ดาวน์โหลดบทความ ดาวน์โหลดบทความ

อะ อะ อะ แฮ่ ตื่นเช้ามาอยากจะกล่าวอรุณสวัสดิ์ แต่เอ๊ะ! เสียงหายไปไหน คือไม่รู้เลยว่าพูดมากขนาดไหน รู้สึกตัวอีกทีก็ตอนพูดแล้วไม่มีเสียงออกมานี่แหละ อย่างไรก็ตาม บทความนี้จะช่วยให้คุณรักษาอาการเสียงแหบให้กลับมาเป็นปกติได้ด้วยตัวคุณเอง

วิธีการ 1
วิธีการ 1 ของ 3:

ดูแลคอให้หายเจ็บ

ดาวน์โหลดบทความ
  1. วิธีดูแลเส้นเสียงที่ดีที่สุดเมื่อมีอาการเจ็บคอ คือ ดื่มน้ำ อันที่จริงก็ไม่มีอะไรบนโลกนี้จะดีไปกว่าการดื่มน้ำเปล่าที่สะอาดอีกแล้ว ดื่มน้ำที่อุณหภูมิห้อง เพื่อป้องกันอาการ “ช็อก” ในคอหากดื่มน้ำเย็นจัดหรือร้อนจัดเกินไป
    • ควรดื่มน้ำประจำจนกลายเป็นหน้าที่ ร่างกายจะส่งสัญญาณบอกอย่างชัดเจนเวลาที่ต้องการน้ำ ฉะนั้นอย่าเพิกเฉย ให้ดื่มน้ำบ่อยๆ ในปริมาณที่เหมาะสม เพราะไม่เพียงแต่จะช่วยซ่อมเสียงกลับคืนมาเท่านั้น แต่ยังดีต่อร่างกาย ระบบย่อยอาหาร น้ำหนักตัว ระดับพลังงานอีกด้วย จริงๆ ก็มีประโยชน์ทุกด้านเลยละ
  2. Watermark wikiHow to รักษาอาการเสียงแหบ
    อุ่นน้ำ 1 แก้วในไมโครเวฟให้อุ่นมากๆ แต่ไม่ถึงกับร้อน จากนั้นใส่เกลือ 1 ช้อนโต๊ะ คนให้ละลาย กลั้วคอจนหมดแก้ว ทำวันละ 4 ครั้ง [1] วิธีนี้จะช่วยรักษาอาการเสมหะในลำคอได้
    • มันจะรสชาติยังไงก็ช่าง เพราะว่าเราไม่ได้กลืนลงไป จริงๆ ถ้ารู้สึกเจ็บคออยู่แล้ว การกลั้วคอด้วยน้ำเกลือจะยิ่งทำให้รู้สึกดีขึ้น
    • อีกวิธีหนึ่งคือ กลั้วคอด้วยน้ำส้มสายชูหมักจากแอปเปิล (apple cider vinegar) ซึ่งรสชาติแย่กว่าน้ำเกลือเยอะเลย
  3. Watermark wikiHow to รักษาอาการเสียงแหบ
    แต่วิธีนี้มีความเห็น 2 ทาง บางคนเชื่อว่า ชา (โดยเฉพาะชาคาโมไมล์เติมน้ำผึ้งและมะนาว) เป็นตัวปลอบประโลมเสียงชั้นยอด [2] และวิธีนี้ก็ใช้กันมานับสิบๆ ปีแล้ว อย่างไรก็ตาม อย่าลืมว่า “กรด” เป็นอันตรายต่อเนื้อเยื่อบุผิว (ซึ่งเป็นส่วนประกอบของเส้นเสียง) ซึ่งทั้งชาและมะนาวต่างก็เป็นกรดทั้งนั้น [3] แล้วคุณละจะเอาไงดี
    • อย่างไรก็ตาม น้ำผึ้งไม่ได้มีผลเสียแต่อย่างใด ซึ่งอีกวิธีหนึ่งที่มีใช้กันอย่างแพร่หลาย (แต่อาจจะไม่แพร่หลายเท่า) คือ รับประทานน้ำผึ้ง 1 ช้อนโต๊ะแบบเพียวๆ นั่นไง ได้ข้ออ้างหาเรื่องกินน้ำผึ้งแล้วละสิ! หลังจากนั้นก็จัดการซัดช็อกโกแลตนูเทลล่าต่อเลยละกัน
  4. Watermark wikiHow to รักษาอาการเสียงแหบ
    อังศีรษะเหนือไอน้ำเป็นเวลา 5 นาที วันละ 2 ครั้ง. ไอน้ำจะเพิ่มความชุ่มชื้นในลำคอ เหมือนกับเวลาเราเห็นนักร้องดีวาตัวแม่พันผ้าพันคอเวลาป่วย เพราะว่าความร้อนจะส่งผลดีต่อคอนั่นเอง
    • วิธีทำไอน้ำง่ายๆ คือต้มน้ำ คลุมศีรษะด้วยผ้าขนหนู อังศีรษะไว้เหนือหม้อน้ำร้อน เพื่อดูดซับไอน้ำให้ได้ปริมาณมาก สามารถเติมน้ำมันหอมระเหยได้ตามใจชอบ หรือใช้วิธีอยู่ใกล้ๆ เครื่องทำความชื้น หรืออาจจะเปิดฝักบัวน้ำอุ่น จากนั้นอุดท่อระบายน้ำไว้ ปิดพัดลมระบายอากาศ สูดหายใจเข้าไปลึกๆ (แต่ควรใช้น้ำอย่างรับผิดชอบ โดยเฉพาะถ้าเป็นฤดูแล้งด้วยนะ)
  5. Watermark wikiHow to รักษาอาการเสียงแหบ
    นักร้องมากมายใช้ยาอมสมุนไพร Slippery Elm Lozenges (อาจจะรู้สึกว่าชื่อตลกๆ ถ้าไม่เคยได้ยินชื่อมาก่อน) แต่ก็มีบทวิเคราะห์ทางวิทยาศาสตร์ด้วยนะ สำหรับยาอมสมุนไพร Slippery Elm Lozenges มีคะแนนรีวิวออกมาดีมาก แต่ก็ยังหาเหตุผลทางวิทยาศาสตร์มาอธิบายไม่ได้ว่าทำไมยาตัวนี้ถึงได้ผล หรืออาจจะเป็นผลทางจิตวิทยาในการใช้ยาหลอกก็ได้ [3]
    • แม้ว่าการใช้ยาอมอาจจะไม่มีตัวเลขทางสถิติออกมายืนยันก็จริง แต่อย่างน้อยก็ไม่เสียหายอะไรหรอกนะ ปกติยาอมก็ช่วยให้รู้สึกดีขึ้นได้สักพักอยู่แล้ว
    โฆษณา
วิธีการ 2
วิธีการ 2 ของ 3:

พักคอบ้าง

ดาวน์โหลดบทความ
  1. Watermark wikiHow to รักษาอาการเสียงแหบ
    วิธีการที่ดีที่สุดคือ ไม่ต้องคุยกับใครสักวันสองวัน การพักเสียงมีส่วนสำคัญที่จะทำให้เนื้อเยื่อบุผิวได้ซ่อมแซม ยังไงๆ ซะ ความเงียบก็เป็นผู้ชนะตัวจริงอยู่แล้ว
    • ถ้าจำเป็นต้องสื่อสารกับคนอื่น ให้ใช้วิธีเขียนใส่กระดาษแทนการกระซิบ เพราะการกระซิบอาจจะทำให้เส้นเสียงกระทบกันได้รุนแรงเท่ากับเวลาตะโกนเลยทีเดียว นอกจากนี้ การเขียนจดหมายน้อยยังน่าสนุกดีด้วยถ้าลองวาดรูปลงไปหรือลงรหัสข้อความให้คนอ่านต้องแก้ไขปริศนา!
    • หากหน้าที่การงานทำให้ต้องตะเบ็งเสียงดัง ให้ใช้อุปกรณ์ช่วยขยายเสียง
    • เคี้ยวหมากฝรั่งหรืออมยาอมไว้ซะจะได้คุยอะไรกับใครไม่ได้ วิธีการนี้ยังช่วยปรับปรุงกระบวนการผลิตน้ำลายด้วย
  2. Watermark wikiHow to รักษาอาการเสียงแหบ
    เพราะการหายใจทางปากจะทำให้ปากแห้ง เวลาบอกว่าอย่าพูดคุยหรือให้ปิดปากเงียบ หวังว่าคงรู้แล้วนะว่าจะต้องหายใจทางจมูก เพราะคงไม่มีช่องทางอื่นให้หายใจแล้ว! และหวังว่าจะไม่ได้มีอาการคัดจมูกน้ำมูกไหลอยู่นะ จะได้เหลือช่องว่างให้ได้หายใจมั่ง!
  3. Watermark wikiHow to รักษาอาการเสียงแหบ
    หากคุณเสียงหายเพราะว่าตะโกนมากเกินไป แปลว่าเส้นเลือดฝอยอาจจะแตก แอสไพรินจะช่วยลดลิ่มเลือด มันก็เลยอาจจะทำให้เลือดออกมาเกินไป เป็นอุปสรรคต่อกระบวนการรักษาเข้าไปอีก
    • ในการลดความเจ็บปวดเมื่อระคายคอนั้นมีหลายวิธีด้วยกัน เราจะพูดถึงประเด็นนี้ในส่วนต่อไป
  4. Watermark wikiHow to รักษาอาการเสียงแหบ
    ก็รู้ๆ กันอยู่แล้วใช่ป่ะ แต่เตือนเผื่อไว้ถ้าเกิดคุณหลงไปอยู่ไหนมาอาจจะไม่รู้ว่า การสูบบุหรี่ทำให้คอแห้ง นอกเหนือไปจากผลกระทบทางลบอื่นๆ ที่มีต่อสุขภาพ
    • การสูบบุหรี่อาจทำให้เสียงเปลี่ยนได้ เพราะมันจะทำให้ปอดต้องผลิตเสียงจากควันบุหรี่ แล้วคุณคิดว่าจะได้อะไรออกมาละ เลิกสูบบุหรี่ซะ แล้วคุณจะเห็นผลดีขึ้นมาทันที
  5. Watermark wikiHow to รักษาอาการเสียงแหบ
    อาหารเช่นมะเขือเทศ ช็อกโกแลต และผลไม้รสเปรี้ยวมีความเป็นกรดสูงมาก และกรดนั้นเองที่จะทำให้เนื้อเยื่อในเส้นเสียงฉีกขาด จึงควรหลีกเลี่ยงให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพื่อรักษาคอให้สบายที่สุด
    • อาหารรสจัดก็ไม่ดีต่อเสียงเหมือนกัน อะไรก็ตามที่กินแล้วจะก่อให้เกิดอาการบางอย่างตามมาก็ควรหลีกเลี่ยงทั้งนั้น (น้ำเปล่าถึงดีงามที่สุด เพราะเป็นธรรมชาติที่สุดไง)
    โฆษณา
วิธีการ 3
วิธีการ 3 ของ 3:

รู้ว่าเมื่อไรที่ควรไปพบแพทย์

ดาวน์โหลดบทความ
  1. Watermark wikiHow to รักษาอาการเสียงแหบ
    หาก 2-3 วันผ่านไปแต่เสียงยังไม่กลับมา ควรพบแพทย์. หากในงานคอนเสิร์ตเมื่อคืนที่ผ่านมา คุณมันกระจายเกินไปหน่อย แล้วเสียงหายในวันรุ่งขึ้น นับว่าเป็นอาการปกติมาก แต่ถ้าหากจู่ๆ เสียงหายไปเองโดยไม่มีอาการอื่นร่วมด้วย ก็อาจจะเป็นสัญญาณบ่งชี้ว่า อาจจะเป็นเรื่องใหญ่กว่าแค่เสียงหายก็ได้ ในกรณีนี้ให้ปรึกษาแพทย์เพื่อขอคำแนะนำเพิ่มเติม
  2. Watermark wikiHow to รักษาอาการเสียงแหบ
    ถ้าคุณกำลังโดนไข้หวัดจู่โจมอย่างหนัก จะให้ไปรักษาเสียงอย่างเดียวก็ดูไม่เข้าท่า คุณจะต้องรักษาระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายก่อน จากนั้นเสียงจึงจะกลับมาเป็นปกติเอง ถ้ามีอาการอื่นๆ ร่วมด้วย ก็ให้จัดการอาการต่างๆ เหล่านั้นเสียก่อน ซึ่งมันอาจจะแก้ปัญหาเสียงแหบได้
  3. Watermark wikiHow to รักษาอาการเสียงแหบ
    แม้กระทั่งตอนที่เสียงเริ่มดีขึ้นแล้วก็ควรรักษาพฤติกรรมถนอมเสียงไว้ต่อไป ลองคิดว่าเหมือนกับเวลากินยาแก้อักเสบ ซึ่งแม้ว่าอาจจะรู้สึกดีขึ้นแล้วตั้งแต่ไม่กี่วันแรก แต่ก็จะต้องกินยาจนหมดชุด การดูแลเสียงต่อไปจะทำให้เสียงหายดีเต็มที่ 100% และไม่กลับมามีปัญหาอีก
    • หากจะพยายามร้องเพลงในช่วงนี้ ให้หลีกเลี่ยงอาหารที่มีส่วนผสมของนม (นอกเหนือไปจากอาหารที่เป็นกรด) ) เพราะนมจะไปเคลือบคอ และไม่ก่อให้เกิดประโยชน์อะไร แม้ว่าตอนนั้นอาจจะทำให้รู้สึกดีขึ้นก็ตาม เพราะสิ่งที่ต้องทำคือ กำจัดตัวก่อเสมหะ ไม่ใช่ไปเพิ่มเสมหะ
    โฆษณา

เคล็ดลับ

  • เวลาพูดปกติ หากเสียงออกมาเป็นเสียงกระซิบ แต่ไม่สามารถส่งเสียงดังในระดับปกติได้ อาจเป็นอาการกล่องเสียงอักเสบ
  • น้ำผึ้งและน้ำมะนาว (ซึ่งเป็นยารักษาอาการไอและเจ็บคอโดยธรรมชาติ) หาซื้อได้ตามร้านแถวบ้านทั่วไป
โฆษณา

คำเตือน

  • เมื่อต้องสัมผัสกับน้ำร้อน ควรระวังให้มากๆ เพราะอาจโดนน้ำร้อนลวกเอาจนเจ็บตัวได้
โฆษณา

เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

มีการเข้าถึงหน้านี้ 83,474 ครั้ง

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม

โฆษณา