ดาวน์โหลดบทความ ดาวน์โหลดบทความ

การทนทุกข์จากอาการเส้นประสาทถูกกดทับ บริเวณคอ หลัง และแขน หรือบริเวณอื่นๆ ของร่างกาย เป็นเรื่องที่ทรมานมาก และมันยังทำให้คุณต้องละทิ้งกิจกรรมบางอย่างในชีวิตประจำวันด้วย กลุ่มอาการเส้นประสาทถูกกดทับเกิดขึ้นเมื่อเนื้อเยื่อโดยรอบ เช่น กระดูก กระดูกอ่อน เส้นเอ็น หรือกล้ามเนื้อ ไปติดหรือกดทับเส้นประสาทอย่างผิดปกติ ไม่ว่าคุณจะรักษาด้วยตนเองหรือภายใต้การดูแลของแพทย์ การเข้าใจอย่างถูกต้องในการรักษากลุ่มอาการเส้นประสาทถูกกดทับ ก็จะช่วยให้สามารถเยียวยาตนเองและรับมือกับความเจ็บปวดได้ [1]

ส่วน 1
ส่วน 1 ของ 3:

ทำการปฐมพยาบาลกลุ่มอาการเส้นประสาทถูกกดทับที่บ้าน

ดาวน์โหลดบทความ
  1. กลุ่มอาการเส้นประสาทถูกกดทับเกิดขึ้นเมื่อเส้นประสาทได้รับความเสียหายบางอย่างและไม่สามารถส่งสัญญาณได้เต็มที่ มันเกิดขึ้นเวลาที่เส้นประสาทถูกกดทับ ซึ่งอันเกิดจากหมอนรองกระดูกเคลื่อนหรือแตกร้าว ข้อต่ออักเสบ หรือกระดูกงอก เป็นต้น คุณยังอาจมีกลุ่มอาการเส้นประสาทถูกกดทับ อันเกิดจากกิจกรรมหรือสถานการณ์อื่นๆ เช่น อาการบาดเจ็บ ท่าทางที่ผิดหลัก การเคลื่อนไหวซ้ำไปซ้ำมา กีฬา งานอดิเรก รวมถึงโรคอ้วน เป็นต้น ทั้งนี้ กลุ่มอาการเส้นประสาทถูกกดทับสามารถเกิดขึ้นได้ทั่วร่างกาย แม้ว่ามันจะพบได้บ่อยบริเวณกระดูกสันหลัง คอ ข้อมือ และข้อศอก
  2. โดยหลักแล้ว กลุ่มอาการเส้นประสาทถูกกดทับ คือ ลักษณะการทำงานของระบบสื่อประสาทที่ถูกขัดขวางทางกายภาพ อาการของกลุ่มอาการเส้นประสาทถูกกดทับมักรวมถึงอาการชา บวม เจ็บแสบ อาการคันยุกยิก รวมถึงกล้ามเนื้ออ่อนแรงและกล้ามเนื้อเกร็งอักเสบด้วย กลุ่มอาการเส้นประสาทถูกกดทับมักจะเชื่อมโยงกับอาการเจ็บแปล๊บในบริเวณนั้นๆ ด้วย
    • อาการเหล่านี้เกิดขึ้น เนื่องจากเส้นประสาทไม่สามารถส่งสัญญาณไปทั่วร่างกายได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งเป็นผลมาจากการถูกกดทับหรือกีดขวาง [4]
  3. หลังจากที่คุณถูกวินิจฉัยว่า มีกลุ่มอาการเส้นประสาทถูกกดทับแล้ว คุณจำเป็นต้องเริ่มดูแลตนเอง คุณควรหลีกเลี่ยงหรือใช้อวัยวะบริเวณดังกล่าวให้น้อยลง การใช้งานกล้ามเนื้อ ข้อต่อ และเส้นเอ็นที่ทำให้มีกลุ่มอาการเส้นประสาทถูกกดทับ จะยิ่งทำให้อาการเลวร้ายลง เพราะบริเวณโดยรอบจะบวมและยิ่งกดทับเส้นประสาทมากขึ้น วิธีที่ง่ายที่สุดในการบรรเทาอาการปวดสักเล็กน้อยแบบทันที ก็คือการปล่อยให้เส้นประสาทและบริเวณดังกล่าวได้พัก จนกว่าอาการบวมและการกดทับจะหายไปโดยสมบูรณ์
    • คุณควรหลีกเลี่ยงการยืดเส้นหรือขยับบริเวณที่มีกลุ่มอาการเส้นประสาทถูกกดทับ เพื่อที่จะไม่เผลอไปทำให้มันกดทับมากขึ้น มีท่าทางบางอย่างที่ทำให้อาการเลวร้ายลงแบบทันทีทันใด และคุณควรหลีกเลี่ยงท่าทางเหล่านี้ให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้
    • หากมีท่าทางหรือการเคลื่อนไหวใด ที่ทำให้อาการและความเจ็บปวดแย่ลง พยายามอย่าไปยุ่งกับบริเวณนั้น และหลีกเลี่ยงการเคลื่อนไหวในท่าดังกล่าว
    • โรคเส้นประสาทข้อมือถูกกดทับ ซึ่งเป็นกลุ่มอาการเส้นประสาทถูกกดทับที่พบได้บ่อย คุณควรวางข้อมูลให้ตรงตลอดเวลาระหว่างนอน รวมถึงหลีกเลี่ยงการงอข้อต่อบริเวณดังกล่าว เป็นวิธีที่ช่วยบรรเทาการกดทับได้มากที่สุด [5]
  4. การนอนหลับเพิ่มขึ้นจากเดิม เป็นวิธีให้ร่างกายของคุณซ่อมแซมตนเองตามธรรมชาติ หากจำเป็นคุณควรนอนให้มากกว่าเดิมทุกคืน ไปจนกว่าอาการจะดีขึ้นหรือหายเจ็บ การนอนเพิ่มขึ้นสักสองชั่วโมงเพื่อให้ร่างกายและบริเวณที่บาดเจ็บได้พักผ่อน สามารถทำให้กลุ่มอาการเส้นประสาทถูกกดทับดีขึ้นได้มาก
    • การทำเช่นนี้จะได้ผลดีขึ้น ร่วมกับการหลีกเลี่ยงใช้งานบริเวณที่บาดเจ็บ หากคุณนอนมากขึ้น ก็เท่ากับเคลื่อนไหวน้อยลง ไม่เพียงแต่จะช่วยหลีกเลี่ยงการใช้งานอวัยวะดังกล่าว ร่างกายของคุณยังได้รักษาตนเองเวลาที่นอนด้วย
  5. บางครั้งคุณอาจไม่สามารถพักฟื้นร่างกายบริเวณที่บาดเจ็บได้ เพราะติดการเรียน การทำงาน หรือหน้าที่ทั่วไป หากเป็นกรณีนี้ คุณอาจใส่เฝือกหรือดามบริเวณที่บาดเจ็บ ให้บริเวณนั้นเคลื่อนไหวไม่ได้ ซึ่งจะช่วยให้คุณทำกิจวัตรพื้นฐานประจำวันโดยไม่กระทบบริเวณที่เจ็บ
    • ตัวอย่างเช่น หากคุณมีกลุ่มอาการเส้นประสาทถูกกดทับบริเวณคอ ก็สามารถใส่เฝือก เพื่อให้กล้ามเนื้อบริเวณลำคออยู่คงที่ไปตลอดวัน
    • หากคุณมีภาวะของโรคเส้นประสาทกดทับกระดูกข้อมือ ก็สามารถใส่เฝือกข้อมือและข้อศอก (Volar Carpal Splint) เพื่อหลีกเลี่ยงการกระทบในบริเวณดังกล่าวโดยไม่จำเป็น [6]
    • คุณสามารถหาซื้อเฝือก(อ่อน) ได้ตามร้านขายยาชั้นนำ หรือแหล่งร้านขายยาทั่วไป เช่น ข้างโรงพยาบาลศิริราช ซึ่งคุณควรจะปฏิบัติตามคำแนะนำในการใช้อย่างเคร่งครัด หากสงสัยอะไรควรปรึกษาแพทย์ เพื่อสอบถามเพิ่มเติม
  6. กลุ่มอาการเส้นประสาทถูกกดทับมักจะมีอาการบวมร่วมด้วย ซึ่งมันก็จะยิ่งไปกดทับเส้นประสาทมากขึ้น การที่จะลดอาการบวมและเพิ่มการไหลเวียนเลือด ควรใช้น้ำแข็งกับถุงร้อนสลับกันประคบบริเวณที่มีกลุ่มอาการเส้นประสาทถูกกดทับ ซึ่งเป็นเทคนิควารีบำบัดอย่างหนึ่ง ใช้น้ำแข็งประคบประมาณ 15 นาที 3-4 รอบต่อวัน เพื่อลดอาการอักเสบ จากนั้น ประคบร้อนในบริเวณดังกล่าวเป็นเวลาครั้งละ 1 ชั่วโมง ประมาณ 4-5 คืนต่อสัปดาห์ จนกว่ากลุ่มอาการเส้นประสาทถูกกดทับจะดีขึ้น
    • ใช้ผ้าห่อน้ำแข็งที่ทำเองจากตู้เย็นหรือซื้อมาจากร้านก็ได้ ประคบบริเวณดังกล่าว ใช้ผ้านุ่มๆ หนาๆ เพื่อป้องกันการถูกน้ำแข็งกัดผิว อย่าประคบมากกว่า 15 นาที เพราะมันจะทำให้การไหลเวียนของเลือดช้าลง และทำให้การเยียวยาหยุดชะงัก
    • ใช้ขวดใส่น้ำร้อนหรือถุงร้อนตามต่อจากการประคบเย็น เพื่อช่วยให้เลือดหมุนเวียนดีขึ้น ซึ่งจะส่งผลให้การเยียวยาเร็วขึ้น อย่าประคบร้อนเกินหนึ่งชั่วโมง เพราะอาจทำให้เกิดอาการอักเสบได้
    • คุณสามารถแช่อ่างน้ำร้อน หรือจุ่มบริเวณที่บาดเจ็บลงไป เพื่อช่วยให้กล้ามเนื้อคลายตัวในบริเวณดังกล่าว และเพิ่มการไหลเวียนโลหิต [7]
  7. คุณสามารถนวดคลึงตัวเองเพื่อบรรเทาความปวดเกร็งและลดความเจ็บปวด หรือจะไปนวดตัวเพื่อช่วยให้กล้ามเนื้อทั่วร่างกายผ่อนคลาย อันจะส่งผลให้บริเวณที่บาดเจ็บคลายตัวลงด้วย คุณยังสามารถให้คนนวดเฉพาะจุดในบริเวณรอบๆ ที่มีกลุ่มอาการเส้นประสาทถูกกดทับก็ได้ จะช่วยให้มีอาการบรรเทาได้ถูกจุดและกล้ามเนื้อบริเวณดังกล่าวซ่อมแซมตัวเองด้วย
    • คุณอาจจะนวดบริเวณที่บาดเจ็บด้วยตัวเอง เพื่อบรรเทาในระดับหนึ่ง ค่อยๆ คลึงบริเวณที่มีอาการบาดเจ็บด้วยนิ้วเพื่อให้เลือดไหลเวียนและผ่อนคลายกล้ามเนื้อที่อาจยังมีการกดทับเส้นประสาท
    • หลีกเลี่ยงการนวดกดจุดหรือนวดแผนไทยทั่วไป เพราะบริเวณที่มีอาการบาดเจ็บมันจะยิ่งถูกกดทับโดยไม่จำเป็น ทำให้กลุ่มอาการเส้นประสาทถูกกดทับเลวร้ายลง [8]
  8. ยาหลายๆ ยี่ห้อที่ขายตามร้านทั่วไป สามารถบรรเทากลุ่มอาการเส้นประสาทถูกกดทับได้ผลดีเยี่ยม แต่ควรใช้ตัวยาแก้อักเสบแบบไม่มีสารสเตียรอยด์ เช่น ไอบูโพรเฟน หรือแอสไพริน เพื่อลดอาการบวมและเจ็บปวด
    • ทำตามคำแนะนำข้างฉลากและคำเตือนต่างๆ ก่อนกินยาด้วย หรือปรึกษาแพทย์หากคุณไม่แน่ใจในปริมาณที่ควรกิน โดยเฉพาะหากคุณมีอากรป่วยหรือกินยาอื่นๆ ร่วมด้วย
  9. หากอาการและความเจ็บปวดหายไปแล้ว แต่ยังคงกลับมาเป็นอีกในช่วงหลายสัปดาห์หรือหลายเดือนถัดมา ให้ปรึกษาแพทย์เพื่อหาทางรักษา แม้ว่าคำแนะนำในการบรรเทาอาการที่ผ่านมาจะใช้ได้ผล แต่หากมันไม่สามารถบรรเทาอาการปวดได้อีกแล้ว ก็ควรให้แพทย์ตรวจวินิจฉัยใหม่อีกครั้ง
    • คุณควรพบแพทย์ด้วย ในกรณีที่มีอาการชาหรือเจ็บปวดในบริเวณที่มีอาการบาดเจ็บ แม้ว่าจะไม่ค่อยได้เคลื่อนไหวแล้ว รวมถึงเมื่อรู้สึกว่ากล้ามเนื้อในบริเวณที่มีอาการบาดเจ็บอ่อนแรง
    • มองหาการรักษาโดยด่วน หากอาการรุนแรง หรือบริเวณที่มีอาการบาดเจ็บรู้สึกเย็น และซีดหรือเขียวช้ำ
    โฆษณา
ส่วน 2
ส่วน 2 ของ 3:

การรักษากลุ่มอาการเส้นประสาทถูกกดทับที่บ้านในระยะยาว

ดาวน์โหลดบทความ
  1. คุณสามารถให้บริเวณที่มีอาการบาดเจ็บได้พัก แต่ยังคงรักษาการไหลเวียนของเลือดให้เป็นปกติได้ การไหลเวียนออกซิเจนและเลือดที่คล่องตัว รวมถึงกล้ามเนื้อที่กระชับ จะช่วยในการรักษากลุ่มอาการเส้นประสาทถูกกดทับ กิจวัตรประจำวันควรจะทำอย่างรอบคอบและทำเมื่อรู้สึกสบายดีเท่านั้น คุณอาจไปว่ายน้ำหรือเดินเล่น ซึ่งเป็นกิจกรรมที่ช่วยให้กล้ามเนื้อคุณได้เคลื่อนไหวอย่างเป็นธรรมชาติ ในขณะที่ไม่กระทบกระเทือนเส้นเอ็นและข้อต่อที่มีกลุ่มอาการเส้นประสาทถูกกดทับมากนัก
    • การอยู่เฉยไม่ทำอะไร อาจส่งผลให้กล้ามเนื้ออ่อนแรงและส่งผลให้กระบวนการเยียวยาจากกลุ่มอาการเส้นประสาทถูกกดทับยืดระยะเวลาออกไป [9] [10]
    • รักษาท่าทางให้เหมาะสมเวลาที่ออกกำลังกายหรือพักผ่อน จะช่วยผ่อนคลายความตึงเครียดของกล้ามเนื้อบริเวณที่มีอาการบาดเจ็บ
    • การรักษาน้ำหนักให้สมสัดส่วนร่างกาย จะช่วยป้องกันกลุ่มอาการเส้นประสาทถูกกดทับ
  2. หนึ่งในสาเหตุที่ซ่อนอยู่ของภาวะกลุ่มอาการเส้นประสาทถูกกดทับ ก็คือการขาดแคลเซียมในร่างกาย คุณควรจะเริ่มกินอาหารที่มีแคลเซียมสูง เช่น ผลิตภัณฑ์จากนม เช่น นมสด ชีส โยเกิร์ต และผักใบเขียวอย่างคะน้าและผักโขม นอกจากจะช่วยบำรุงประสาทแล้ว ยังช่วยบำรุงสุขภาพโดยรวมด้วย
    • คุณยังสามารถกินแคลเซียมในรูปเม็ดยาเสริม ซึ่งหาซื้อจากร้านยา ร้านสะดวกซื้อ หรือซูปเปอร์มาเก็ตชั้นนำ นำมากินได้ทุกวัน แต่อย่ากินเกินปริมาณที่แนะนำไว้
    • เช็คฉลากผลิตภัณฑ์อาหารอื่นๆ ดูว่าเป็นแบบเพิ่มแคลเซียมหรือไม่ เพราะหลายยี่ห้อมีการแยกผลิตภัณฑ์อาหารออกเป็นแบบเสริมแคลเซียมให้โดยเฉพาะด้วย
  3. โปแตสเซียมเป็นประจุสำคัญในระบบเผาผลาญของเซลล์ เพราะการขาดโปแตสเซียมในร่างกาย ทำให้เซลล์ประสาทมีการเชื่อมต่อกันอย่างอ่อนแอ จึงทำให้เกิดภาวะกลุ่มอาการเส้นประสาทถูกกดทับ ดังนั้น การเพิ่มโปแตสเซียมในอาหารประจำวันอาจช่วยทำให้ระบบร่างกายสมดุลอย่างที่ควรเป็น และช่วยให้กลุ่มอาการเส้นประสาทถูกกดทับดีขึ้นได้
    • อาหารที่มีโปแตสเซียมสูง ก็อย่างเช่น แอปริคอต กล้วย อโวคาโด และถั่วต่างๆ นอกจากนี้ การดื่มนมไขมันต่ำและน้ำส้มสด ก็จะช่วยให้ร่างกายดูดซึมโปแตสเซียมได้ดีขึ้น
    • เหมือนอย่างเช่นแคลเซียมเม็ดเสริม โปแตสเซียมในรูปแบบเม็ดเสริมแร่ธาตุให้ร่างกาย สามารถกินได้ทุกวันเพื่อเพิ่มสารอาหารจากอาหารปกติที่กิน คุณควรปรึกษาหมอก่อนกินด้วย โดยเฉพาะหากคุณมีอาการป่วยอื่นๆ โดยเฉพาะที่เกี่ยวกับไต หรือมีการกินยาอื่นอยู่ในปัจจุบัน นอกจากนี้ หมอยังต้องเช็คระดับโปแตสเซียมในเลือดของคุณด้วยว่า ควรกินโปแตสเซียมเสริมอีกหรือไม่
    • ภาวะขาดโปแตสเซียม ต้องถูกวินิจฉัยโดยหมอเท่านั้น ซึ่งเขาหรือเธออาจแนะนำให้คุณปรับเปลี่ยนโภชนาการในแต่ละวันให้มีโปแตสเซียมเพิ่มขึ้นหากเห็นว่านี่เป็นสาเหตุของกลุ่มอาการเส้นประสาทถูกกดทับ ลองปรึกษาหมอดูก่อนว่าใช่หรือไม่ [11] [12]
    โฆษณา
ส่วน 3
ส่วน 3 ของ 3:

การรักษาโรคเส้นประสาทถูกกดทับโดยแพทย์

ดาวน์โหลดบทความ
  1. หากคุณกำลังเจอปัญหาและไม่มีวิธีใดแก้ไขได้ คุณอาจต้องพึ่งพานักกายภาพบำบัด เขาหรือเธอสามารถจัดท่าออกกำลังเพื่อบำบัดบริเวณที่มีกลุ่มอาการเส้นประสาทถูกกดทับให้คุณได้ หลายๆ ท่าจำเป็นต้องได้รับการดูแลอย่างใกล้ชิดจากเทรนเนอร์มืออาชีพ อย่าลองทำตอนอยู่ลำพัง
    • เมื่อเวลาผ่านไป นักกายภาพบำบัดอาจจะแนะนำท่าบริหารเพิ่มเติม ซึ่งคุณสามารถฝึกไปทำเองที่บ้านได้ แต่อย่าทำท่าบริหารใดที่เขาหรือเธอไม่ได้สอน
  2. พิจารณาทางเลือกในการฉีดสเตียรอยด์เข้ากระดูกหลัง. การรักษาแบบนี้ มักใช้เพื่อแก้กลุ่มอาการเส้นประสาทถูกกดทับที่บริเวณสะโพกมากกว่า ซึ่งสามารถช่วยบรรเทาอาการปวดและเยียวยาเส้นประสาทในตัว มันเป็นการฉีดสเตียรอยด์เข้าที่กระดูกสันหลัง และต้องกระทำโดยแพทย์เท่านั้น หลังจากถูกประเมินความรุนแรงของกลุ่มอาการเส้นประสาทถูกกดทับแล้ว แพทย์ของคุณอาจเสนอทางเลือกในการรักษาแบบนี้ [13]
    • การฉีดสเตียรอยด์เข้าที่กระดูกสันหลัง เป็นวิธีการรักษาที่ได้ผลและบรรเทาอาการปวดได้รวดเร็ว ซึ่งหากกระทำโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่ได้รับการฝึกมา ผลข้างเคียงและอันตรายใดๆ ก็แทบจะไม่มี อย่างไรก็ดี ผลข้างเคียงที่เกิดขึ้นในบางกรณีก็คือ คลื่นไส้ อาเจียน ท้องเสีย ปวดหลัง และมีเลือดออกในบริเวณที่ฉีด [14]
  3. สำหรับอาการเจ็บปวดและอาการของรุนแรง หรือไม่สามารถรักษาได้ด้วยวิธีอื่นๆ การผ่าตัดบริเวณที่มีอาการบาดเจ็บและมีกลุ่มอาการเส้นประสาทถูกกดทับ อาจเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด การผ่าตัดอาจเป็นไปเพื่อบรรเทาความดันหรือเคลื่อนย้ายส่วนที่ไปกดทับเส้นประสาทอยู่ก็ได้ หลังจากพักฟื้นจากการผ่าตัดแล้ว คนไข้มักมีอาการทุเลาลง ส่วนการกลับมาเป็นอีกนั้น หาได้ยากมาก
    • กลุ่มอาการเส้นประสาทถูกกดทับบริเวณข้อมือ อาจต้องมีการผ่าตัดเยื่อบุกล้ามเนื้อบางส่วน เพื่อบรรเทาความดันบริเวณที่มีอาการบาดเจ็บ
    • กลุ่มอาการเส้นประสาทถูกกดทับที่เกิดจากหมอนรองกระดูกเคลื่อน อาจต้องผ่าตัดเพื่อซ่อมแซมหรือเอาหมอนรองกระดูกเดิมออก และตามด้วยการใส่หมอนรองเทียมเพื่อให้กระดูกสันหลังคงที่ [15] [16] [17]
  4. แม้ว่าจะรู้สึกว่ากลุ่มอาการเส้นประสาทถูกกดทับได้หายไปแล้ว มันก็เป็นเรื่องสำคัญที่คุณจะต้องออกกำลังกายสม่ำเสมอ คอยระวังท่าทางการเคลื่อนไหวให้เหมาะสม รวมถึงหลีกเลี่ยงปัจจัยเสี่ยงต่างๆ ที่กล่าวมาทั้งหมดข้างต้น การฟืนฟูจากกลุ่มอาการเส้นประสาทถูกกดทับ อาจขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น ระดับความเสียหายของเส้นประสาท การดูแลรักษาอย่างต่อเนื่อง และกระบวนการรักษาโรคบางอย่างที่อาจเป็นสาเหตุ
    • การฟื้นฟูแบบสมบูรณ์เป็นเรื่องปกติธรรมดาสำหรับกลุ่มอาการเส้นประสาทถูกกดทับที่บริเวณหลัง อาการเจ็บปวดรุนแรงที่หลังอันสืบเนื่องมาจากกลุ่มอาการเส้นประสาทถูกกดทับ มักจะหายได้ภายใน 6 สัปดาห์ จากการรักษาอย่างตรงจุด เป็นสัดส่วนถึงร้อยละ 90 กลุ่มเป้าหมายที่ได้รับการรักษา [18]
  5. หลีกเลี่ยงกลุ่มอาการเส้นประสาทถูกกดทับในอนาคต. กลุ่มอาการเส้นประสาทถูกกดทับส่วนใหญ่มักบรรเทาจนหายเป็นปลิดทิ้งและในผู้ป่วยส่วนใหญ่ อาการจะดีขึ้นหากได้รับการรักษาที่ถูกวิธี การจะป้องกันการกลับมาเป็นอีกนั้น จงหลีกเลี่ยงท่าทางการเคลื่อนไหวซ้ำๆ ที่เป็นสาเหตุให้เกิดกลุ่มอาการเส้นประสาทถูกกดทับก่อนหน้านี้ สิ่งสำคัญที่สุดที่คุณพอจะทำได้คือ พยายามรับฟังร่างกายของตัวเอง หากท่าทางการเคลื่อนไหวใด ทำให้เกิดความรู้สึกแย่หรือมีกลุ่มอาการเส้นประสาทถูกกดทับ พยายามหยุดทำกิจกรรมดังกล่าวทันที และปล่อยให้บริเวณที่มีอาการบาดเจ็บได้ฟื้นตัว
    • ปรึกษาหมอของคุณเกี่ยวกับการวางแผนและวิธีการักษา เพื่อจะได้ดูแลอาการอย่างเหมาะสม และใช้อวัยวะบริเวณดังกล่าว รวมถึงการพักและสงวนการใช้มันได้อย่างสมดุล
    • การใช้เฝือกอ่อนป้องกันไว้ ก่อนที่เส้นประสาทจะถูกกดทับก็สามารถช่วยได้
    โฆษณา

เคล็ดลับ

  • หากอาการของคุณเกิดขึ้นแบบเฉียบพลัน หรือเกิดหลังได้รับบาดเจ็บ คุณควรไปให้แพทย์รักษาทันที
  • ระยะเวลาที่ใช้ในการฟื้นตัวอย่างสมบูรณ์จากกลุ่มอาการเส้นประสาทถูกกดทับ ขึ้นอยู่กับความเสียหายของเส้นประสาท การที่เส้นประสาทมีการซ่อมแซมตัวเองจากบนลงล่าง การฟื้นตัวอย่างสมบูรณ์จึงอาจใช้เวลาหลายสัปดาห์หรือหลายเดือน
  • หากคุณทนทุกข์จากอาการปวดหลัง ลองไปหาแพทย์จัดกระดูกสันหลัง ทั้งแบบ Osteopath หรือ Chiropractice ก็ได้ วิธีการเหล่านี้มีเทคนิคช่วยลดแรงดันบริเวณเส้นประสาท จึงอาจช่วยให้อาการทุเลาลงได้
โฆษณา
  1. http://www.ncbi.nlm.nih.gov/pubmed/17606066
  2. http://www.merckmanuals.com/professional/endocrine-and-metabolic-disorders/electrolyte-disorders/hypokalemia
  3. http://emedicine.medscape.com/article/325733-overview#aw2aab6b7
  4. Domino, F. (n.d.). The 5-minute clinical consult standard 2015 (23rd ed.).
  5. http://emedicine.medscape.com/article/325733-overview#aw2aab6b7
  6. Agabegi, S. (2013). Step-up to medicine (3rd ed.). Philadelphia: Wolters Kluwer/Lippincott Williams & Wilkins.
  7. Domino, F. (n.d.). The 5-minute clinical consult standard 2015 (23rd ed.).
  8. http://www.ninds.nih.gov/disorders/carpal_tunnel/carpel_tunnel_fs.pdf
  9. Domino, F. (n.d.). The 5-minute clinical consult standard 2015 (23rd ed.).

เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

มีการเข้าถึงหน้านี้ 31,455 ครั้ง

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม

โฆษณา