ดาวน์โหลดบทความ
ดาวน์โหลดบทความ
เชื้อราที่เล็บเท้าหรือชื่อทางการแพทย์ “ออนิโคไมโคซิส” พบได้ในกว่าครึ่งของประชากรที่มีอายุมากกว่า 70 ปีขึ้นไป นอกจากจะสร้างความอับอายแล้ว การเป็นเชื้อราที่เล็บเท้ายังเป็นภาพที่ไม่น่ามองอีกด้วยเพราะมันทั้งทำให้เล็บเท้าแห้งแตกและยังสามารถทำให้เล็บหลุดออกไปในที่สุดด้วย ในปัจจุบัน วงการแพทย์สามารถรักษาเชื้อราที่เล็บเท้าให้หายขาดได้แล้ว แต่เรามีวิธีง่ายๆซึ่งจะสามารถช่วยประหยัดเงินในกระเป๋าของคุณมานำเสนอ
ขั้นตอน
-
ใช้ครีมรักษาเชื้อราที่มีจำหน่ายทั่วไปตามร้านขายยาหรือห้างสรรพสินค้าชั้นนำในแผนกเครื่องสำอาง
-
หยุดการเจริญเติบโตของเชื้อราโดยการตัดออกซิเจนซะ!. วิธีนี้สามารถทำได้โดยการทาปิโตรเลียมเจลบนเล็บที่แห้งสนิทระหว่างนอนหลับ (ต้องเป็นเล็บที่แห้งสนิทเท่านั้น เพราะการทาปิโตรเลียมเจลบนเล็บที่เปียกหรือมีความชื้น จะทำให้เชื้อราเจริญเติบโตได้) หรือเคลือบเล็บไว้ด้วยยาทาเล็บ 2วิธีนี้จะช่วยยั้บยั้งการกระจายของเชื้อราไปยังเล็บที่งอกใหม่
-
ใช้ผงกำมะถันที่สามารถซื้อได้ตามร้านขายยาทั่วไปหรืออาจมีวางจำหน่ายอยู่ในแผนกสวนของห้างสรรพสินค้า. ผงกำมะถันนี้สามารถนำมาผสมกับครีมรักษาเชื้อรา และนำไปใช้ควบคู่กันได้
-
เปลี่ยนบรรยากาศให้เจ้าเชื้อราตัวร้ายเสียหน่อย.
- สวมรองเท้าแบบหัวเปิด เพื่อให้เท้า(และเชื้อรา)ได้รับแสงแดดบ้าง แต่ถ้าหากไม่สะดวก ลองหันมาสวมรองเท้าที่หลวมขึ้น เพราะเชื้อราเจริญเติบโตได้ดีในที่มืดและอับชื้น และเพื่อไม่ให้เกิดการระคายเคืองผิวในภายหลัง อย่าลืมว่าควรปกป้องผิวด้วยผลิตภัณฑ์กันแดดเสียก่อน
-
ทำความสะอาดเท้า. มีผู้คนมากมายได้ทำการทดลองปฏิบัติและเห็นผลมาแล้ว ไม่แน่ อาจมีหนึ่งในวิธีเหล่านี้ที่สามารถช่วยคุณได้
- แช่เท้าในน้ำเปล่าผสมน้ำส้มสายชู:
- น้ำส้มสายชู 1/4 ถ้วย (60 มล.)
- น้ำเปล่า 2 ลิตร โดยให้แช่เท้าในส่วนผสมนี้ทุกวันต่อเนื่องเป็นเวลา 2 สัปดาห์ และจากนั้นทำต่อเนื่องอย่างน้อยเดือนละ 1 ครั้ง
- ใช้เพอร์ออกไซด์และผงฟู:
- น้ำร้อน 4 ถ้วย (1 ลิตร)
- เพอร์ออกไซด์ 1/4 ถ้วย (60 มล.)
- ผงฟู 1/2 ถ้วย (120 มล.)
- ดีเกลือบริสุทธิ์ 1/2 ถ้วย (120 มล.)
- ผสมส่วนผสมทั้งหมดเข้าด้วยกัน แล้วจึงเติมน้ำส้มสายชู 1/4 ถ้วย (60 มล.)
- แช่นิ้วเท้าที่เป็นเชื้อราลงในน้ำส้มสายชู จากนั้นในตอนเช้า นำสำลีก้อนชุบน้ำส้มสายชูวางบนเล็บเท้าแล้วยึดให้เข้าที่ เปลี่ยนก้อนสำลีอีกครั้งในตอนเย็น วิธีนี้จะต้องทำต่อเนื่องประมาณ 4 สัปดาห์หรือจนกว่าเชื้อราทั้งหมดจะหายไป
- แช่นิ้วเท้าที่เป็นเชื้อราลงในส่วนผสมของน้ำยาบ้วนปากและน้ำส้มสายชู น้ำยาบ้วนปากมีคุณสมบัติในการกำจัดเชื้อราเพราะมีส่วนผสมของไธมอล และน้ำมันสกัดจากใบไทม์อีกด้วย
- แช่เท้าในน้ำเปล่าผสมน้ำส้มสายชู:
-
ใช้น้ำมันสกัดจากผลส้ม. อีกหนึ่งตัวเลือกที่ดีคือการผสมน้ำมันสกัดจากผลส้มเข้ากับน้ำส้มสายชูและแอลกอฮอล์บริสุทธิ์เข้าด้วยกันแล้วนำมาทาระหว่างนิ้วเท้าและบนเล็บเท้า หรือจะหาซื้ออุปกรณ์เสริมมาเพื่อใช้หยดส่วนผสมก็จะลดความยุ่งยากลงไปได้มากเลยทีเดียว
-
ลองใช้น้ำมันสกัดอื่นๆ. ร้านขายยาหรือร้านที่จำหน่ายสินค้าเพื่อสุขภาพมักมีน้ำมันสกัดดีๆให้เลือกมากมายอาทิ ทีทรีออยล์ น้ำมันสกัดจากเมล็ดนีม น้ำมันสกัดจากใบไทม์ น้ำมันสกัดจากเมล็ดอาร์แกน หรือน้ำมันสกัดออริกาโน
- สารสกัดจากดอกสเนครูทนับเป็นอีกตัวเลือกที่น่าสนใจไม่น้อย และยังได้ผลดีอีกด้วย
โฆษณา
-
หลีกเลี่ยงการเดินเท้าเปล่า. โดยเฉพาะในที่สาธารณะควรสวมรองเท้าทุกครั้ง
-
หมั่นดูแลให้เท้าและรองเท้าแห้งอยู่เสมอ. การเปลี่ยนถุงเท้าบ่อยๆและเลือกถุงเท้าจากผ้าฝ้ายเป็นคำตอบที่ดี
-
ไม่สวมรองเท้าที่บีบแน่นจนเกินไปเพราะจะทำให้เกิดความอับชื้นได้ง่าย.
-
ดูแลและรักษาความสะอาดตู้เก็บเสื้อผ้าสม่ำเสมอ และหมั่นทาแป้งยับยั้งเชื้อราที่เท้า.โฆษณา
คำแนะนำ
- เนื่องจากเล็บเท้าเจริญเติบโตค่อนข้างช้า วิธีรักษาเชื้อราข้างต้นอาจต้องใช้เวลานานถึง 6 เดือน จึงจะเห็นผลที่ชัดเจน
- หากสังเกตุเห็นว่าเท้าของคุณมีสีแดงเรื่อๆ นั่นเป็นสัญญาณว่าคุณอาจมีการติดเชื้อยีสต์ (รา) ร่วมด้วย การใช้น้ำส้มสายชูสามารถบรรเทาอาการติดเชื้อนี้ได้ แต่ทั้งนี้ควรจะลดการบริโภคอาหารที่มีส่วนผสมของยีสต์และอาหารที่มีรสหวานจัด
- ทำความสะอาดภายในรองเท้าด้วยน้ำส้มสายชูและนำไปตากแดดให้แห้ง
- ทำความสะอาดเท้าด้วยสบู่สูตรยับยั้งเชื้อรา
- พึงระวังไว้เสมอว่าเชื้อราที่เล็บเท้า หรือที่รู้จักกันโดยทั่วไปว่าฮ่องกงฟุตนี้ ติดต่อกันได้ง่ายโดยเฉพาะตามที่สาธารณะอย่างสระว่ายน้ำหรือฟิตเนส
- หากเด็กเล็กหรือผู้สูงอายุเป็นเชื้อราที่เล็บเท้าการใช้น้ำมันหรือสารสกัดจากธรรมชาติจะเหมาะสมมากกว่า และหากเป็นผู้ป่วยเบาหวานหรือโรคอื่นๆไม่ควรทดลองใช้ผลิตภัณฑ์กับตนเองเนื่องจากอาจเกิดภาวะแทรกซ้อนได้ ตัวเลือกที่ดียังคงเป็นสารสกัดธรรมชาติต่างๆ อาทิ น้ำมันสกัดจากเมล็ดอาร์แกนหรือทีทรีออยล์
- ควรอ่านฉลากยาและศึกษาข้อมูลของผลิตภัณฑ์ต่างๆให้ถี่ถ้วนก่อนนำมาใช้
- เลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่มาจากธรรมชาติหรือมีส่วนผสมหลักจากธรรมชาติอย่างทีทรีออยล์ น้ำมันตะไคร้ น้ำมันสกัดจากเมล็ดอาร์แกน หรือน้ำมันสกัดจากอัลมอน
- พยายามรักษาให้เท้าแห้งอยู่ตลอดเวลา
- ข้อแนะนำในการรักษาเชื้อราที่เล็บเท้าเหล่านี้อาจใช้เวลาแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล อีกทั้งยังอาจได้ผลลัพธ์ที่ไม่เท่ากัน สิ่งที่สำคัญคือควรศึกษาข้อมูลให้ดีและยังต้องให้เวลาในการรักษาอีกด้วย
โฆษณา