ดาวน์โหลดบทความ
ดาวน์โหลดบทความ
นิ่วในไต (kidney stones) เป็นก้อนเล็กๆ แข็งๆ ที่เกิดจากแร่ธาตุสะสม จับตัวกันเป็นผลึกในไต นิ่วจะฝังตัวอยู่ในทางเดินปัสสาวะ จนทำให้เจ็บไปจนถึงเจ็บมากได้ หลายคนนิยมใช้วิธีธรรมชาติในการละลายและขับนิ่วในไต แต่ส่วนใหญ่ก็ต้องใช้ควบคู่กันไปกับการรักษาทางการแพทย์ เพราะก้อนนิ่วอาจจะใหญ่เกินไป บทความวิกิฮาวนี้จะแนะนำวิธีการขับนิ่วในไตให้คุณเอง
ขั้นตอน
-
นิ่วบางชนิดก็ขับเองง่ายกว่าแบบอื่น. นิ่วจะตอบสนองต่อวิธีธรรมชาติที่คุณใช้แค่ไหน ส่วนใหญ่ขึ้นอยู่กับขนาดของก้อนนิ่ว
- จะรักษาด้วยวิธีธรรมชาติแล้วเห็นผลดี ก้อนนิ้วต้องเล็กกว่า 1/10 นิ้ว (3 มม.)
- ถ้าก้อนนิ่วใหญ่จนมีขนาดประมาณ 3/10 นิ้ว (8 มม.) จะเหลือโอกาสละลายแล้วขับออกมาด้วยวิธีธรรมชาติได้แค่ 20%
- ก้อนนิ่วที่ใหญ่ 2/5 นิ้ว (1 ซม.) นี่แทบไม่มีโอกาสรักษาเอง ต้องหาหมอลูกเดียว
-
ดื่มน้ำเยอะๆ. น้ำจะช่วยชะหรือขับเอานิ่วออกมา เพราะงั้นต้องพยายามดื่มน้ำให้ได้ 2 - 3 ควอร์ต (2 - 3 ลิตร) ต่อวัน [1] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- ต้องดื่มน้ำเยอะขนาดที่ฉี่ออกมาแล้วใสหรือเกือบใสทุกครั้งที่เข้าห้องน้ำ ดื่มน้ำเปล่านี่แหละดีที่สุด
-
ผสมเลมอนในอาหารแต่ละมื้อ. พยายามบีบเลมอนใส่น้ำดื่ม หรือกินอะไรที่ผสมน้ำเลมอน
- เลมอนมีกรดซิตริกสูง ว่ากันว่าช่วยละลายนิ่วในไตที่เป็นแคลเซียมได้ดี พอนิ่วแตกตัวก็จะถูกขับออกมาทางฉี่ได้ง่ายขึ้น ไม่เจ็บ [2] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- ดื่มน้ำเลมอนคั้นสดให้ได้วันละ 1/2 ถ้วยตวง (125 มล.) [3] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- น้ำผลไม้อื่นจะไม่ค่อยได้ผลเท่า อย่างน้ำแครนเบอร์รี่ น้ำแอปเปิ้ล และน้ำเกรปฟรุต จริงๆ แล้วยิ่งเพิ่มความเสี่ยงการเกิดนิ่วด้วยซ้ำ ไม่ได้ช่วยละลาย
-
จำกัดปริมาณเกลือและโปรตีน. พยายามลดโซเดียมในแต่ละวันให้เหลือแค่ไม่ถึง 3 กรัม และกินโปรตีนจากเนื้อสัตว์แต่พอควร
- เกลือจะไปเพิ่มแคลเซียมในฉี่ ทำให้ยิ่งเพิ่มนิ่วในไตเพราะเป็นแคลเซียมเหมือนกัน มีบางงานวิจัยชี้ว่าโซเดียมยังไปเพิ่ม urate ด้วย ซึ่งเป็นสารที่กระตุ้นให้นิ่วในไตก่อตัว
- โปรตีนจะไปเพิ่มระดับกรดยูริก (uric acid), แคลเซียม และออกซาเลต (oxalate) ในฉี่ ในขณะเดียวกับที่ลดซิเตรท (citrate) โปรตีนจากเนื้อสัตว์ยิ่งน่าเป็นห่วง เพราะซัลเฟอร์สูง เลยยิ่งเพิ่มกรดกว่าโปรตีนจากพืช
-
เพิ่มไฟเบอร์หรือกากใย. ให้เน้นธัญพืชเต็มเมล็ด (โฮลเกรน) และผักสด ระหว่างที่พยายามจะละลายและขับนิ่วในไต
- พวกอาหารที่กากใยสูงมักมีไฟเตต (phytate) ที่ช่วยป้องกันและลดการสะสมตกผลึกของเกลือแคลเซียมที่ทำให้เกิดนิ่ว ปกติไฟเตตพบมากในถั่วฝัก ข้าวสาลี และรำข้าว
-
งดน้ำอัดลม. ถ้าเป็นชาหรือกาแฟก็พอดื่มได้ โดยเฉพาะถ้าเป็นแบบดีแคฟ (decaffeinated) หรือไม่มีคาเฟอีน
- น้ำอัดลมที่มีกรดฟอสฟอริก (phosphoric acid) จะไปลดซิเตรตในฉี่ ทำให้นิ่วแย่กว่าเดิม แต่ถ้าเป็นน้ำอัดลมที่มีซิเตรตก็พอได้
- ถึงจะบอกว่ากาแฟและชาดื่มได้ไม่เป็นไร แต่ยังไงน้ำเปล่าก็เป็นเครื่องดื่มที่ดีที่สุดสำหรับคนเป็นนิ่วในไตอยู่ดี
- หลีกเลี่ยงคาเฟอีนให้ได้มากที่สุด บางแหล่งข้อมูลก็ว่าคาเฟอีนไม่ส่งผลต่อนิ่ว แต่บางแหล่งก็ว่าคาเฟอีนทำให้ขาดน้ำ จะทำให้นิ่วแย่กว่าเดิม เพราะงั้นทางที่ดีให้เลือกเครื่องดื่มที่ไม่มีคาเฟอีน
-
อย่าอยู่เฉย. แค่ขยับเขยื้อนเคลื่อนไหวตามปกติก็ช่วยขับนิ่วในไตได้แล้ว เพราะงั้นก็ออกกำลังกายเบาๆ ถึงปานกลาง ไม่ต้องหนักมาก
- เป็นนิ่วในไตแล้วเจ็บมาก อาจจะออกกำลังกายไม่ค่อยได้มาก ให้ออกกำลังกายเบาๆ เช่น เดินไปมา จากนั้นพักมากๆ เพื่อลดอาการเจ็บปวด ยังไงก็ขอให้ขยับตัวเข้าไว้ พอเจ็บเกินทนเมื่อไหร่ค่อยพักผ่อน
-
คลายเครียด. มีบางข้อมูลที่ชี้ว่าความเครียดมีผลต่อการเกิดนิ่วในไต ถึงจะไม่มีหลักฐานชัดเจนว่าคลายเครียดแล้วจะช่วยขับนิ่วที่เป็นอยู่ได้ไหม แต่อย่างน้อยก็ช่วยป้องกันไม่ให้เกิดนิ่วก้อนใหม่ เลยทำให้อาการไม่หนักไปกว่าเดิมโฆษณา
-
กินยา alpha-blocker. alpha-blocker ช่วยคลายกล้ามเนื้อเรียบ (smooth muscle) ในร่างกาย คนเลยนิยมใช้รักษานิ่วในไต, โรคเกี่ยวกับต่อมลูกหมาก และความดันสูง [4] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- ปกติยาตัวอื่นจะจ่ายตามสาเหตุที่ทำให้เกิดนิ่ว แต่ alpha-blocker ใช้รักษานิ่วในไตได้ทุกประเภท
- alpha-blocker ที่คุณหมอมักจ่ายให้คือ Tamsulosin นอกเหนือจากนี้ก็มี Alfuzosin, Doxazosin, Silodosin และ Terazosin
-
ปรึกษาคุณหมอเรื่องใช้ยาสำหรับนิ่วบางชนิดโดยเฉพาะ. ยาบางตัวก็ใช้รักษานิ่วเฉพาะเจาะจงตามสาเหตุไป [5] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง ยาบางตัวอาจใช้ขับนิ่วในไต แต่ยาบางตัวก็ใช้ป้องกันการเกิดนิ่วในไต
- นิ่วที่เกิดจากแคลเซียมคือนิ่วในไตที่พบบ่อยที่สุด ยาที่ใช้รักษานิ่วชนิดนี้ได้แก่ thiazides, potassium citrates และ orthophosphates
- นิ่วจากกรดยูริกนับเป็น 5 - 10% ของนิ่วในไต ยาที่ใช้รักษานิ่วชนิดนี้คือ potassium citrate, sodium bicarbonate และ allopurinol
- นิ่วที่เกิดจากสารซีสตีน (cystine stones) จะพบได้ยากกว่า ปกติรักษาโดยใช้ยา potassium citrate, penicillamine, tiopronin หรือ captopril
- นิ่วสตรูไวท์ (struvite stones) เกิดจากการติดเชื้อในไตซ้ำๆ เป็นนิ่วที่ไม่ค่อยตอบสนองกับยารักษา คุณหมอมักจ่ายยาปฏิชีวนะเพื่อรักษาการติดเชื้อที่เป็นอยู่ รวมถึงยายับยั้งเอนไซม์ยูรีเอส (urease inhibitors)
โฆษณา
-
ลองสลายนิ่วด้วยคลื่นกระแทก (shock wave lithotripsy). Extracorporeal Shock Wave Lithotripsy (ESWL) หรือการสลายนิ่วด้วยคลื่นกระแทก นิยมใช้กับก้อนนิ่วขนาดใหญ่ 80 - 90% เว้นแต่กรณีที่นิ่วอยู่ต่ำลงไป 1 ใน 3 ของท่อไต (ureter)
- เวลารักษาด้วย ESWL คนไข้จะนอนใต้เครื่องชื่อ lithotripter ที่จะปล่อยคลื่นเสียงแรงดันสูงทะลุผ่านร่างของคนไข้ คลื่นกระแทกนี้แรงพอจะสลายนิ่วในไตขนาดใหญ่ให้กลายเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย ซึ่งจะขับออกมาทางปัสสาวะตามปกติ
-
ปรึกษาคุณหมอเรื่องรักษาด้วย ureteroscopy. คือส่องกล้องและสอดอุปกรณ์ไปทำให้นิ่วแตกตัวหรือสลายก้อนนิ่วขนาดใหญ่ [6] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- คุณหมอจะสอด Ureteroscope หรืออุปกรณ์ที่เป็นท่อยาวๆ เข้าไปในท่อปัสสาวะ (urethra) และกระเพาะปัสสาวะ จนถึงท่อไตที่นิ่วมักก่อตัวและติดค้างอยู่
- รวมถึงใช้อุปกรณ์พิเศษสำหรับสลายนิ่วโดยเฉพาะ แต่ถ้าก้อนนิ่วใหญ่เกินไป จะใช้เลเซอร์ผ่าเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยให้ขับออกมาทางฉี่แทน
-
รักษาด้วย percutaneous nephrolithotomy. เป็นขั้นตอนที่คล้ายกันกับ ureteroscopy แต่จะยุ่งยากกว่า เลยสงวนไว้ใช้กับเคสที่รุนแรง
- คุณหมอจะสอดท่อเข้าไปที่ไตโดยตรง ผ่านรอยผ่าเล็กๆ ที่หลัง แล้วปล่อยคลื่นกระแทกให้ก้อนนิ่วแตกตัว แล้วจคงสอดท่อเล็กๆ เรียกว่า nephrostomy tube เข้าไปในไตเพื่อดูดฉี่ออกไปพร้อมเศษนิ่ว
- ปกติหลังผ่า คนไข้จะพักฟื้นในโรงพยาบาล 2 - 3 วัน
โฆษณา
เคล็ดลับ
- อาจจะต้องฉี่ผ่าน strainer หรือที่กรอง เพื่อเก็บตัวอย่างนิ่วที่ถูกขับออกมา คุณหมอจะได้นำไปวินิจฉัยหาวิธีขับนิ่วที่เหลือหรือป้องกันไม่ให้เกิดนิ่วซ้ำ
- กินยาแก้ปวดตามต้องการ หรือตามคำแนะนำของคุณหมอ ถึงสุดท้ายคุณจะหาทางขับนิ่วได้โดยไม่พึ่งวิธีทางการแพทย์ แต่ก็จะยังมีอาการเจ็บปวดอยู่ดี เพราะงั้นให้ใช้ยาแก้ปวด เช่น ibuprofen, acetaminophen และ naproxen sodium จะช่วยได้มาก
โฆษณา
คำเตือน
- ห้ามดื่มแอลกอฮอล์เพื่อขับนิ่วในไต จริงอยู่ว่าแอลกอฮอล์มีฤทธิ์ขับปัสสาวะ คือทำให้ฉี่บ่อยขึ้นหรือเยอะขึ้น แต่ก็น้ำตาลสูง ทำให้นิ่วที่เป็นอาจจะแย่กว่าเดิม
โฆษณา
สิ่งของที่ใช้
- น้ำเปล่าหรือเครื่องดื่มอื่นๆ
- เลมอน
- แหล่งไฟเบอร์ (กากใย) ตามธรรมชาติ
ข้อมูลอ้างอิง
- ↑ http://www.mayoclinic.com/health/kidney-stones/DS00282/DSECTION=treatments-and-drugs
- ↑ http://www.healthguidance.org/entry/13986/1/How-to-Pass-a-Kidney-Stone-Easily.html
- ↑ http://health.nytimes.com/health/guides/disease/kidney-stones/prevention.html
- ↑ http://www.webmd.com/hw-popup/alpha-blocker-medicines
- ↑ http://www.webmd.com/kidney-stones/kidney-stones-medications
- ↑ http://kidney.niddk.nih.gov/KUDiseases/pubs/stonesadults/index.aspx#treated
เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้
มีการเข้าถึงหน้านี้ 3,602 ครั้ง
โฆษณา