ดาวน์โหลดบทความ ดาวน์โหลดบทความ

เนื้อส่วนที่ดีก็จะมีราคาแพง ส่วนเนื้อราคาที่ถูกกว่าอาจเหนียวหรือไร้รสชาติก็เป็นได้ เนื้อพับนอกนั้นมาจากส่วนด้านหลังของสัตว์ ซึ่งเป็นส่วนที่จะเหนียวโดยธรรมชาติอยู่แล้ว อย่างไรก็ตาม เนื้อส่วนนี้ถือเป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับอาหารเพื่อสุขภาพเลยนะ เพราะมันมีไขมันน้อยมากๆ น่ะสิ อย่างไรก็ตาม เมื่อคุณรู้วิธีปรุงเนื้อพับนอกแล้ว ก็ย่อมรู้ความลับที่จะเอาชนะปัญหาเหล่านั้นไปได้ ความลับที่จะทำให้เนื้อนุ่มด้วยการปรุงเนื้อด้วยไฟต่ำและใช้เวลานานนั่นเอง

  • เวลาเตรียม: 15-20 นาที
  • เวลาทำ: 3-7 ชั่วโมง
  • เวลาทั้งหมด: 4-8 ชั่วโมง
  1. เล็มเอาไขมันส่วนเกินออกจากด้านนอกของเนื้อพับนอก บางคนอาจชอบที่จะให้เนื้อติดมันแบบนี้เพื่อรสชาติมากกว่า ซึ่งก็ได้แหละ แต่คุณจะต้องเติมเครื่องปรุงให้พอที่จะไม่เสียรสของไขมันไป ถ้าจะเอาออก ก็ใช้มีดทำครัวคมๆ เฉือนออกไปได้เลย
  2. การหมักเนื้อเป็นเวลานานหลายๆ ชั่วโมงก่อนจะปรุงสุกจะช่วยไปทำให้เส้นใยของเนื้อเหนียวๆ ขาดออกจากกันได้ ซึ่งทำให้เนื้อนุ่มขึ้นนั่นเอง แต่วิธีนี้ถือว่าไม่จำเป็น ถ้ามีเวลาน้อยจะข้ามไปก็ได้นะ
    • ปกติการหมักก็จะมีพวกไขมันอยู่ด้วย อย่างน้ำมันมะกอก และมีสารที่เป็นกรดอย่างน้ำส้มสายชูบัลซามิกหรือน้ำเลมอน รวมถึงพวกสมุนไพรหรือเครื่องเทศด้วย คุณสามารถทำน้ำหมักเองได้หรือจะไปซื้อที่ซุปเปอร์มาร์เกตก็ได้เช่นกัน
    • ใส่เนื้อเอาไว้ในถุงที่แช่ช่องแช่แข็งได้ แล้วเทน้ำสำหรับหมักลงไป ปิดถุง แล้วแช่เอาไว้ในช่องแช่แข็งข้ามคืน หรือหลายๆ ชั่วโมงก่อนจะนำมาปรุง
  3. ปรุงรสเนื้อด้วยเกลือและพริกไทย จากนั้นก็เทน้ำมันลงในหม้อเหล็กหล่อหรือกระทะขนาดใหญ่ แล้วทอดให้เนื้อพับนอกเป็นสีน้ำตาลทุกด้าน
    • ก่อนที่จะทอด สามารถนำกระเทียมสับ สมุนไพรสับสดๆ และเครื่องเทศป่นมาถูกับเนื้อเพื่อรสชาติก่อนก็ได้นะ ปรุงรสมันได้ตามใจชอบเลย
    • การทอดเนื้อถือเป็นขั้นตอนสำคัญที่จะทำให้เนื้อมีสีน้ำตาลสวยน่ากิน และยังเป็นการช่วยเพิ่มรสชาติด้วย เพราะน้ำตาลธรรมชาติจากสมุนไพรและเครื่องเทศจะละลายออกมาติดบนผิวของเนื้อนั่นเอง
  4. ปรุงเนื้อพับนอกให้สุกด้วยหม้อทำอาหารขนาดใหญ่ หม้อเหล็กหล่อ หรือหม้อตุ๋นไฟฟ้า. วิธีเหล่านี้จะทำให้ได้เนื้อที่ออกมานุ่มอย่างสมบูรณ์แบบ ฉะนั้นจะเลือกวิธีไหนก็ได้ตามสะดวกเลย
    • ลองวางหัวหอมสับเอาไว้ใต้เนื้อดูสิ เคล็ดลับนี้ใช้กับหม้อแบบไหนก็ได้ทั้งนั้นนะ
    • เติมของเหลวลงในหม้อจนกว่ามันจะสูงขึ้นมาถึง 1/3 ของความสูงเนื้อด้านข้าง โดยจะเป็นน้ำเปล่า น้ำสต็อกเนื้อ น้ำสต็อกผัก เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ (ไวน์ เบียร์ วิสกี้ หรือไซเดอร์) หรือจะรวมๆ กันหมดเลยก็ได้
  5. สิ่งสำคัญที่สุดที่ต้องจำไว้เมื่อจะปรุงเนื้อพับนอกก็คือ คุณควรปรุงด้วยไฟต่ำเป็นเวลานานๆ วิธีนี้จะละลายไขมันและเยื่อที่ติดกันในเนื้อ ทำให้ออกมารสชาติดีและนุ่มลิ้น การปรุงให้สุกด้วยไฟแรงในระยะเวลาสั้นๆ จะทำให้เนื้อเหนียวขึ้นและแห้งขึ้นอีกด้วย
    • อบ: ถ้าคุณจะปรุงเนื้อในหม้อเหล็กหล่อ ก็ให้วอร์มเตาไว้ที่ 149 °C แล้วอบเนื้อไปประมาณ 3 ถึง 4 ชั่วโมง ขึ้นอยู่กับน้ำหนักของเนื้อชิ้นนั้น เนื้อที่หนัก 1.36 ถึง 1.81 กก. มักจะใช้เวลาประมาณ 4 ชั่วโมงในการปรุงสุก เนื้อจะสุกก็ต่อเมื่ออุณหภูมิภายในของมันสูงถึง 74 ถึง 77 °C แล้วนั่นเอง
    • หม้อตุ๋นไฟฟ้า: ถ้าคุณจะปรุงเนื้อในหม้อตุ๋นไฟฟ้า มันมักจะใช้เวลาประมาณ 7 ชั่วโมงด้วยการตั้งให้ไฟ"ต่ำ" แม้ว่าคุณจะชอบให้เนื้อสุกในระดับมีเดียมแรร์ แต่แบบนี้มันจะไม่ได้ให้เวลาพอที่จะทำให้เนื้อเยื่อที่เชื่อมกันขาดลงและทำให้เนื้อนุ่มได้ ฉะนั้นควรปรุงให้สุกระดับเวลดันเถอะนะ
    • เตาแก๊ส: ถ้าคุณจะปรุงเนื้อด้วยเตาแก๊ส คุณควรใช้หม้อใบใหญ่เพื่อตุ๋นเนื้อด้วยไฟต่ำ และปิดฝาหม้อเอาไว้เพื่อให้เนื้อออกมาดีและชุ่มฉ่ำด้วยล่ะ
  6. บางคนก็ใส่ผักลงไปในหม้อตอนจะเริ่มปรุง แต่มันอาจทำให้ผักออกมาเละและสุกเกินไปได้ ฉะนั้นควรใส่ตอนท้ายๆ ของเวลาในการปรุงเนื้อดีกว่า เพื่อให้ออกมาสุกกำลังดีไงล่ะ
    • ผักอย่างมันฝรั่ง แครอท หัวผักกาด และบีท เป็นผักที่เข้ากับเนื้อพับนอกได้ดีเชียวล่ะ เพราะมันจะซึมซับรสของของเหลวที่ใส่ลงไปได้ อย่างไรก็ตาม คุณก็สามารถเพิ่มผักที่มีเนื้อบางๆ อย่างเห็ด ถั่วแขก พวกถั่วเนื้ออ่อนลงไปด้วยก็ได้ (แต่ก็จะใช้เวลาปรุงผักพวกนี้น้อยลงนะ)
    • เพิ่มผักลงไปในหม้อเมื่อเนื้อใกล้สุก ทดสอบได้ด้วยการใช้ไม้เสียบลูกชิ้นหรือปลายส้อมจิ้มเข้าไปในเนื้อ ถ้ามันสุกแล้ว ก็จะไม่มีเศษเนื้อติดออกมาหรือมีน้อยมากนั่นเอง
  7. เอาเนื้อออกมาแล้วเตรียมน้ำที่ออกมาจากเนื้อ. เมื่อเนื้อสุกดีแล้ว ก็จะมีอุณหภูมิภายในอยู่ที่ 71°C และแม้เพียงแค่จิ้มส้อมลงไปเบาๆ เนื้อก็จะแทบแยกออกจากกันได้เลยล่ะ
    • นำเนื้อออกมาจากอุปกรณ์ปรุงอาหาร แล้ววางพักเอาไว้ 10 ถึง 15 นาที โดยห่อฟอยล์เอาไว้ จากนั้นก็ใช้กระบวยมีรูตักเอาผักออกมาวางไว้ในชามแล้วพักไว้เช่นกัน
    • เทน้ำที่ออกมาจากเนื้อลงในหม้อเคี่ยวซอสเล็กๆ เนื้อพับนอกบางชิ้นก็จะให้น้ำออกมาเยอะมาก แต่บางชิ้นก็ให้แค่เป็นหยดๆ เมื่อได้มาแล้วก็ตุ๋นน้ำนั่นด้วยไฟต่ำ ถ้าอยากได้ซอสที่ข้นขึ้น ก็ใส่แป้งข้าวโพดลงไปด้วย แต่ถ้าอยากให้เป็นซอสเหลวๆ ก็เติมน้ำสต็อกเนื้อ ไวน์ หรือน้ำเปล่าลงไปแทน
  8. หั่นเนื้อด้วยมีดหรือแยกชิ้นเนื้อด้วยส้อม แล้วเสิร์ฟพร้อมผักเคียงข้าง พร้อมทั้งมีน้ำที่ได้มาจากเนื้อ/ น้ำเกรวี่ โปรยอยู่ด้านบน
    • คุณสามารถเสิร์ฟเนื้อพร้อมกับเครื่องเคียงที่ชอบ อย่างมันบด หัวผักกาด แฮชบราวน์ หรือผักกาดเขียวปลีก็ได้
    • โรยสมุนไพรสับแล้วอย่างผักชีฝรั่ง โรสแมรี่ หรือไธม์ตกแต่งด้านบนเป็นอันเสร็จ
    โฆษณา

เคล็ดลับ

  • ไม่ต้องเอาเปลือกมันฝรั่งและแครอทออก เพราะมันจะเป็นการเอาสารอาหารออกเป็นจำนวนมากได้
  • ถ้าคุณไม่ชอบปรุงรสด้วยส่วนผสมสำหรับทำซุป ก็ให้โรยไธม์ ออริกาโน เกลือ และพริกไทย แล้ววางโรสแมรี่ก้านเล็กๆ ตกแต่งไว้ด้านบนแทนก็ได้
  • ถ้าเปลี่ยนน้ำหรือน้ำสต็อกในสูตรเป็นไวน์แดง ก็จะได้เนื้อที่เต็มไปด้วยรสชาติเข้มข้นล่ะ
โฆษณา

เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

มีการเข้าถึงหน้านี้ 5,015 ครั้ง

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม

โฆษณา