากเป็นไปได้ ให้ใช้เครื่องผสมไฟฟ้า เพราะหากทำด้วยมืออาจจะน่าเบื่อและเหนื่อย ผสมจนไม่เป็นก้อน และส่วนผสมทั้งหมดมีสีและพื้นผิวเป็นแบบเดียวกัน
  4. หลังจากเนยกับครีมชีสผสมเข้ากันดีแล้ว ให้ค่อยๆ เติมน้ำตาลทรายป่นจำนวน 2 ถ้วยตวง(480 มิลลิลิตร) โดยเติมทีละ 1/2 ถ้วย (120 มิลลิลิตร) แล้วผสมให้เป็นเนื้อเดียวกัน
  5. ผสมไอซิ่งต่อไปเรื่อยๆ จนกระทั่งเนื้อเบาและขึ้นฟู หากไม่แน่ใจว่าขึ้นฟูพอแล้วหรือยัง ให้หยุดตี : จะดีกว่าที่จะหยุดตีในตอนที่ได้ฟรอสติ้งที่ค่อนข้างหนา แทนที่จะตีมากจนเกินไป จนทำให้ไหลย้อย
    • หากฟรอสติ้งเริ่มไหลย้อย คุณอาจทำให้เนื้อหนาขึ้นได้โดยเติมครีมชีส ผสมในน้ำตาลทรายป่นจำนวนมากขึ้นเล็กน้อย หรือโดยพยายามใช้วิธีอื่นที่จะทำให้เนื้อหนามากขึ้น
  6. เติมสารสกัดวานิลลา 1 ช้อนโต๊ะ (5 มิลลิลิตร) ลงในไอซิ่ง แล้วผสมเข้าด้วยกันช่วงสั้นๆ น่าจะมองไม่เห็นแล้ว แต่ก็ไม่จำเป็นต้องตีนานเกินสามสิบวินาที ตอนนี้ ไอซิ่งของคุณก็พร้อมแล้วที่จะละเลงลงบนเค้ก
    โฆษณา

เคล็ดลับ

  • เพิ่มเมนูนี้จำนวนเท่าตัวหากเค้กของคุณมีหลายชั้นที่ต้องใช้ไอซิ่ง
  • เพื่อแต้มสีจางเป็นพิเศษบนไอซิ่ง ให้เติมสีผสมอาหารครั้งละหนึ่งหยด และให้คนหรือผสมในระหว่างแต่ละครั้ง
  • การร่อนน้ำตาลไอซิ่งก่อนใช้จะช่วยให้ได้ไอซิ่งที่เนียนกว่า แต่ตามปกติ ไม่จำเป็นต้องทำ นอกเสียจากน้ำตาลจะจับตัวเป็นก้อน
  • ไอซิ่งชนิดนี้จะไม่ได้มีสีขาว แต่สีจะค่อนข้างเป็นสีครีม สีอาจแตกต่างกันไปบ้างขึ้นอยู่กับว่าคุณใช้เนยจริงหรือเนยเทียม
โฆษณา

คำเตือน

  • อย่าทิ้งไอซิ่งที่เหลืออยู่ไว้ที่อุณหภูมิห้อง เก็บไอซิ่งใดๆ ที่เหลืออยู่ ในภาชนะบรรจุที่ปิดผนึก แล้วเก็บไว้ในตู้เย็น หรือสถานที่มืดและเย็นอื่นๆ เพื่อรักษาพื้นผิวให้เรียบเนียนเสมอกัน
โฆษณา

สิ่งของที่ใช้

  • ชามใบใหญ่
  • ช้อนผสมคันใหญ่
  • เครื่องผสมอาหารไฟฟ้า (แนะนำสำหรับทำครีมชีส ไอซิ่งโดยเฉพาะ)

เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

มีการเข้าถึงหน้านี้ 11,754 ครั้ง

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม

โฆษณา