วิถีชีวิตที่ดีต่อสุขภาพเป็นกุญแจสำคัญในการรักษาหัวใจให้แข็งแรง หัวใจนั้นเป็นกล้ามเนื้อสำคัญที่จะส่งสารอาหารไปทั่วร่างกาย และไม่ต่างจากกล้ามเนื้ออื่นๆ มันจำเป็นต้องได้รับการดูแลด้วยการออกกำลังกายอย่างถูกต้อง ดังนั้น การตระหนักว่าการจะดูแลรักษาหัวใจให้แข็งแรงนั้นหมายถึงต้องตัดพฤติกรรมความเสี่ยงสูงในชีวิตทิ้งไปมากมายเท่าที่จะทำได้ สำหรับบางคนมันอาจหมายถึงการเปลี่ยนแทบทุกอย่างในชีวิตประจำวันชนิดหน้ามือเป็นหลังมือ แม้แต่การกำจัดปัจจัยเสี่ยงไม่กี่อย่างเพื่อช่วยให้หัวใจแข็งแรงขึ้นก็นับว่าได้ประโยชน์หลายอย่างแล้ว
ขั้นตอน
-
หยุดการใช้ยาสูบในทุกรูปแบบ. การใช้ยาสูบจะเพิ่มความเสี่ยงให้หัวใจเกิดความเสียหาย ทั้งยาสูบกับสารนิโคตินมีสารเคมีมากมายที่จะก่ออันตรายแก่หลอดเลือดกับหัวใจ ส่งผลให้เกิดโรคหลอดเลือดแดงแข็ง (atherosclerosis) ซึ่งก็คือมีการก่อตัวสะสมของคราบที่เกิดจากคอเลสเตอรอล ไขมัน และแคลเซียมภายในหลอดเลือด ทำให้หลอดเลือดตีบ ลดอัตราการไหลเวียนของเลือดลง [1] X แหล่งข้อมูลที่เชื่อใจได้ National Heart, Lung, and Blood Institute ไปที่แหล่งข้อมูล
- คาร์บอนมอนน็อกไซด์ในควันบุหรี่ถูกจับเชื่อมโยงกับความตายมานาน [2] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง Cardiovascular effects of carbon monoxide and cigarette smoking, Journal of the American College of Cardiology Volume 38, Issue 6, 15 November 2001, Pages 1633–1638 Shoshana Zevin, MD*, Sandra Saunders, MD†, Steven G Gourlay, MBBS, PhD†, ‡, Peyton Jacob III, PhD†,Neal L Benowitz, MD มันจะไปรบกวนออกซิเจน ทำให้หัวใจถูกกดดันให้จำเป็นต้องสูบฉีดออกซิเจนเพิ่มเข้าไปทดแทน หลอดเลือดที่ตีบลงบวกกับความเครียดในหัวใจล้วนส่งผลต่อการเกิดหัวใจวาย วิธีเดียวที่จะหยุดภาระหนักนี้ของหัวใจและทำให้มันแข็งแรงขึ้นก็คือเลิกสูบบุหรี่
- ประมาณว่าการเสียชีวิต 1 ในทุก 5 รายในสหรัฐนั้นมีสาเหตุจากการสูบบุหรี่ จากข้อมูลของสถาบันสุขภาพแห่งชาตินั้น การสูบบุหรี่เป็นสาเหตุการเสียชีวิตหลักในสหรัฐที่สามารถป้องกันได้ [3] X แหล่งข้อมูลที่เชื่อใจได้ National Heart, Lung, and Blood Institute ไปที่แหล่งข้อมูล
-
ผสานการออกกำลังกายเข้าไปในกิจวัตรประจำวัน. วิธีหนึ่งที่จะทำให้กล้ามเนื้อแข็งแรงขึ้นคือใช้มันออกกำลังกายสิ ความข้อนี้เป็นจริงกับหัวใจคุณเช่นกัน นี่คือสิ่งที่สมาคมหัวใจแห่งอเมริกาแนะนำ: [4] X แหล่งข้อมูลที่เชื่อใจได้ American Heart Association ไปที่แหล่งข้อมูล
- ออกกำลังกายแบบแอโรบิคระดับความเข้มข้นปานกลางอย่างน้อย 30 ต่อวันเพื่อให้เลือดลมสูบฉีดและทำให้หัวใจแข็งแรงขึ้น ถ้าเป็นไปได้ควรทำเช่นนี้ 5 วันต่อสัปดาห์ ให้ได้เวลาการออกกำลังกายแบบแอโรบิครวมทั้งสิ้น 150 นาที
- อีกทางเลือกหนึ่ง คุณสามารถออกกำลังกายแบบแอโรบิคระดับความเข้มข้นสูง 25 นาทีอย่างน้อย 3 วันต่อสัปดาห์ ให้ได้เวลารวม 75 นาที
- คุณควรผสานการฝึกแบบใช้แรงต้าน (ฝึกยกเวท) เข้าไปในการออกกำลังกายอย่างน้อย 2 วันทุกสัปดาห์นอกเหนือจากคาร์ดิโอ
- ค่อยๆ ออกกำลังหนักขึ้นสู่การมีชีวิตที่แข็งแรงเสมอ! เพียงแต่เริ่มต้นเท่าที่คุณจะทำไหว แล้วค่อยเพิ่มความยากตามลำดับเมื่อคุณสามารถรับมือไหว การออกกำลังกายอย่างหนักหน่วงเร็วเกินไปอาจทำให้หัวใจรู้สึกเครียดแล้วกลายเป็นทำลายจุดประสงค์ของเราแทน ถ้าคุณมีภาวะหัวใจใดๆ ให้ปรึกษากับแพทย์ก่อนจะเริ่มการออกกำลังกาย
-
รักษาน้ำหนักตัวที่ดีต่อสุขภาพ. น้ำหนักตัวที่เพิ่มขึ้นเป็นเหตุให้ร่างกายบังคับหัวใจให้ทำงานหนักขึ้นเพื่อรักษาระดับการเต้นพื้นฐานในตอนพักผ่อน ความตึงเครียดอย่างต่อเนื่องต่อหัวใจนี้จะสะสมและทบทวีเป็นปัญหาใหญ่ในอนาคต การออกกำลังกายและการทานอาหารที่ดีต่อสุขภาพจะช่วยให้คุณลดน้ำหนักที่ทำให้หัวใจเกิดความตึงเครียด ปัญหาอันตรายต่อหัวใจที่อาจเกิดขึ้นจากการมีน้ำหนักตัวสูงเกินปกติได้แก่: [5] X แหล่งข้อมูลที่เชื่อใจได้ National Heart, Lung, and Blood Institute ไปที่แหล่งข้อมูล
- โรคหลอดเลือดหัวใจ (Coronary heart disease) – สภาวะเช่นนี้เกิดขึ้นจากคราบที่ก่อตัวภายในหลอดเลือดหล่อเลี้ยงหัวใจ คราบจะทำให้หลอดเลือดตีบแคบเมื่อมันโตขึ้นและจะลดปริมาณเลือดที่ไหลเวียนในร่างกาย ลดปริมาณของออกซิเจนที่จะต้องกระจายสู่ร่างกาย ยิ่งกว่านั้น หัวใจจะต้องทำงานหนักขึ้นเพื่อดันเลือดฝ่าช่องที่ตีบแคบลงนี้ ซึ่งอาจทำให้เกิดอาการปวดเค้นหัวใจ (อาการปวดหน้าอกจากการขาดออกซิเจน) หรือกระทั่งหัวใจวาย
- ความดันโลหิตสูง – หากหัวใจต้องสูบฉีดหนักขึ้นเพื่อจะได้ส่งออกซิเจนกับสารอาหารในปริมาณที่เหมาะสมไปทั่วร่างกาย ทั้งหลอดเลือดและหัวใจอาจเกิดความเสียหายขึ้นได้เมื่อเวลาผ่านไป ความเสี่ยงที่จะเป็นความดันโลหิตสูงจะยิ่งมากขึ้นถ้าคุณมีรูปร่างอ้วนหรือน้ำหนักเกินกว่าปกติ
- โรคสมองขาดเลือด (Stroke) – ถ้าคราบที่ก่อตัวในหลอดเลือดแดงนั้นเกิดแตกตัว คราบนั้นอาจจับตัวเป็นลิ่มเลือด หากลิ่มเลือดเกิดขึ้นในบริเวณใกล้กับสมอง สมองอาจได้รับเลือดกับออกซิเจนไม่เพียงพอ ส่งผลให้เกิดอาการสมองขาดเลือด
-
ทำการตรวจความดันโลหิตกับระดับคอเลสเตอรอลให้ติดเป็นนิสัย. การทำเช่นนี้จะทำให้คุณมีข้อมูลสุขภาพของหัวใจคุณและจะทำให้ได้ลงมือแก้ไขก่อนทุกอย่างจะสายเกินไป
- การตรวจหาค่าความดันโลหิต – คุณควรตรวจวัดความดันโลหิตทุกสองปี หากค่าความดันโลหิตสูงเกิน 120/80 แพทย์อาจแนะนำให้คุณต้องเข้าตรวจทุกปี (หรือบ่อยกว่านั้นขึ้นอยู่กับความสูงของค่าที่ได้หรือถ้าคุณมีปัญหาไต โรคหัวใจ เป็นต้น) [6] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง ที่ทำงานหรือโรงพยาบาลบางแห่งอาจมีเครื่องวัดความดันโลหิตอัตโนมัติให้ตรวจฟรี ใช้มันให้บ่อยเท่าที่ต้องการเพื่อไม่ต้องไปหาแพทย์ หากความดันโลหิตสูงเกิน 140/90 และแพทย์ไม่ทราบ จำเป็นที่คุณต้องพบแพทย์ให้เร็วที่สุด
- การตรวจหาค่าคอเลสเตอรอล – ผู้ชายทุกคนที่มีอายุเกิน 34 ปีควรเข้ารับการตรวจทุกห้าปี แพทย์จะขอตัวอย่างเลือดมาทดสอบหาระดับคอเลสเตอรอลและชี้แจงให้คุณฟัง ถ้าคุณมีปัจจัยเสี่ยงที่สามารถทำให้คุณน่าจะมีคอเลสเตอรอลสูง ก็ขอแนะนำให้คุณไปตรวจเสียเนิ่นๆ ตั้งแต่ในช่วงอายุ 20 กว่า ปัจจัยเสี่ยงอาจได้แก่ ประวัติการเป็นในครอบครัว โรคเบาหวาน หรือโรคหัวใจในภาวะเริ่มต้น [7] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง แพทย์อาจแนะนำให้คุณเข้าตรวจบ่อยขึ้น ขึ้นอยู่กับผลการตรวจทางการแพทย์อย่างครบถ้วน [8] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
-
หลีกเลี่ยงการรู้สึกเครียดมากเกินไป. ความเครียดมีบทบาทอย่างมากในเรื่องสุขภาพของหัวใจ ความเครียดที่เพิ่มขึ้นจะหลั่งคอร์ติซอล (cortisol) กับอะดรีนาลีน (adrenaline) ซึ่งทำให้ความดันโลหิตกับคอเลสเตอรอลพุ่งสูงขึ้น พฤติกรรมที่เกี่ยวพันกับความเครียดยังส่งผลด้านลบต่อสุขภาพอีกด้วย ทำให้คุณสูบบุหรี่หนักขึ้น ดื่มมากขึ้น ทานมากไป และไม่ได้ออกกำลังกาย พฤติกรรมทั้งหลายเหล่านี้ส่งผลทางลบต่อสุขภาพหัวใจ [9] X แหล่งข้อมูลที่เชื่อใจได้ American Heart Association ไปที่แหล่งข้อมูล
- การออกกำลังกาย ควบคุมอาหาร และถอยห่างจากการสูบบุหรี่กับกาแฟสามารถช่วยลดความเครียดลงได้ คุณควรพิจารณาการทำสิ่งเหล่านี้อย่างยิ่งในเวลารู้สึกเครียด [10] X แหล่งข้อมูลที่เชื่อใจได้ American Heart Association ไปที่แหล่งข้อมูล
-
จัดการสุขภาพจิตของคุณ. สภาวะของสุขภาพจิตสามารถทำให้เกิดพฤติกรรมที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพหัวใจ อย่างเช่นอาการซึมเศร้าและความกังวลใจ รวมไปถึงโรคอารมณ์แปรปรวนสองขั้วกับโรคย้ำคิดย้ำทำ พฤติกรรมเหล่านี้อาจแสดงออกมาร่วมกับอาการของการทานอาหารมากเกินไป การทานอาหารน้อยลง ความไม่รู้สึกยินดียินร้าย การทำตัวเฉื่อยแฉะ ความเครียด การมีความดันโลหิตเพิ่มสูงขึ้น และอาการอื่นๆ ที่ส่งผลกระทบด้านลบต่อหัวใจ [11] X แหล่งข้อมูลที่เชื่อใจได้ National Institute of Mental Health ไปที่แหล่งข้อมูล [12] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- ถ้าคุณได้รับการตรวจพบอาการทางจิตใดๆ หรือเชื่อว่าคุณเองเป็นเช่นนั้น ให้แน่ใจว่าได้ไปพบแพทย์ในทันที มีแต่แพทย์ที่จะรักษาอาการทางจิตอย่างได้ผล เช่นเดียวกับการตรวจหาผลกระทบที่มันส่งผลต่อสุขภาพกาย
โฆษณา
-
ทานอาหารที่ดีต่อสุขภาพ. เลือกการควบคุมอาหารที่หลีกเลี่ยงไขมันอิ่มตัวกับไขมันทรานส์ เช่น เนื้อแดง อาหารฟาสต์ฟู้ดแบบทอดน้ำมันและอาหารแปรรูป คุณยังควรหลีกเลี่ยงอาหารที่มีเกลือกับคอเลสเตอรอลสูง ส่วนปลาที่มีกรดไขมันโอเมกา-3 อย่างปลาแม็คเคอเรลกับแซลมอน สามารถลดความเสี่ยงของโรคหัวได้ สมาคมหัวใจแห่งอเมริกาแนะนำให้อาหารที่คุณทานควรประกอบด้วยสิ่งต่อไปนี้ (ดูส่วนถัดไปถ้าต้องการข้อมูลที่เฉพาะเจาะจง): [13] X แหล่งข้อมูลที่เชื่อใจได้ American Heart Association ไปที่แหล่งข้อมูล
- ผักและผลไม้
- ธัญพืชเต็มเมล็ด
- ผลิตภัณฑ์จากนมแบบพร่องมันเนย
- เนื้อสัตว์ปีก
- ถั่วเปลือกแข็งกับปลา
-
เน้นที่การเพิ่ม “ซูเปอร์ฟู้ดส์” ที่ดีต่อสุขภาพเข้าไปในแผนควบคุมอาหาร. ซูเปอร์ฟู้ดส์เป็นอาหารกลุ่มหนึ่งที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพซึ่งสื่อนำมาเผยแพร่จนได้รับความนิยม ปกติแพทย์ที่อยู่ในวงการของสารอาหารจะไม่ใช้ศัพท์คำนี้ อย่างไรก็ตาม เชื่อกันว่าอาหารเหล่านี้ส่วนใหญ่มีความหนาแน่นของสารอาหารอยู่สูงและหลายตัวอาจดีต่อสุขภาพมากกว่าตัวเลือกอาหารธรรมดาทั่วๆ ไป ตัวอย่างของอาหารเหล่านี้ได้แก่: [14] X แหล่งข้อมูลที่เชื่อใจได้ Harvard Medical School ไปที่แหล่งข้อมูล
- อะโวคาโด – อะโวคาโดถูกนับว่าเป็น “ซูเปอร์ฟู้ดส์” เนื่องเพราะไขมันไม่อิ่มตัวเชิงเดี่ยวที่มีอยู่ในปริมาณสูงของมัน ไขมันไม่อิ่มตัวเชิงเดี่ยวนั้นไม่เหมือนกับไขมันอิ่มตัวตรงที่มันจะเป็นของเหลวที่อุณหภูมิห้องและมีคุณสมบัติช่วยลดระดับคอเลสเตอรอล อะโวคาโดยังโดดเด่นตรงที่มันมีไฟโตสเตอรอล (phytosterols) ซึ่งจะแย่งกันดูดซึมกับคอเลสเตอรอลในร่างกาย เมื่อแย่งกับคอเลสเตอรอล ก็หมายความว่าคุณจะดูดซึมคอเลสเตอรอลได้น้อยลง เป็นการลดระดับคอเลสเตอรอลในเลือดไปโดยปริยาย
- น้ำมันมะกอกชนิดบริสุทธิ์พิเศษ (Extra-virgin olive oil) - น้ำมันมะกอกชนิดบริสุทธิ์พิเศษ นั้นอุดมด้วยไขมันไม่อิ่มตัวเชิงเดี่ยว ช่วยลดคอเลสเตอรอลชนิด “เลว” (LDL) น้ำมันมะกอกยังแสดงให้เห็นว่าช่วยปกป้องการเกิดลิ่มเลือดเช่นเดียวกับช่วยรักษาระดับน้ำตาลในเลือดให้คงที่
- ถั่วเปลือกแข็ง – ถั่วลิสงกับถั่วเปลือกแข็งจำพวกที่เป็นลำต้น (พีแคน พิสตาชิโอ วอลนัท เป็นต้น) เป็นแหล่งที่อุดมไปด้วยสารพฤกษเคมี วิตามิน ใยอาหาร แร่ธาตุ และไขมันไม่อิ่มตัว ซึ่งผลการศึกษาได้แสดงว่าทั้งหมดนี้มีประโยชน์ต่อหัวใจโดยจะเพิ่ม HDL (คอเลสเตอรอลดี), ลด LDL (คอเลสเตอรอลเลว), และลดระดับความดันโลหิต
- ควินัว – ควินัวเป็นอาหารจากพืชที่แพร่หลายจากทวีปอเมริกาใต้ อาหารชนิดนี้มีโปรตีนสูงและอุดมด้วยวิตามิน แร่ธาตุ และใยอาหาร
- ดาร์คช็อกโกแล็ต – ดาร์คช็อกโกแล็ตนั้นจะต้องมีโกโก้เป็นส่วนผสมอย่างน้อย 70% ช็อกโกแล็ตชนิดนี้มีฟลาวานอยด์ (flavanoid) อยู่ในระดับสูง ซึ่งจะช่วยลดความดันโลหิต แต่ถึงแม้มันจะผลดีต่อสุขภาพของหัวใจ ทว่ามันก็มีแคลอรี่สูง จึงไม่ควรทานในปริมาณมาก
- แซลมอน – ปลาแซลมอนเป็นแหล่งโปรตีนที่ดีต่อสุขภาพแถมยังมีกรดไขมันโอเมกา-3 กับน้ำมันปลาในระดับสูง ซึ่งแสดงให้เห็นว่าช่วยให้หลอดเลือดและหัวใจมีสุขภาพดี
- ข้าวโอ๊ต – ข้าวโอ๊ตเป็นธัญพืชเต็มเมล็ดที่มีใยอาหารสูงซึ่งจะช่วยหยุดการดูดซึมคอเลสเตอรอล ข้าวโอ๊ตบดจะให้ประโยชน์สูงที่สุด เพราะต้องใช้เวลาย่อยนาน และมันมีค่าดัชนีน้ำตาลต่ำ ค่าดัชนีน้ำตาลที่ต่ำนั้นจะช่วยรักษาระดับน้ำตาลในเลือดไม่ให้พุ่งสูง ซึ่งจะช่วยป้องกันโรคหัวใจในระยะยาว
- ส้ม – ส้มอุดมด้วยกากใยที่ย่อยได้ซึ่งจะช่วยลดการดูดซึมคอเลสเตอรอล พวกมันยังมีโปตัสเซียม (ซึ่งช่วยรักษาสมดุลของโซเดียมในร่างกาย) กับวิตามินซี
- ถั่วแบบเมล็ด – ถั่วแบบเมล็ดเกือบจะทุกชนิดให้โปรตีน ใยอาหาร และแร่ธาตุในปริมาณสูง ถั่วยังให้ประโยชน์ไม่ต่างจากข้าวโอ๊ตบด คือช่วยลดคอเลสเตอรอลกับความดันโลหิตด้วยการมีค่าดัชนีน้ำตาลต่ำ
-
หลีกเลี่ยงอาหารที่ไม่ดีต่อหัวใจ. คุณควรหลีกเลี่ยงอาหารที่มีไขมันอิ่มตัว ไขมันทรานส์ น้ำเชื่อมที่มีฟรุกโตสสูง น้ำตาล และคอเลสเตอรอลเสมอ นั่นหมายถึงอาหารพวกเนื้อแดง ฟาสต์ฟู้ดส์ มันฝรั่งทอด น้ำอัดลม เนย เป็นต้น คนส่วนใหญ่รู้ตัวดีเวลาทานอาหารที่ไม่ดีต่อสุขภาพ ดังนั้น จงใช้การตัดสินใจและสามัญสำนึกให้ดี อ่านฉลากกำกับอาหารที่จะแสดงปริมาณสารอาหารที่แนะนำต่อวัน
-
จำกัดแอลกอฮอล์ให้อยู่ในปริมาณที่ยังดีต่อสุขภาพ. ตามสมาคมหัวใจแห่งอเมริกานั้น ผู้ชายสามารถดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ได้สองแก้วต่อวันและผู้หญิงดื่มได้หนึ่งแก้วถึงจะดีต่อหัวใจ [15] X แหล่งข้อมูลที่เชื่อใจได้ American Heart Association ไปที่แหล่งข้อมูล ถ้ามากกว่านั้นจะส่งผลตรงกันข้าม
- แอลกอฮอล์จะทำความเสียหายต่อหัวใจโดยการทำให้ความดันโลหิตสูง สมองขาดเลือด และอ้วนหากไม่บริโภคแต่พอดี [16] X แหล่งข้อมูลที่เชื่อใจได้ American Heart Association ไปที่แหล่งข้อมูล
- ยิ่งไปกว่านั้น แอลกอฮอล์สามารถทำให้ระดับไตรกลีเซอไรด์ (triglyceride) เพิ่มขึ้น มันเป็นไขมันชนิดพิเศษที่สามารถก่อให้เกิดภาวะอย่างโรคตับอ่อนอักเสบได้ การดื่มแอลกอฮอล์ติดต่อกันเป็นเวลานานจะทำให้เกิดความเสียหายต่อตับอ่อนชนิดรักษาให้กลับคืนดังเดิมมิได้ (โรคตับแข็ง) [17] X แหล่งข้อมูลที่เชื่อใจได้ PubMed Central ไปที่แหล่งข้อมูล
-
เติมอาหารเสริมเข้าไป. ในขณะที่คุณควรได้รับสารอาหารจากอาหารเป็นหลัก อาหารเสริมสามารถช่วยเติมเต็มการขาดสารอาหารเล็กน้อยของธาตุบางตัวได้ อาหารเสริมที่จะกล่าวถึงต่อไปนี้พบได้ในซูเปอร์ฟู้ดส์ที่บอกไปด้านบนและมีหลักฐานแสดงให้เห็นว่ามีประโยชน์ต่อสุขภาพของหัวใจ: [18] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- วิตามินกับแร่ธาตุ – การทานวิตามินทุกวันเป็นอาหารเสริมที่ดีให้คุณได้รับวิตามินบี 3 (ไนอาซิน), วิตามินเค, วิตามินอี และแมกนีเซียมที่ล้วนดีต่อหัวใจ
- สมุนไพร – เชื่อกันว่ากระเทียม เอคไคนาเซีย และโสมมีประโยชน์กับหัวใจ
- อื่นๆ – มีหลายคนที่ไม่ชอบทานปลา ซึ่งมีประโยชน์ต่อหัวใจ ทางเลือกก็คือลองทานกรดไขมันโอเมกา-3 แบบเม็ดร่วมกับโคเอนไซม์ คิว 10
โฆษณา
ข้อมูลอ้างอิง
- ↑ http://www.nhlbi.nih.gov/health/health-topics/topics/atherosclerosis
- ↑ Cardiovascular effects of carbon monoxide and cigarette smoking, Journal of the American College of Cardiology Volume 38, Issue 6, 15 November 2001, Pages 1633–1638 Shoshana Zevin, MD*, Sandra Saunders, MD†, Steven G Gourlay, MBBS, PhD†, ‡, Peyton Jacob III, PhD†,Neal L Benowitz, MD
- ↑ http://www.nhlbi.nih.gov/health/health-topics/topics/smo
- ↑ http://www.heart.org/HEARTORG/GettingHealthy/PhysicalActivity/FitnessBasics/American-Heart-Association-Recommendations-for-Physical-Activity-in-Adults_UCM_307976_Article.jsp
- ↑ http://www.nhlbi.nih.gov/health/health-topics/topics/obe/risks
- ↑ http://www.nlm.nih.gov/medlineplus/ency/article/007464.htm
- ↑ http://www.nlm.nih.gov/medlineplus/ency/article/007464.htm
- ↑ http://www.nlm.nih.gov/medlineplus/ency/article/007464.htm
- ↑ http://www.heart.org/HEARTORG/GettingHealthy/StressManagement/HowDoesStressAffectYou/Stress-and-Heart-Health_UCM_437370_Article.jsp
- ↑ http://www.heart.org/HEARTORG/GettingHealthy/StressManagement/HowDoesStressAffectYou/Stress-and-Heart-Health_UCM_437370_Article.jsp
- ↑ http://www.nimh.nih.gov/health/publications/depression-and-heart-disease/index.shtml
- ↑ http://www2.nami.org/Template.cfm?Section=Hearts_and_Minds&Template=/ContentManagement/HTMLDisplay.cfm&ContentID=94413
- ↑ http://www.heart.org/HEARTORG/GettingHealthy/NutritionCenter/HealthyEating/The-American-Heart-Associations-Diet-and-Lifestyle-Recommendations_UCM_305855_Article.jsp
- ↑ http://www.health.harvard.edu/heart-health/sizing-up-superfoods-for-heart-health
- ↑ http://www.heart.org/HEARTORG/GettingHealthy/NutritionCenter/HealthyEating/Alcohol-and-Heart-Health_UCM_305173_Article.jsp
- ↑ http://www.heart.org/HEARTORG/GettingHealthy/NutritionCenter/HealthyEating/Alcohol-and-Heart-Health_UCM_305173_Article.jsp
- ↑ http://www.ncbi.nlm.nih.gov/pubmedhealth/PMH0047846/
- ↑ http://effectivehealthcare.ahrq.gov/index.cfm/search-for-guides-reviews-and-reports/?productid=1455&pageaction=displayproduct
เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้
มีการเข้าถึงหน้านี้ 9,118 ครั้ง
โฆษณา