ดาวน์โหลดบทความ ดาวน์โหลดบทความ

ความรู้สึกคลื่นไส้อยากจะอาเจียนเป็นอะไรที่ทรมานมาก แม้ว่าการอาเจียนจะเป็นเครื่องมือทางชีววิทยาที่มีประโยชน์ บอกเราให้เรารู้ว่ามีสิ่งแปลกปลอมอยู่ในท้อง แต่ตอนที่กำลังอาเจียนออกมาเราก็ไม่มีอารมณ์ไปนึกถึงคุณประโยชน์ของมันหรอก แต่หลังจากได้อ่านบทความนี้ คุณก็ไม่ต้องกังวลอีกแล้ว เพราะเรามีเคล็ดลับดี ๆ ที่ช่วยให้คุณบังคับตัวเองไม่ให้อาเจียนออกมาได้

วิธีการ 1
วิธีการ 1 ของ 2:

รักษาด้วยวิธีพื้นบ้าน

ดาวน์โหลดบทความ
  1. [1] เครื่องดื่มและอาหารประเภทนี้ย่อยง่ายกว่าอาหารชนิดอื่น ๆ และช่วยให้รู้สึกสบายท้องมากขึ้น ตัวอย่างเครื่องดื่มและอาหารประเภทนี้ได้แก่ :
    • น้ำเปล่า
    • ชา
    • ซุปไก่ ซุปผัก แกงจืด
    • น้ำแครนเบอร์รี่ เยลลี่ ไอศกรีมแท่ง [2]
  2. ดื่มเครื่องดื่มที่มีรสหวานอ่อน ๆ เช่น น้ำขิง. แพทย์ยืนยันว่า น้ำตาลที่อยู่ในเครื่องดื่มเหล่านี้ช่วยลดอาการท้องไส้ปั่นป่วนได้ [3] ในขณะเดียวกันก็ หลีกเลี่ยงการดื่มร่วมกับน้ำผลไม้ที่มีรสเปรี้ยวและมีกรดมากเกินไป เช่นน้ำเสาวรสหรือน้ำส้ม
  3. วางผ้าชุบน้ำเย็น ๆ ไว้บนหน้าผาก [4] เพื่อช่วยให้ร่างกายที่จู่ ๆ ก็ร้อนขึ้นมาเย็นลง และส่งสัญญาณไปที่สมองว่าไม่จำเป็นต้องอาเจียนออกมาแล้ว นอกจากหน้าผากแล้ว ส่วนที่สามารถใช้แผ่นประคบเย็นหรือผ้าชุบน้ำช่วยได้ ได้แก่
    • ลำคอด้านหลัง
    • ข้อพับตรงศอกด้านใน (ส่วนที่อยู่ระหว่างแขนบนกับแขนล่าง)
    • หลังเข่า
    • ข้อมือด้านใน
  4. จากการทดลองพบว่า รสขิงช่วยลดอาการคลื่นไส้และความรู้สึกอยากจะอาเจียนได้ [5] แพทย์บางคนก็เริ่มสั่งน้ำเชื่อมขิงให้หญิงตั้งครรภ์ที่แพ้ท้องรับประทานในช่วงตั้งครรภ์สามเดือนแรก [6] อาหารที่ทำมาจากขิงเป็นของที่ช่วยลดอาการคลื่นไส้ที่ทั้งถูกและหาซื้อง่าย เวลาที่อยู่บ้านแล้วคลื่นไส้ ลองหาของพวกนี้มารับประทานดู:
    • ลูกอมเคี้ยวหนึบรสขิงและยาอมแก้ไอรสขิง ลูกอมเคี้ยวหนึบรสขิงจะคล้าย ๆ กับลูกอมรสขิง แต่ถ้าเป็นยาอมแก้ไอรสขิงเราก็จะดูดรสขิงได้มากกว่า (และช่วยให้ชุ่มคอด้วยถ้าคุณไม่สบายพอดี)
    • น้ำขิง หั่นขิงเป็นแว่น ๆ 12 ชิ้น ตำด้วยสากและครกจนเริ่มเป็นชิ้นแหลก ๆ ใส่ลงไปในหม้อ เติมน้ำลงไป 3 แก้วแล้วนำไปต้ม ใช้ไฟอ่อน ๆ ทิ้งไว้ 20-25 นาที เสร็จแล้วกรองกากขิงออก เติมน้ำผึ้งลงไป 1 ช้อนโต๊ะ คนให้เข้ากัน ดื่มตอนอุ่น ๆ [7]
    • น้ำเชื่อมขิง หั่นขิงหยาบ ๆ 2 ถ้วยแล้วนำไปใส่ในเครื่องปั่นอาหาร ปั่นจนเป็นชิ้นแหลก ๆ แล้วใส่ลงในหม้อใบใหญ่ ใส่น้ำตาล 2 ถ้วยและน้ำเปล่า 6 ถ้วยลงไปในหม้อ ต้มด้วยไฟอ่อน ๆ ประมาณ 1 ชั่วโมงจนกว่าน้ำจะเหลือแค่ 2 ใน 3 เสร็จแล้วใช้ผ้าขาวบางกรองน้ำเชื่อม [8] จะดื่มเพียว ๆ หรือผสมน้ำเปล่าก็ได้
  5. เมื่อเริ่มรู้สึกคลื่นไส้ให้นอนลงทันที เอาศีรษะหนุนหมอนเพื่อให้ศีรษะอยู่สูงกว่าเท้า วิธีนี้จะช่วยให้ร่างกายรักษาสมดุลได้ดีขึ้นและทำให้คลื่นไส้น้อยลง
  6. ชาประกอบด้วยยาสมุนไพรที่ช่วยลดอาการท้องไส้ปั่นป่วน ทำให้ลำไส้เรียงตัวและลดอาการคลื่นไส้ ขณะที่ดื่มควรจิบทีละน้อย แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะดื่มชาอะไรก็ได้ ชาชนิดที่ช่วยลดอาการคลื่นไส้มีดังนี้:
    • ดอกคาโมไมล์ เติมน้ำผึ้งลงไปเล็กน้อย เหมาะสำหรับดื่มก่อนนอน ช่วยให้สบายท้อง
    • รากชะเอม มีฤทธิ์เป็นยาระบายอ่อน ๆ รากชะเอมช่วยบรรเทาอาการท้องผูกที่อาจเป็นสาเหตุของอาการคลื่นไส้และอาเจียน [9] นอกจากนี้รากชะเอมยังมีเอนไซม์ glycyrrhizin ที่ช่วยรักษาโรคต่าง ๆ มากมายและยังเหมาะนำมาทำเป็นชาหอม ๆ อีกด้วย
    • ใบราสพ์เบอร์รี่แดง ผู้หญิงหลายคนดื่มชาใบราสพ์เบอร์รี่แดงเพื่อช่วยลดอาการแพ้ท้องและคลายกล้ามเนื้อก่อนคลอด [10] ทั้งนี้ทั้งนั้น แม้ว่าใบราสพ์เบอร์รี่แดงจะช่วยคลายกล้ามเนื้อ แต่ก็อาจมีผลข้างเคียงทำให้มดลูกหดรัดตัวได้ ดังนั้น ถ้าคุณกำลังตั้งครรภ์ ควรปรึกษาแพทย์เรื่องปริมาณการใช้ที่เหมาะสมเพราะอาจทำให้คลอดก่อนกำหนดได้
    • สลิปเปอร์รี่เอล์ม ชาสลิปเปอร์รี่เอล์มช่วยขับน้ำเมือกที่ทำให้ลำไส้เรียงตัว บรรเทาอาการท้องไส้ปั่นป่วนและลดความรู้สึกอยากอาเจียน [11]
  7. การรับประทานแครกเกอร์ทีละน้อยอาจช่วยลดอาการคลื่นไส้ได้ ซึ่งถ้าช่วยได้ก็อาจจะหมายความว่าจริง ๆ แล้วคุณแค่หิว วิธีนี้อาจจะได้หรือไม่ได้ผล ขึ้นอยู่กับสาเหตุที่ทำให้คุณคลื่นไส้
  8. ถ้าอาหารเป็นต้นเหตุ เปลี่ยนพฤติกรรมการรับประทานอาหาร. ถ้าคุณสงสัยว่าอาหารทำให้คุณคลื่นไส้แล้วละก็ นั่นถือเป็นข่าวดี เพราะคุณก็แค่ปรับพฤติกรรมการรับประทานอาหารเท่านั้นเอง:
    • รับประทานอาหารที่ไม่ต้องปรุงสุกถ้ากลิ่นอาหารร้อน ๆ ทำให้คุณคลื่นไส้
    • หลีกเลี่ยงอาหารย่อยยาก เช่น ของทอด ของเผ็ด ถั่ว อาหารที่มีไขมันสูง อาหารที่ทำจากนม ช็อกโกแลต และผักที่มีสารอาหารและกากใยสูง [12]
    • รับประทานอาหารมื้อย่อยบ่อย ๆ แทนอาหารมื้อใหญ่แต่เว้นช่วง เปลี่ยนจากรับประทานอาหารมื้อใหญ่วันละ 3 มื้อเป็นมื้อย่อย 6 มื้อแทน
    • ดื่มน้ำเยอะ ๆ ตลอดทั้งวัน ไม่ใช่แค่ตอนรับประทานอาหาร [13] ดื่มน้ำ 6-8 แก้วต่อวัน แต่อย่าดื่มมากขณะรับประทานอาหาร
    • ถ้าคุณแพ้ท้อง เอากล่องแครกเกอร์วางไว้ข้างเตียงและรับประทาน 3-4 ชิ้นตอนเช้าก่อนลุกจากที่นอนจะช่วยให้คุณหายแพ้ท้องได้
    โฆษณา
วิธีการ 2
วิธีการ 2 ของ 2:

รักษาด้วยวิธีทางการแพทย์

ดาวน์โหลดบทความ
  1. ยาดรามามีนมีทั้งแบบเม็ด แบบน้ำ และแบบเหน็บ ช่วยป้องกันอาการคลื่นไส้และอาเจียนที่เกิดจากการเมารถเมาเรือ ถ้ารู้ว่าจะต้องขับรถเร็ว ๆ ขึ้นเขาลมแรง ๆ หรือไปดูปลาวาฬในน้ำที่มีคลื่นเยอะแล้วละก็ พกยาดรามามีนติดตัวไปด้วย หาซื้อได้ตามร้านขายยาทั่วไป
  2. สโคโปลามีนเป็นยาที่มาจากพืชตระกูลหนึ่ง มีฤทธิ์ช่วยแก้อาการเมารถเมาเรือได้อย่างชะงัด แม้ว่าสโคโปลามีนจะเป็นยาอันตราย แต่ถ้าใช้ในปริมาณน้อย ๆ ก็สามารถลดอาการเมารถเมาเรือและท้องไส้ปั่นป่วนได้
    • ถ้าคุณยังรู้สึกคลื่นไส้และอาเจียนอยู่ตลอดเวลา ควรไปพบแพทย์และขอแผ่นยาแก้เมารถเมาเรือที่มีตัวยาสโคโปลามีน เพื่อให้ได้ผลควรแปะก่อนขึ้นรถขึ้นเรือ 4-12 ชั่วโมง ยาตัวนี้มีผลข้างเคียงทำให้ง่วงซึม ตาลาย และปากแห้ง [14]
  3. ถ้าคุณตั้งครรภ์อ่อน ๆ และยังแพ้ท้องอยู่เรื่อย ๆ แพทย์แนะนำให้คุณรับประทานยาด็อกซิลามีนที่หาซื้อได้ตามร้านขายยาทั่วไป ด็อกซิลามีนเป็นยาระงับประสาทชนิดหนึ่งที่มักใช้บรรเทาไข้หวัดและภูมิแพ้
    • หากใช้ในปริมาณมากและหยุดใช้ทันทีอาจทำให้เกิดอาการถอนยาได้ ซึ่งอาจจะทำให้นอนไม่หลับไปเป็นสัปดาห์ ดังนั้นหากแพ้ท้องก็ไม่ควรใช้ยาตัวนี้เพียงตัวเดียว
    โฆษณา

เคล็ดลับ

  • ถ้าคุณรู้สึกคลื่นไส้ วางน้ำไว้ข้างเตียงสำหรับดื่ม หายใจเข้าลึก ๆ คิดถึงเรื่องเบาสมองที่ทำให้คุณมีความสุข
  • หายใจเข้าลึก ๆ และเอามือลูบท้องช้า ๆ อย่าไปนึกถึงอาหาร
  • เปลี่ยนไปอยู่ในที่เย็น ๆ มีลมพัด เพราะที่ที่มีคนเยอะ ๆ จะทำให้ออกซิเจนในอากาศน้อยลงและทำให้เกิดอาการกลัวที่แคบ
  • อย่าเคลื่อนไหว
  • อีกวิธีหนึ่งที่ช่วยลดอาการคลื่นไส้ได้อย่างยอดเยี่ยมคือหายใจเข้าลึก ๆ หลับตาลงและคิดถึงสถานที่สงบ ๆ อย่างทะเลสาบ ภูเขาที่ปกคลุมด้วยหิมะ หรือชายหาดที่มีเสียงคลื่นกระทบเบา ๆ ถ้าทำได้ลองเปิดเสียงเพลงธรรมชาติเหล่านี้ดู แล้วหลับตาลงนึกภาพสถานที่เหล่านั้น
  • ถ้าคุณรู้สึกอยากจะอาเจียนมาก ๆ นั่นหมายความว่าคุณมีสารพิษตกค้างอยู่ในร่างกาย เพราะฉะนั้นคุณควรจะอาเจียนเอาของเสียออกมาให้หมด แล้วคุณจะรู้สึกค่อยยังชั่วขึ้นจริง ๆ
  • พิมพ์คำว่า "Yoga Music" หรือ "Quiet Music" ในเว็บ Soundcloud, Spotify, Pandora หรือเว็บไซต์อื่น ๆ ที่มีเพลงให้ดาวน์โหลดฟรี หลับตาลง ฟังเพลง วิธีนี้ช่วยได้มาก
  • นั่งหลังตรง อย่านอนราบหรือนอนขดตัว บางครั้งเวลาที่รู้สึกอยากจะอาเจียน มันจะเรอเป็นรสเปรี้ยว ๆ ออกมา
  • จำไว้ว่าบางครั้งการอาเจียนออกมาก็ไม่ได้แย่เสมอไป ถ้ารู้สึกคลื่นไส้มาก ๆ ก็อาเจียนออกมาเลย ถึงตอนอาเจียนมันจะรู้สึกไม่สบายตัว แต่การอาเจียนคือกระบวนการนำเชื้อโรคออกจากร่างกาย พอเชื้อโรคออกมาแล้ว คุณก็จะรู้สึกค่อยยังชั่วขึ้นมาก
  • ถ้าคุณคลื่นไส้เป็นประจำ พกถุงพลาสติกติดตัวไว้ในกระเป๋าเสื้อหรือกระเป๋าสะพาย ยิ่งถ้าเป็นถุงพลาสติกบาง ๆ แบบที่ใส่ผักผลไม้ตามห้างสรรพสินค้ายิ่งดีใหญ่ ดูให้ดีว่าไม่มีรู บางทีคุณอาจจะรู้สึกว่าพอพกถุงแล้วไม่ค่อยคลื่นไส้เท่าไหร่ เพราะรู้ว่าถ้าอาเจียนจริง ๆ ก็มีถุงใส่อยู่แล้ว หลังจากอาเจียนอย่าลืมเอาถุงไปทิ้งทันที
  • ถ้าคุณรู้ว่าตัวเองรับประทานของไม่ดีเข้าไป อย่าเพิ่งรับประทานอะไรเข้าไปเพิ่ม เพราะไม่อย่างนั้นมันจะอาเจียนหนักกว่าเดิม
  • อย่าปล่อยให้คลื่นไส้มาก ๆ ก่อนแล้วค่อยรับประทานยา เพราะยาต้องใช้เวลาสักพักกว่าจะออกฤทธิ์
โฆษณา

คำเตือน

  • ถ้าคุณอาเจียนเป็นประจำ ก็ควรไปพบแพทย์ได้แล้ว !
  • สาเหตุที่ไม่ควรอาเจียนมากเกินไปก็เพราะว่ากรดที่อยู่ในท้องสามารถกัดกร่อนและทำลายเคลือบฟันทำให้ฟันเหลืองได้
  • การอาเจียนไม่ได้ช่วยให้คุณผอมลง โรคบูลิเมียเป็นโรคผิดปกติเกี่ยวกับการรับประทานอาหารที่รุนแรงและทำลายสุขภาพ ต้องใช้วิธีทางการแพทย์รักษา
โฆษณา

เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

มีการเข้าถึงหน้านี้ 8,013 ครั้ง

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม

โฆษณา