ดาวน์โหลดบทความ
ดาวน์โหลดบทความ
สุนัขจะไม่กินอาหารแห้งหรืออาหารเปียกเสมอไปเนื่องจากความเครียด การเลือกกินหรือการไม่ได้ออกกำลังกาย โชคดีที่มีวิธีเพิ่มความอยากอาหารและกระตุ้นให้มันกิน อย่างไรก็ตามถ้าหากสุนัขของคุณยังคงปฏิเสธอาหารหรือแสดงสัญญาณเหนื่อยหรือเจ็บปวดก็ควรปรึกษาสัตวแพทย์ทันที
ขั้นตอน
-
มองหาสาเหตุ. มีสาเหตุมากมายที่สุนัขกินอาหารน้อยลง อาการเหล่านี้จะหายไปเองแต่คุณยังสามารถลองช่วยมันให้ผ่านพ้นปัญหาไปได้ ถ้าหากปัญหาเหล่านี้ไม่ตรงกับสถานการณ์ของสุนัขของคุณ คุณก็อาจจะต้องปรึกษาสัตวแพทย์หรือหาสาเหตุทางการแพทย์
- สุนัขบางตัวเมารถเมื่อต้องเดินทางและสุนัขบางตัวจะไม่กินอาหารเมื่ออยู่ในสถานที่ใหม่ๆ
- สุนัขบางตัวไม่ชอบกินอาหารในสถานการณ์ที่ไม่สะดวกสบาย พยายามวางชามอาหารในที่เดิม ที่ความสูงที่สะดวกสบายและอยู่ห่างจากสัตว์เลี้ยงตัวอื่นที่พยายามแย่งอาหารของสุนัข
- สุนัขอาจจะมีปฏิกิริยาตอบโต้กับการมาหรือไปของสัตว์เลี้ยงตัวอื่นหรือสมาชิกในครอบครัว
- สาเหตุอาจจะเป็นเรื่องเล็กๆ เช่น การย้ายเฟอร์นิเจอร์หรือต่อเติมบ้าน
- สุนัขบางตัวไม่กินอาหารเพราะต้องการเรียกร้องความสนใจจากเจ้าของ ถ้าหากสุนัขไม่สนใจอาหารและเรียกร้องความสนใจจากคุณ คุณก็ควรเมินเฉยต่อมัน เมื่อคุณให้อาหารสุนัขก็ควรวางอาหารไว้ 10 นาที เมินเฉยต่อสุนัขและทิ้งอาหารที่อยู่ในชาม
- สุนัขอาจจะเลือกกินเฉพาะอาหารที่ชอบ
-
ลดปริมาณขนมและอาหารคน. สุนัขส่วนใหญ่จะต้องการกินสเต็กและมันบดมากกว่าอาหารของมัน มันจะรักคุณถ้าหากคุณให้อาหารคนกับมันแต่เมื่อเวลาผ่านไปมันจะเรื่องมากและชอบขออาหารตามโต๊ะกินข้าว
- คุณต้องคอยสอดส่องเด็กๆ ในบ้านเพราะพวกเขามักจะไม่ค่อยให้ความร่วมมือกับกฎข้อนี้
-
ให้สุนัขออกกำลังกาย. การออกกำลังกายเป็นประจำจะกระตุ้นความอยากอาหารของสุนัขและทำให้มันกินมากขึ้น พาสุนัขไปเดินเล่นก่อนมื้ออาหารเพื่อกระตุ้นผลของการออกกำลังกายเรื่องการเจริญอาหาร อีกไม่นานสุนัขจะเริ่มเชื่อมโยงการเดินเล่นกับมื้ออาหารซึ่งทำให้มันได้ประโยชน์จากทั้ง 2 กิจกรรม
- ถึงแม้สุนัขบางชนิดจะต้องทำกิจกรรมมากกว่าสุนัขชนิดอื่นๆ แต่สุนัขของคุณควรออกกำลังกายทุกวันหรืออย่างน้อย 2-3 ครั้งต่อสัปดาห์
- ถ้าคุณไม่สามารถมีส่วนร่วมกับการออกกำลังกายได้ก็ยังมีวิธีอื่นเพื่อให้สุนัขออกกำลังกาย พาสุนัขไปยังศูนย์เลี้ยงสัตว์เลี้ยงระหว่างวัน จ้างคนพาสุนัขไปเดินเล่นหรือไปยังสวนสาธารณะสุนัขและปล่อยให้มันเล่นกับสุนัขตัวอื่น
โฆษณา
-
ให้อาหารเวลาเดิมทุกวัน. ให้อาหารสัตว์เลี้ยง 2 ครั้งต่อวันในเวลาเดิมหรือตามคำแนะนำของสัตวแพทย์ สุนัขบางตัวชอบกินอาหารช่วงสายของวัน
- ถ้าหากสุนัขสุขภาพดีและมีพลังแต่มักจะถูกรบกวนสมาธิก่อนกินอาหารเสร็จก็ควรวางอาหารของมันไว้และเดินหนีไป เดินกลับมาหลังจากผ่านไปครึ่งชั่วโมงและเก็บจานถึงแม้ว่ามันกินอาหารไม่หมดก็ตาม อีกไม่นานมันจะสำนึกได้ว่าต้องกินอาหารเมื่อมีโอกาส
-
ทำให้มื้ออาหารสนุก. ให้สุนัขเล่นกับของเล่นที่มีอาหารซ่อนอยู่ข้างใน สอนสิ่งใหม่ๆ ให้กับมันและให้ขนมหรืออาหารที่ดีต่อสุขภาพเป็นรางวัล
-
ทำอาหารให้อร่อยกว่าเดิม. คุณสามารถผสมอาหารกระป๋องของสุนัข 2-3 ช้อนหรือเติมน้ำอุ่นหรือน้ำซุปบนอาหารปกติเพื่อทำให้อาหารอร่อยกว่าเดิม
- หรือคุณสามารถใช้น้ำเกรวี่ของสุนัข คุณสามารถหาซื้อได้ตามร้านขายผลิตภัณฑ์ของสัตว์เลี้ยง น้ำเกรวี่ของสุนัขมาเป็นผงให้คุณผสมกับอาหารแห้งและเติมน้ำอุ่นเพื่อทำให้อาหารอร่อยกว่าเดิม
-
เปลี่ยนแปลงสถานการณ์การให้อาหาร. ถ้าหากสุนัขยังคงไม่กินอาหารก็ควรลองหลายๆ แบบ สุนัขอาจจะต้องใช้เวลาเพื่อปรับตัวเข้าหาการเปลี่ยนแปลงแต่มันจะเป็นผลดีต่อสุนัขในระยะยาว:
- ให้อาหารสุนัขห่างจากสัตว์เลี้ยงตัวอื่น
- ใช้ชามอาหารที่แตกต่างจากเดิมหรือวางชามในความสูงที่สะดวกสบายมากขึ้น
- วางอาหารบนพื้นโดยตรงแทนที่จะเทใส่ชาม
- สุนัขบางตัวถูกรบกวนสมาธิโดยกิจกรรมและไม่สามารถจดจ่อกับมื้ออาหารได้ คุณต้องวางชามอาหารและน้ำในจุดที่เงียบซึ่งมันสามารถกินอาหารอย่างสงบได้
-
เปลี่ยนแปลงอาหาร. ลองอาหารยี่ห้ออื่นหรือเปลี่ยนจากอาหารแห้งเป็นอาหารเปียก ค่อยๆ เปลี่ยนในช่วงสัปดาห์: ผสมอาหารใหม่ ¼ เข้ากับอาหารเดิม ¾ เป็นเวลา 2-3 วัน จากนั้นผสมอย่างละครึ่งเป็นเวลา 2-3 วันและอื่นๆ วิธีนี้จะง่ายต่อการย่อยอาหารของมัน
- การเปลี่ยนยี่ห้ออาหารของสุนัขอาจทำให้ท้องอืดและท้องเสียได้
-
ทำอาหารให้สดเสมอ. อาหารของสุนัขต้องสดและเก็บในภาชนะที่ปิดเพื่อกันความชุ่มชื้นและแมลง ตรวจสอบวันหมดอายุของอาหารเมื่อคุณซื้อและตรวจสอบบ่อยๆ เมื่อเก็บไว้ที่บ้านโฆษณา
-
ปรึกษาสัตวแพทย์ถ้าหากสุนัขเบื่ออาหารรุนแรงโดยไม่มีสาเหตุ. ถ้าหากสุนัขของคุณมักจะกินอาหารได้ดีและหยุดกินโดยสิ้นเชิง คุณก็ควรปรึกษาสัตวแพทย์ ปัญหาในเรื่องของฟัน อาการเจ็บในช่องปากหรือปัญหาสุขภาพที่ร้ายแรงกว่านั้นอาจทำให้สุนัขเบื่ออาหาร
- สัตวแพทย์สามารถชั่งน้ำหนักสุนัขและตั้งเป้าหมายน้ำหนักที่สุนัขควรมี
-
มองหาสัญญาณของความเจ็บป่วย. สุนัขดูเหนื่อย หมดแรง กระหายน้ำอย่างรุนแรง เจ็บปวดหรือท้องอืด ขนไม่เงางามหรือมีเสียงแปลกๆ จากช่องท้องก็ควรพามันไปหาสัตวแพทย์ การตรวจเจอพยาธิในอุจจาระของสุนัขคือสัญญาณที่ชัดเจนของการมีพยาธิซึ่งต้องได้รับการรักษา
-
ตรวจหาโรคบิดของสุนัข. โรคบิดคือเมื่อลำไส้ของสุนัขพันกันซึ่งเป็นอาการที่รุนแรงและสามารถทำให้สุนัขเสียชีวิตภายในไม่กี่ชั่วโมง มองหาสัญญาณของโรคบิด เช่น สังเกตท้องของสุนัข เสียงโครกคราก การกระตุกและการสำรอกโดยไม่อาเจียน เมื่อสุนัขมีอาการใดอาการหนึ่งก็อาจเป็นสัญญาณของโรคบิดและคุณต้องนำสุนัขไปพบสัตวแพทย์ทันที
- อย่าเล่นกับสุนัขแรงๆ พาไปวิ่งหรือทำกิจกรรมที่หนักหน่วงอย่างน้อย 1 ชั่วโมงหลังกินอาหาร การทำเช่นนี้อาจทำให้สุนัขเป็นโรคบิดได้
-
ตรวจฟันของสุนัข. ยกริมฝีปากบนของสุนัขขึ้นเพื่อตรวจฟันของสุนัข ถ้าหากเจอฟันหลอหรือฟันสีน้ำตาล มีกลิ่นและมีคราบหินปูนสะสม สุนัขก็อาจจะเจ็บตัวเกินไปที่จะกินอาหาร พาสุนัขไปพบสัตวแพทย์ถ้าหากมีฟันโยก ฟันบิ่น ฟันหลอหรือฟันหลุด
- สัตวแพทย์สามารถสอนวิธีทำความสะอาดฟันของสุนัขเป็นประจำให้กับคุณได้
-
ให้อาหารตามใบจ่ายของสัตวแพทย์. สัตวแพทย์อาจจะจ่ายอาหารพิเศษเพื่อแก้ไขปัญหาสุขภาพของสุนัข สุนัขของคุณอาจจะไม่ชอบอาหารนี้แต่มันต้องกินให้มากพอเพื่อให้ได้สารอาหารที่ต้องการ
-
ปรึกษาสัตวแพทย์ถ้าหากไม่มีวิธีใดได้ผล. ถ้าหากสุนัขไม่กินอาหารพิเศษหรือสุขภาพของมันแย่กว่าเดิมก็ควรปรึกษาสัตวแพทย์ทันที สุนัขของคุณอาจต้องได้รับยาหรืออาหารเหลวโฆษณา
เคล็ดลับ
- ถึงแม้ว่าการให้อาหารคนกับสุนัขไม่ใช่ความคิดที่ดีแต่มี “อาหารคน” มากมายที่ดีต่อสุขภาพของสุนัขและเป็นขนมที่อร่อย เช่น ข้าวเปล่า (ข้าวขาวหรือข้าวกล้อง) ไก่และไข่สุก เนยถั่วและผักผลไม้ต่างๆ เช่น มันหวาน ถั่วเขียว แครอทและฟักทอง จำไว้ว่าอาหารเหล่านี้เหมาะสมกับสุนัขในปริมาณที่พอเหมาะและเป็นส่วนหนึ่งของอาหารสุนัขเท่านั้น
- วิธีที่ดีในการขุนสุนัขที่น้ำหนักน้อยกว่าเกณฑ์คือการให้ซาตินบอล ซาตินบอลคืออาหารที่อุดมไปด้วยไขมันที่สามารถทำได้ที่บ้านโดยใช้เนื้อวัว ข้าวโอ๊ต ไข่ น้ำมันและส่วนผสมอื่นๆ คุณสามารถหาสูตรได้ตามอินเตอร์เน็ต
โฆษณา
โฆษณา
