ดาวน์โหลดบทความ ดาวน์โหลดบทความ

การจัดการเวลาถือเป็นทักษะสำคัญที่ต้องสร้าง เพราะมันช่วยให้คุณใช้เวลาในแต่ละวันได้อย่างคุ้มค่าและเป็นหนทางสู่ความสำเร็จในด้านต่างๆ เช่น การงานและการเรียน ในการจัดการเวลาของตัวเองนั้น ให้คุณใช้เวลาอย่างมีประสิทธิภาพด้วยการทำงานในสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมและจัดลำดับความสำคัญของงาน ลดสิ่งรบกวนด้วยการปิดโทรศัพท์มือถือและโซเชียลมีเดียหากจำเป็น ปฏิบัติตามตารางประจำวันที่ทำให้คุณใช้เวลาในแต่ละวันได้อย่างคุ้มค่าที่สุด

วิธีการ 1
วิธีการ 1 ของ 3:

ใช้เวลาอย่างมีประสิทธิภาพ

ดาวน์โหลดบทความ
  1. สภาพแวดล้อมที่คุณทำงานอยู่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพโดยรวมได้ การสร้างสภาพแวดล้อมให้เหมาะกับการทำงานนั้นไม่มีกฎตายตัว เพราะฉะนั้นให้ทำในสิ่งที่คุณรู้สึกว่าเหมาะกับตัวเอง ทำงานท่ามกลางของตกแต่งสร้างแรงบันดาลใจที่ช่วยให้คุณรู้สึกกระตือรือร้นและมีไฟ ความรู้สึกเหล่านี้จะช่วยให้คุณจดจ่ออยู่กับงานและทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ [1]
    • เช่น ศิลปินบางคนอาจสร้างแรงบันดาลใจให้คุณ ลงทุนซื้อภาพพิมพ์ที่เป็นผลงานภาพวาดของเขาสัก 2-3 ภาพแล้วนำมาแขวนไว้บนผนัง
    • ถ้าคุณสามารถเลือกพื้นที่ทำงานได้ ให้เลือกพื้นที่ที่ไม่มีสิ่งรบกวน การทำงานหน้าทีวีอาจไม่ใช่ความคิดที่ดีเท่าไหร่ แต่คุณอาจจะดันโต๊ะทำงานเข้ามุมในห้องนอนและนั่งทำงานตรงนั้นได้
  2. ก่อนที่คุณจะลุยกองงานในแต่ละวัน ให้จัดลำดับงานที่ต้องทำเสียก่อน รายการสิ่งที่ต้องทำนั้นเป็นเครื่องมือที่ดี แต่จัดลำดับก่อนสักเล็กน้อยแทนที่จะสักแต่เขียนทุกอย่างที่ต้องทำให้เสร็จลงไป จัดกลุ่มงานที่ต้องทำตามความสำคัญ
    • ก่อนเขียนรายการ ให้เขียนประเภทของงานตามความสำคัญก่อน เช่น งานที่อยู่ในหมวด "เร่งด่วน" ต้องทำให้เสร็จภายในวันนี้ งานที่อยู่ในหมวด "สำคัญแต่ไม่ด่วน" คืองานที่สำคัญแต่รอได้ ส่วนงานที่อยู่ในหมวดเช่น "สำคัญน้อย" นั้นสามารถเลื่อนไปก่อนได้ถ้าจำเป็น
    • เขียนรายการใต้งานแต่ละประเภท เช่น ถ้าคุณจำเป็นต้องเขียนรายงานการทำงานให้เสร็จ งานนั้นจัดเป็นงานด่วน ถ้าคุณต้องเริ่มงานอีกโปรเจกต์นึงแต่ว่ากำหนดส่งยังไม่ใช่ในอีก 2 สัปดาห์ งานนั้นคืองานที่ "สำคัญแต่ไม่ด่วน" ถ้าคุณอยากไปวิ่งหลังเลิกงานแต่ว่ามันไม่ใช่เรื่องจำเป็น งานนั้นก็จะเป็นงานที่ "สำคัญน้อย"
  3. การทำงานที่สำคัญให้เสร็จก่อนเป็นอย่างแรกในตอนเช้าจะทำให้คุณรู้สึกถึงความสำเร็จ คุณจะรู้สึกว่าคุณประสบความสำเร็จแล้วในวันนั้นและความเครียดมหาศาลก็จะหายไป เริ่มต้นวันใหม่ด้วยการลุยงานที่สำคัญที่สุดในรายการก่อน [2]
    • เช่น ถ้าคุณต้องตอบอีเมล 5 ฉบับและมีรายงานที่ต้องอ่านทวน ให้ทำงานนั้นทันทีที่ถึงออฟฟิศ
    • หยุดพูดคุยกับคนอื่นโดยไม่จำเป็นก่อนเริ่มงานสำคัญ
  4. ใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ด้วยการพกงานติดตัวไว้ตลอด ถ้าคุณมีเวลาเอื่อยเฉื่อยสักครู่บนรถเมล์ ให้ใช้เวลานั้นอ่านหนังสือที่เกี่ยวกับการเรียนหรือการทำงาน ถ้าคุณกำลังต่อแถวในซูเปอร์มาร์เก็ต ให้ตอบอีเมลเกี่ยวกับงานในโทรศัพท์มือถือ ถ้าคุณมีงานติดตัวไว้ตลอด คุณก็จะสามารถใช้เวลาได้อย่างคุ้มค่าที่สุดเสมอ [3]
    • ถ้าคุณเป็นนักเรียน/นักศึกษา ลองคิดเรื่องการลงทุนซื้อหนังสือเสียงหรือบันทึกเสียงบรรยายของอาจารย์ ระหว่างที่ต่อแถวหรือเดินไปเรียน คุณจะได้ฟังเนื้อหาในวิชาได้
  5. หลายคนเข้าใจว่าการทำงานหลายอย่างพร้อมกันคือวิธีการทำงานให้ได้เยอะขึ้นในแต่ละวันและเป็นการจัดการเวลาอย่างชาญฉลาด แต่จริงๆ แล้วการจดจ่ออยู่กับหลายๆ งานในเวลาเดียวกันทำให้ประสิทธิภาพการทำงานของคุณลดลง คุณจะใช้เวลาในการทำแต่ละงานมากขึ้นเพราะว่าคุณไม่ได้จดจ่ออยู่กับงานไหนเลยอย่างเต็มที่ เพราะฉะนั้นให้จดจ่ออยู่กับงานใดงานหนึ่งให้เต็มที่ไปทีละงาน วิธีนี้จะทำให้คุณทำงานเสร็จเร็วขึ้น ซึ่งจะทำให้คุณใช้เวลาในแต่ละวันได้อย่างคุ้มค่ามากที่สุด [4]
    • เช่น ตอบอีเมลให้หมด จากนั้นล็อกเอาต์จากบัญชีอีเมลแล้วไปทำงานอื่น ยังไม่ต้องกังวลเรื่องอีเมลในตอนนี้ ถ้าคุณจำเป็นต้องตอบอีเมลอีกภายหลังในวันนั้น คุณก็ค่อยไปทำหลังจากที่ทำงานตรงหน้าเสร็จแล้ว
    โฆษณา
วิธีการ 2
วิธีการ 2 ของ 3:

ลดสิ่งรบกวน

ดาวน์โหลดบทความ
  1. เมื่อไหร่ก็ตามที่ทำได้ให้ปิดโทรศัพท์มือถือ เพราะโทรศัพท์ขโมยเวลาในแต่ละวันที่คุณสามารถใช้ให้เกิดประโยชน์ได้ไปอย่างมหาศาล เมื่อคุณสามารถเข้า Facebook หรือเหลือบอ่านอีเมลได้แค่ปลายนิ้ว คุณก็มีโอกาสที่จะทำอย่างนั้นมากขึ้น ช่วยให้ตัวเองทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นด้วยการปิดโทรศัพท์มือถือระหว่างที่คุณกำลังพยายามทำอย่างอื่นอยู่ ถ้าอดใจไม่ไหวเอื้อมมือไปหยิบโทรศัพท์เพราะอยากเลื่อนงานออกไปก่อน คุณก็จะเห็นแต่จอเปล่าๆ แทน [5]
    • ถ้าคุณจำเป็นต้องเปิดโทรศัพท์สำหรับการทำงาน ให้วางโทรศัพท์ไว้อีกฟากหนึ่งของห้อง ถ้าคุณเข้าถึงโทรศัพท์ได้ยาก คุณก็จะไม่ค่อยหยิบขึ้นมาดูเท่าไหร่ นอกจากนี้คุณก็อาจจะปิดการแจ้งเตือนในโทรศัพท์ที่ไม่จำเป็นสำหรับการทำงานด้วย
  2. ทุกวันนี้หลายคนต้องใช้คอมพิวเตอร์หรืออินเทอร์เน็ตในการทำงาน การทำงานโดยเปิด Facebook Twitter หรือเว็บไซต์ที่ทำให้วอกแวกอื่นๆ ไว้ด้วยนั้นส่งผลที่ไม่ดีต่อทักษะการจัดการเวลา นอกจากนี้สมาธิคุณอาจจะหลุดได้หากมีแท็บจากโปรเจกต์เก่าหรือการค้นหาในอินเทอร์เน็ตที่ไม่เกี่ยวข้องขึ้นมา ปิดแท็บเว็บไซต์ที่ใช้งานเสร็จแล้วทันทีจนเป็นนิสัย จดจ่อสมาธิทั้งหมดไปที่เว็บไซต์ที่ต้องใช้ทำงาน [6]
    • ท้าทายตัวเองให้เปิดเว็บไซต์ค้างไว้แค่ 1-2 แท็บ
  3. บางครั้งแรงกระตุ้นที่จะเข้า Facebook หรือ Twitter นั้นก็ยากที่จะต้านทาน ถ้าคุณมีปัญหากับโซเชียลมีเดีย ก็มีแอปพลิเคชันและเว็บไซต์มากมายที่คุณสามารถใช้ปิดกันเว็บไซต์ที่รบกวนสมาธิได้ชั่วคราว [7]
    • SelfControl เป็นแอปฯ สำหรับผู้ใช้คอมพิวเตอร์ Mac ที่ปิดกั้นการเข้าถึงเว็บไซต์ที่คุณเลือกตามระยะเวลาที่ตั้งไว้ สามารถดาวน์โหลดได้ฟรี
    • ถ้าคุณจำเป็นต้องออฟไลน์ไปเลย แอปฯ Freedom ก็ช่วยให้คุณปิดกั้นการเข้าถึงอินเทอร์เน็ตได้ครั้งละสูงสุด 8 ชั่วโมง
    • Leechblock โปรแกรมเสริมใน Firefox ช่วยให้คุณจำกัดการใช้บางเว็บไซต์ตามเวลาที่กำหนดไว้ในแต่ละวัน
  4. การถูกขัดจังหวะจะกระทบขั้นตอนการทำงานของคุณ ถ้าคุณกำลังทำงานอยู่แล้วหยุดไปทำอย่างอื่น คุณจะกลับเข้าสู่โหมดทำงานได้ยาก ระหว่างที่กำลังทำงาน พยายามทำงานนั้นให้เสร็จก่อนลุกไปทำอย่างอื่น งานอื่นไว้ทีหลังได้ระหว่างที่คุณกำลังพยายามทำงานตรงหน้าให้เสร็จ [8]
    • เช่น ถ้าคุณนึกขึ้นได้ว่าคุณต้องตอบอีเมลระหว่างที่กำลังทำงานอื่นอยู่ อย่าหยุดเพื่อไปตอบอีเมล แต่ให้จดไว้ที่ไหนสักที่ว่าคุณต้องส่งอีเมล แล้วค่อยกลับไปทำหลังจากที่คุณทำงานตรงหน้าเสร็จแล้ว
    • จำไว้ว่าบางครั้งการถูกขัดจังหวะก็เป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ เช่น ถ้าคุณได้รับสายด่วนระหว่างทำงาน คุณก็ควรรับโทรศัพท์ พยายามหลบเลี่ยงการถูกขัดจังหวะให้ได้มากที่สุด แต่อย่าก่นด่าตัวเองเวลาที่มีสิ่งรบกวนเกิดขึ้นระหว่างทำงานเป็นครั้งคราว
    โฆษณา
วิธีการ 3
วิธีการ 3 ของ 3:

ปฏิบัติตามตารางงานประจำวัน

ดาวน์โหลดบทความ
  1. เทคโนโลยีคือสิ่งที่ช่วยจัดการเวลาและติดตามกำหนดส่งงาน การนัดหมาย และอื่นๆ ได้เป็นอย่างดี เพราะฉะนั้นใช้ปฏิทินที่อยู่ในโทรศัพท์มือถือและคอมพิวเตอร์ เขียนงานที่ต้องทำในแต่ละวันลงไป เช่น การนัดหมายและตารางทำงานหรือตารางเรียน ตั้งการแจ้งเตือนให้ตัวเอง เช่น ให้โทรศัพท์ส่งแจ้งเตือนล่วงหน้า 1 สัปดาห์ก่อนถึงกำหนดส่งรายงาน และกำหนดเวลาสำหรับงานต่างๆ เช่น อ่านหนังสือเรียนและทำโปรเจกต์ [9]
    • ปฏิทินกระดาษก็เป็นตัวเลือกที่ดีเหมือนกันถ้าคุณชอบความรู้สึกสะใจเวลาได้ขีดฆ่างานออก หรือคุณชอบจัดระเบียบรายการสิ่งที่ต้องทำแบบเห็นภาพ
  2. ระบุช่วงเวลาที่คุณทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุด. แต่ละคนก็มีช่วงเวลาที่ทำงานได้ดีที่สุดในแต่ละวันต่างกัน การรู้ว่าตัวเองใช้เวลาได้อย่างชาญฉลาดมากที่สุดตอนไหนและวางแผนทำงานในช่วงเวลาเหล่านั้นจะมีประโยชน์กับคุณมาก เช่น ถ้าคุณคิดว่าตัวเองกระตือรือร้นที่สุดในช่วงเช้า พยายามทำงานก้อนใหญ่ให้เสร็จในช่วงเวลานั้น ช่วงกลางคืนคุณก็จะได้ทำกิจกรรมให้น้อยลงและทำกิจกรรมผ่อนคลายที่คุณชอบ [10]
    • อาจต้องใช้เวลาสักระยะกว่าจะรู้ว่าพลังงานของคุณขึ้นสูงสุดช่วงไหน ลองติดตามระดับพลังงานและการจดจ่อในภาพรวมตลอดทั้งวันเป็นเวลา 1 สัปดาห์โดยประมาณ วิธีนี้น่าจะช่วยให้คุณรู้ว่า คุณทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุดตอนไหน
  3. ใช้เวลา 30 นาทีแรกในตอนเช้าวางแผนการทำงานในแต่ละวัน. การวางแผนการทำงานของวันนั้นล่วงหน้าในตอนเช้ามีประโยชน์อย่างมาก ทันทีที่คุณตื่นนอน ให้คิดถึงสิ่งที่คุณต้องทำและกำหนดเวลาไว้คร่าวๆ ว่าต้องทำอะไรเมื่อไหร่ อย่าลืมนึกถึงภาระงานรวมถึงภาระทางสังคมและธุระต่างๆ ด้วย [11]
    • เช่น สมมุติว่าคุณทำงานตั้งแต่ 8 โมงเช้าถึง 4 โมงเย็นและต้องโทรศัพท์หาคุณยายเพื่ออวยพรวันเกิดและแวะรับเสื้อผ้าซักแห้งหลังเลิกงาน ตอนเช้าให้คิดว่าจะเรียงลำดับกิจกรรมทั้งหมดอย่างไรดี
    • ถ้าคุณยายนอนเร็ว ให้วางแผนโทรหาคุณยายทันทีหลังเลิกงานจะได้ไม่ดึกเกินไป จากนั้นก็ค่อยไปรับเสื้อผ้าซักแห้ง
  4. ไม่มีใครสามารถทำงานต่อเนื่องโดยไม่พักหรือไม่ถูกขัดจังหวะบ้างเลย คุณสามารถต้อนรับการถูกขัดจังหวะและสิ่งรบกวนในบางช่วงเวลาของวันได้ การกำหนดเวลาสำหรับสิ่งที่ทำให้วอกแวกแยกออกจากงานที่จำเป็นนั้นช่วยคุณได้มาก วิธีนี้ลดโอกาสที่คุณจะถูกขัดจังหวะจนทำงานไม่ได้และทำให้แผนวันนั้นพัง [12]
    • นอกเหนือจากการวอกแวกเล็กๆ น้อยๆ ในแต่ละวันแล้ว ให้กระจายเวลาพักหรือช่วงเวลาถูกขัดจังหวะให้สมดุลตลอดทั้งวัน
    • เช่น ในแต่ละวันให้วางแผนรับประทานอาหารกลางวัน 1 ชั่วโมงตอนบ่ายโมงตรงและดูทีวีครึ่งชั่วโมงเพื่อผ่อนคลายหลังกลับจากทำงาน
    • นอกจากนี้คุณก็สามารถวางแผนการถูกขัดจังหวะเล็กๆ น้อยๆ ระหว่างการทำงานในแต่ละวันได้ด้วย เช่น สมมุติว่าคุณกำลังเขียนรายงานอยู่ อนุญาตให้ตัวเองเข้า Facebook ได้ 5 นาทีหลังจากเขียนไปแล้ว 500 คำ
  5. ช่วงสุดสัปดาห์คือช่วงเวลาที่คุณต้องทำกิจกรรมให้น้อยลง ผ่อนคลาย และสนุกสนาน เพราะฉะนั้นอย่ามัวแต่ตั้งหน้าตั้งตาทำงาน แต่การทำงานนิดๆ หน่อยในช่วงสุดสัปดาห์ก็เป็นสิ่งที่ดีเช่นเดียวกัน ลองนึกถึงงานเล็กๆ น้อยๆ ที่กองพะเนินในช่วงสุดสัปดาห์ที่ทำให้คุณต้องเหนื่อยในวันจันทร์ [13]
    • เช่น คุณอาจจะอ่านและตรวจทานอีเมลสักครู่ในช่วงสุดสัปดาห์ จากนั้นก็ส่งอีเมลสัก 2-3 ฉบับเพื่อที่กองอีเมลของคุณจะได้น้อยลงนิดนึงเมื่อถึงวันจันทร์ หรือไม่คุณก็อาจจะแค่ทำเครื่องหมายอีเมลที่จำเป็นต้องจัดการทันทีในเช้าวันจันทร์
  6. ถ้าคุณอยากจัดการเวลาให้ดี ตารางเวลานอนที่ชัดเจนคือสิ่งสำคัญ ตารางเวลานอนที่ดีจะทำให้คุณตื่นนอนตอนเช้าและพร้อมรับวันใหม่ได้อย่างแน่นอน ในการรักษาตารางเวลานอนให้ชัดเจนนั้น ให้คุณเข้านอนและตื่นนอนเวลาใกล้เคียงกันทุกวันไม่เว้นแม้แต่สุดสัปดาห์ ร่างกายของคุณจะปรับตามวงจรการนอน/การตื่นของคุณ คุณก็จะเริ่มรู้สึกง่วงนอนเมื่อถึงเวลาเข้านอน และกระปรี้กระเปร่าในตอนเช้า [14]
    โฆษณา

เคล็ดลับ

  • ยืดหยุ่นและ ผ่อนคลาย เหลือพื้นที่ให้กับสิ่งที่ไม่คาดคิดในชีวิต เพราะเรื่องอื่นๆ อาจสำคัญกว่ากิจวัตรที่ตายตัวและเป็นแบบแผน ในสถานการณ์ที่ไม่ปกติส่วนใหญ่ คุณอาจจะใช้เวลาไม่เกิน 1 ชั่วโมงหรือ 2-3 วันก็สามารถกลับมาทำตามตารางปกติได้แล้ว
  • ลองนึกภาพว่าคุณอยากเห็นตัวเองเป็นอย่างไรในอนาคต นึกถึงภาพนั้นทุกครั้งที่คุณรู้สึกอยากเลื่อนงานนั้นออกไปก่อน พยายามกลายเป็นคนๆ นั้นให้ได้ด้วยการทำงานที่ต้องทำเพื่อให้คุณเข้าใกล้เป้าหมายของคุณมากขึ้น
โฆษณา

เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

มีการเข้าถึงหน้านี้ 19,707 ครั้ง

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม

โฆษณา