PDF download ดาวน์โหลดบทความ PDF download ดาวน์โหลดบทความ

ผู้คนเริ่มหันมาสนใจกินเมล็ดมะละกอกันเมื่อไม่นานมานี้ เพราะเชื่อว่ามีศักยภาพเป็นอาหารเพื่อสุขภาพ แม้จะยังไม่ได้มีการพิสูจน์ความถูกต้องของหลักฐานส่วนใหญ่ที่ใช้สนับสนุนความคิดนี้ แต่เมล็ดมะละกอไม่มีพิษภัย และอาจคุ้มค่าที่คุณจะลองชิมดูเผื่อไว้ว่าอาจจะดีจริง คุณอาจกินเมล็ดมะละกอโดยคิดว่าเป็นอาหารเสริมและกินทั้งเมล็ด หรือไม่อย่างนั้น ก็บดเมล็ดมะละกอให้ป่นเป็นผงและใช้ประโยชน์แบบเดียวกันกับพริกไทย เพราะรสชาติคล้ายกันพอควร


ส่วน 1
ส่วน 1 ของ 3:

กินดิบเป็นอาหารเสริมชนิดหนึ่ง

PDF download ดาวน์โหลดบทความ
  1. มะละกอลูกเล็กมีแนวโน้มจะมีเมล็ดรสชาติอ่อนกว่าเมล็ดของมะละกอลูกใหญ่ซึ่งจะขมกว่า
    • เมื่อเริ่มคุ้นชินกับรสชาติของเมล็ดมะละกอ คุณสามารถหันไปหามะละกอลูกใหญ่ได้ แทนที่จะคอยมองหาแต่มะละกอลูกเล็ก อย่างไรก็ตาม การเริ่มต้นด้วยมะละกอลูกเล็กจะช่วยให้คุณคุ้นชินกับรสชาติ
  2. [1] คุณสามารถกินเมล็ดมะละกอได้ทั้งเมล็ด แต่สำหรับสัปดาห์แรกหรือประมาณนั้น ควรเคี้ยวทุกวันเพียงวันละหนึ่งหรือสองเมล็ด หากกินจำนวนมากเกินไปในทันทีทันใด ต่อมรับรสและระบบย่อยอาหารของคุณอาจจะรับไม่ไหว
    • ในครั้งแรกที่ได้ลิ้มรสนั้น รสขมและคล้ายกับพริกไทยของเมล็ดมะละกออาจจะรุนแรงมาก หากคุณเร่งตัวเองมากเกินไปและกินจำนวนมากเกินไปในทันที คุณอาจเข็ดขยาดจนไม่กล้ากินอีกเลย
    • แม้เมล็ดมะละกอจะกินได้อย่างปลอดภัย แต่การกินอะไรสักอย่างในปริมาณมาก โดยที่ท้องไส้ของคุณยังไม่คุ้นชินกับสิ่งนั้น อาจทำให้ระบบย่อยอาหารปั่นป่วนได้ การเริ่มต้นอย่างช้าๆ เป็นวิธีดีที่สุดเพื่อหลีกเลี่ยงหรือลดความปั่นป่วนให้เหลือน้อยที่สุด
  3. ในสัปดาห์ที่สองให้ค่อยๆ เพิ่มปริมาณเป็น 1/4 ช้อนโต๊ะ แล้วเป็น 1/2 ช้อนโต๊ะ จนในที่สุดกิน 1 ช้อนโต๊ะ/วัน
    • กินเมล็ดมะละกอพร้อมกับมื้ออาหารที่หนักโปรตีน จะช่วยให้ระบบย่อยอาหารของคุณยิ่งทำงานได้ง่ายมากขึ้น การกินแบบนี้ยังช่วยให้ร่างกายได้ประโยชน์สูงสุดง่ายมากขึ้น จากเอนไซม์ที่ย่อยโปรตีนซึ่งมีอยู่ในเมล็ดมะละกอ จึงช่วยเสริมสุขภาพระบบทางเดินอาหารของคุณ
  4. หากคุณเหลือทนกับความขมและรสแรงของเมล็ดมะละกอ ให้ลองกินเมล็ดมะละกอทั้งเมล็ดกับน้ำผึ้ง 1 ช้อนโต๊ะ (5 มิลลิลิตร) เพื่อช่วยบรรเทาความขม
    • แม้จะกินเมล็ดมะละกอทั้งเมล็ดกับน้ำผึ้ง ก็ยังสมควรเคี้ยวเมล็ดมะละกอสักสี่ห้าครั้งก่อนกลืน
    • เชื่อกันว่าการกินน้ำผึ้งพร้อมกับเมล็ดมะละกอช่วยฆ่าพยาธิได้ดี จึงเป็นไปได้ว่าการกินสองสิ่งนี้ด้วยกันเป็นประโยชน์ต่อสุขภาพของคุณด้วย
    โฆษณา
ส่วน 2
ส่วน 2 ของ 3:

ใช้แทนพริกไทย

PDF download ดาวน์โหลดบทความ
  1. ใช้ครกกับสากตำเมล็ดมะละกอครั้งละ 1 ช้อนโต๊ะ (5 มิลลิลิตร) แล้วป่นให้เป็นผงหยาบหรือละเอียด
    • หากต้องการ คุณอาจใช้ที่บดพริกไทยบดเมล็ดมะละกอที่แห้งและสะอาดได้โดยตรง แทนการใช้ครกกับสาก
    • เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ดีที่สุด ให้เลือกกินเมล็ดมะละกอที่ตำหรือบดใหม่ๆ ดีกว่าที่ตำหรือบดไว้นานแล้ว
  2. ใช้เมล็ดพริกไทยป่นแทนพริกไทยดำป่นได้ดี และใช้แทนกันได้ในสัดส่วนที่เท่ากัน
    • โปรดสังเกตว่าเมล็ดมะละกอไม่ได้มีรสชาติเหมือนกันอย่างกับแกะกับพริกไทย บางคนเปรียบเทียบรสชาติของมันว่าผสมผสานระหว่างพริกไทยกับมัสตาร์ด แต่หากใช้ในปริมาณน้อย จะไม่รู้สึกถึงความแตกต่างมากพอจะส่งผลด้านลบต่ออาหารที่คุณใส่มันแทนพริกไทย
  3. หนึ่งในประโยชน์ที่ดีมากของการใช้เมล็ดมะละกอแทนพริกไทย คือใช้เมล็ดมะละกอป่นปรุงรสสเต็ก เนื้อไก่ หรือเนื้อหมู ก่อนจะใช้เนื้อเหล่านั้นทำอาหาร
    • ตัวอย่างเช่น คุณสามารถบดเมล็ดมะละกอจำนวน ½ ช้อนโต๊ะ (2.5 มิลลิลิตร) แล้วใช้ปรุงรสสเต็กปริมาณเสิร์ฟหนึ่งที่ โดยใช้เมล็ดมะละกอป่นลูบไล้บนชิ้นเนื้อที่จะทำสเต็ก หมักไว้หนึ่งชั่วโมงก่อนทอดในน้ำมันมะกอกจำนวนเล็กน้อย
    • เอ็นไซม์ปาเปนในเมล็ดมะละกอทำหน้าที่เป็นสารทำให้เนื้อนุ่ม รสของมันช่วยเสริมรสชาติให้กับสเต็ก และยังช่วยให้คุณย่อยสเต็กที่ลงไปอยู่ในท้องของคุณแล้ว
  4. วิธียอดนิยมอีกวิธีหนึ่งในการใช้เมล็ดมะละกอคือผสมในน้ำสลัดน้ำใส ซึ่งวิธีทำคล้ายกับทำน้ำสลัดน้ำใสผสมพริกไทย
    • น้ำสลัดสูตรหนึ่งที่ทำจากเมล็ดมะละกอคือ เมล็ดมะละกอ 1 ช้อนโต๊ะ (15 มิลลิลิตร), เนื้อมะละกอ ¼ ถ้วยตวง (60 มิลลิลิตร), หอมแดง 1/4 ถ้วยตวง (60 มิลลิลิตร), ผักชีสด 1/4 ถ้วยตวง (60 มิลลิลิตร), กระเทียม 1 กลีบ, ขิง 5 ช้อนโต๊ะ (25 มิลลิลิตร), น้ำส้มสายชูแอปเปิล 2 ช้อนโต๊ะ (30 มิลลิลิตร), น้ำมะนาว 1 ลูก, น้ำผึ้ง 1 ช้อนโต๊ะ (5 มิลลิลิตร), น้ำมันมะกอก 1/4 ถ้วยตวง (60 มิลลิลิตร), เกลือสมุทร 1/2 ช้อนโต๊ะ (2.5 มิลลิลิตร) และพริกป่นติดปลายนิ้วหากชอบ [2]
    • ปั่นส่วนผสมทั้งหมด ยกเว้นน้ำมันมะกอก ในเครื่องปั่นจนเหลว
    • ค่อยๆ เทน้ำมันมะกอกลงในเครื่องปั่น หรือเครื่องผสมอาหารที่กำลังทำงานอยู่เพื่อผสมให้เข้ากันดี
    • สูตรนี้จะทำน้ำสลัดเมล็ดมะละกอได้ 1 ถ้วย (250 มิลลิลิตร) คุณสามารถเก็บปิดผนึกในตู้เย็นได้นานถึงหนึ่งสัปดาห์
    โฆษณา
ส่วน 3
ส่วน 3 ของ 3:

หมายเหตุเพิ่มเติมเรื่องการใช้งานและเก็บรักษา

PDF download ดาวน์โหลดบทความ
  1. ในตอนนี้ซึ่งคุณรู้วิธีกินเมล็ดมะละกอแล้ว คุณอาจยังคงกังขาว่าเหตุใดถึงสมควรจะกินมัน
    • เหตุผลข้อแรกคือ เมล็ดมะละกอมีกรดโอเลอิกและปาลมิติกในระดับสูง เชื่อกันว่ากรดทั้งสองชนิดช่วยให้ร่างกายของคุณต้านมะเร็ง [3]
    • ยาแผนโบราณของจีนและญี่ปุ่นใช้เมล็ดมะละกอช่วยขับพิษและเสริมความแข็งแรงให้กับตับ [4]
    • เชื่อกันว่าสารฟลาโวนอยด์ในเมล็ดมะละกอช่วยป้องกันเชื้อจุลินทรีย์ไม่ให้เกิดการติดเชื้อ และเชื่อว่าช่วยปกป้องไตด้วย
    • ผลการศึกษารายหนึ่งกับเด็กชาวไนจีเรีย พบว่าร้อยละ 76.7 ของเด็กๆ กำจัดพยาธิลำไส้หมดไปได้หลังจากกินเมล็ดมะละกอทุกวันนานหนึ่งสัปดาห์ [5]
  2. วิธีง่ายที่สุดและได้ผลดีที่สุดเพื่อให้ได้มาซึ่งเมล็ดมะละกอคือ ซื้อหรือเก็บมะละกอที่ปลูกเองมา แล้วใช้ช้อนโลหะควักเอาเมล็ดออก.
    • หลังจากใช้ช้อนตักเมล็ดออกมา ให้วางเมล็ดแผ่ลงบนครึ่งหนึ่งของผ้าขนหนูหรือผ้าเช็ดจานสะอาด พับครึ่งผ้าผืนนั้นเพื่อประกบเมล็ดไว้กลางผืนผ้า แล้วถูเมล็ดเข้าด้วยกันเร็วๆ เพื่อให้ชิ้นส่วนอื่นใดของผลมะละกอที่ยังติดอยู่หลุดออก
    • วางเมล็ดลงบนกระชอนแล้วล้างผ่านน้ำไหล กระจายเมล็ดให้แยกออกจากกัน และวางไว้ข้างบานหน้าต่างเพื่อตากแดดให้แห้งนาน 4-5 วัน
    • คุณอาจใช้เครื่องอบแห้งอบเมล็ดมะละกอได้ด้วย โดยปฏิบัติตามคำแนะนำการใช้งานของบริษัทผู้ผลิตอย่างระมัดระวัง เพื่อไม่ให้เมล็ดมะละกอแห้งเร็วเกินไป หรือแห้งไม่ทั่วถึงมากพอ อย่างไรก็ตาม เป็นเรื่องปกติที่เครื่องอบแห้งจะลดเวลาที่ต้องใช้ในการทำให้แห้งจากหลายวันเป็นหลายชั่วโมง
  3. หากคุณไม่ได้มีแผนจะกินหรือใช้เมล็ดมะละกอทั้งหมดภายในสองสามวันแรก ควรบรรจุใส่ภาชนะซึ่งแช่แข็งได้ปลอดภัยและปิดผนึก ก่อนเก็บไว้ในช่องแช่แข็ง
    • หากคุณกินเมล็ดมะละกออย่างต่อเนื่องมากพอใช้ คุณอาจเก็บมันไว้ในตู้เย็น แทนที่จะใส่ในช่องแช่แข็ง แต่หากคุณไม่คิดว่าจะกินได้หมดภายในประมาณหนึ่งสัปดาห์ จะดีที่สุดหากจะแช่แข็งไว้บางส่วน
    • เมล็ดมะละกอแช่แข็งสามารถรักษาคุณค่าทางอาหารไว้ได้นาน 6 ถึง 12 เดือน
    • ละลายเมล็ดมะละกอแช่แข็งในตู้เย็นชั่วข้ามคืนก่อนที่จะใช้ ส่วนอีกทางเลือกหนึ่งคือแช่เมล็ดมะละกอแช่แข็งในน้ำร้อนนานสี่ห้านาทีจนเมล็ดอ่อนลง
  4. อย่าเติมเมล็ดมะละกอลงในสมูทตี้ หรืออาหารรสหวานที่คล้ายคลึงกัน. แม้ในทางเทคนิคนั้น คุณสามารถใส่เมล็ดมะละกอลงในสมูทตี้ได้ แต่หลายคนเห็นพ้องกันว่ารสชาติที่ขมคล้ายกับพริกไทยมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นที่จะไม่ช่วยให้เจริญอาหาร [6]
    • เมล็ดมะละกออาจป่นได้ไม่ละเอียดในเครื่องปั่นคุณภาพต่ำ ครกกับสาก เครื่องผสมอาหาร หรือที่บดพริกไทย เป็นเหล่าทางเลือกดีที่สุดของคุณหากต้องการจะป่นเมล็ดมะละกอให้เป็นผง
    โฆษณา

สิ่งของที่ใช้

  • ช้อนโลหะ
  • ผ้าขนหนูหรือผ้าเช็ดจาน
  • กระชอน
  • เครื่องปั่นหรือเครื่องผสมอาหาร (หากต้องการ)
  • ครกกับสาก (หากต้องการ)
  • ที่บดพริกไทย (หากต้องการ)

เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

มีการเข้าถึงหน้านี้ 26,803 ครั้ง

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม

โฆษณา