ไม่ว่าจะเบื่อหน่ายกับอะไรที่ทำอยู่ตอนนี้ หรืออยากเปลี่ยนแปลงเฉพาะบางสิ่งในชีวิตหรือไม่ เราก็สามารถตัดสินใจเปลี่ยนแปลงตอนนี้เลยก็ได้เพื่อจะได้มีความสุขมากขึ้น และให้รางวัลชีวิตตนเองมากขึ้น บางครั้งต้องลงมือทำเลยแทนที่จะเอาแต่ฝันไปเรื่อยเปื่อยโดยไม่ลงมือเปลี่ยนแปลงอะไรสักอย่าง การสร้างความเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่ในไม่กี่ชั่วโมงนั้นอาจเป็นไปไม่ได้ แต่อย่างน้อยที่สุดก็สามารถเป็นการเริ่มต้นสู่เส้นทางการเปลี่ยนแปลงได้ บางสิ่งที่สามารถเริ่มต้นได้คือ การระดมความคิด การตั้งเป้าหมาย และการเริ่มก้าวทีละก้าวสู่เป้าหมาย ลองอ่านวิธีเปลี่ยนแปลงชีวิตรอบตัวในไม่กี่ชั่วโมงนี้ดู
ขั้นตอน
-
คิดเป้าหมายระยะยาว. เป้าหมายระยะยาวของเราคืออะไร ลองคิดว่าจะเห็นตนเองที่ไหนในอีกสิบปีข้างหน้า อยากเป็นเจ้าของบ้านสักหลังไหม อยากทำงานบริษัทที่ทำอยู่ตอนนี้ต่อไปไหม อยากแต่งงานแล้วก็มีลูกไหม ลองคิดดูว่ากำลังเดินทางไปสู่เป้าหมายระยะยาวนั้นหรือไม่ ถ้าไม่ ก็จะต้องหาจุดที่จะเปลี่ยนแปลง [1] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
-
คิดให้ออกว่าอยากเปลี่ยนแปลงอะไร. บางครั้งการเปลี่ยนแปลงก็ยิ่งใหญ่ และน่าหวาดกลัวจนไม่อยากนึกถึงเลย แต่ถ้ามีอะไรที่สามารถทำได้บ้างละก็ ก็ทำเสียตอนนี้เลย เอากระดาษและปากกาขึ้นมา ระดมความคิดและเขียนคำตอบให้กับคำถามที่จะตามมานี้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ ไม่ต้องพะวงเรื่องไวยากรณ์ การสะกดคำ หรือเครื่องหมายวรรคตอน แค่เขียนลงไปเท่านั้น
- อะไรที่ทำได้ดีในตอนนี้ เขียนสิ่งที่ดีในชีวิตตอนนี้ ถ้าจะเปลี่ยนแปลง ก็ต้องรู้ตัวว่าชอบอะไรมากเท่ากับรู้ตัวว่าไม่ชอบอะไร จะได้ไม่จบลงด้วยการทำลายสิ่งดีๆ ในชีวิตไป อาจเขียนจุดแข็งด้วยก็ได้ จะได้รู้ว่าจะทำอะไรได้บ้างเพื่อไปสู่การเปลี่ยนแปลง
- ชีวิตด้านไหนที่อยากเปลี่ยน เกลียดงานที่ทำอยู่ไหม ไม่มีความสุขกับชีวิตคู่หรือเปล่า เขียนชีวิตส่วนที่ทำให้ไม่มีความสุขเลยลงไป
- เลือกสิ่งที่อย่างเปลี่ยนแปลง 3 ถึง 5 อันดับแรก ขอกล่าวอีกครั้งว่าเขียนขั้นตอนที่เราสามารถทำได้เพื่อเปลี่ยนแปลงชีวิต เขียนอย่างรวดเร็วและไม่ต้องคิดอะไรมาก อย่าเขียนเยอะไป เพราะมีเวลาอีกมากที่จะปรับเปลี่ยนได้ภายหลัง
-
อ่านทุกอย่างที่เขียนลงไป. เราเพิ่งเขียนแนวทางดำเนินการส่วนตัวแบบรวดเร็วเสร็จไป สามารถปรับแนวทางที่เขียนได้ตลอดเวลา แต่ตอนนี้ให้แยกสิ่งที่เขียนว่ามีสิ่งไหนที่ รู้สึก“เปลี่ยนแปลงยากเกินไป” และเขียนขั้นตอนทำสิ่งเหล่านี้ให้เป็นรูปธรรม อ่านขั้นตอนที่เขียน จดจำไว้ให้ขึ้นใจ และเริ่มขั้นตอนไปสู่เป้าหมาย
-
แตกเป้าหมายใหญ่เป็นเป้าหมายย่อยที่ทำได้. การมีเป้าหมายใหญ่อย่าง “เป็นเศรษฐี” นั้นเป็นเป้าหมายระยะยาวที่ยอดเยี่ยม แต่ก็ไม่มีขั้นตอนที่เป็นรูปธรรมพอที่ทำให้ไปถึงเป้าหมายได้ จะต้องแตกเป้าหมายใหญ่ให้เป็นเป้าหมายย่อยที่ทำได้จริงมากกว่านี้เพื่อไปให้ถึงเป้าหมายใหญ่นั้น ตัวอย่างเช่น อาจแตกเป้าหมายการเป็นเศรษฐีเป็นเป้าหมายที่สามารถทำได้อย่าง “เปิดบัญชีออมทรัพย์”หรือ “ขอขึ้นเงินเดือน” เป้าหมายเล็กๆ จะช่วยให้เข้าใกล้เป้าหมายใหญ่ๆ และช่วยให้ทำตามเป้าหมายได้ง่ายขึ้น [2] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- ทำให้คำกล่าวอย่างกว้างๆ เป็นอะไรที่ทำได้ ตัวอย่างเช่น แทนที่จะเขียนอะไรกว้างๆ อย่าง “ค้นหาความใฝ่ฝันของตัวเอง” ให้ลองเขียนอะไรที่ทำได้ และเจาะจงลงไปอีก อาจจะเขียนว่า “ไปปรึกษาแคเรียโค้ช” หรือ “เข้าทดสอบความถนัด”
- ทำให้เป้าหมายใหญ่เป็นสิ่งเล็กๆ ที่ทำได้ ตัวอย่างเช่น แทนที่จะเขียนว่า “หางานใหม่” ก็แตกออกเป็นขั้นตอนย่อยๆ อย่าง “ปรับปรุงเรซูเม่” “สร้างโปรไฟล์ในลิงค์อิน” “สำรวจบริษัทใหม่ๆ ” หรือ “เขียนจดหมายลาออก”
-
ทำอะไรสักอย่างเพื่อไปให้ถึงเป้าหมาย. หลังจากทบทวนสิ่งที่ต้องทำ ถ้ารู้ว่าสามารถทำอะไรให้สำเร็จได้ภายใน 48 ชั่วโมงข้างหน้า ทำซะ [3] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง ทำสิ่งเล็กๆ ให้มากเท่าที่ทำได้ภายใน 48 ชั่วโมงข้างหน้าเพื่อมุ่งสู่การเปลี่ยนแปลง นี้คือตัวอย่าง
- ยุติความสัมพันธ์ที่ไม่มีความสุข คุยกับคู่ชีวิต หาที่อยู่ใหม่ เก็บสัมภาระ หรือขอเพื่อนให้ช่วยขนย้าย
- ทำให้ตนเองมีสุขภาพดี เลิกกินอาหารขยะ เข้ายิม คุยกับผู้ที่ช่วยเหลือเราได้ หรือซื้อรองเท้ากีฬาคู่ใหม่
- ย้ายไปอยู่จังหวัดใหม่ หาอพาร์ตเมนต์ในจังหวัดนั้น ขายบ้านและคอนโดตนเองไป เริ่มเอาสิ่งที่ไม่ต้องการนำไปด้วยทิ้งไป หรือโทรบอกข่าวเพื่อนและญาติ
โฆษณา
-
ติดเป้าหมายในที่มองเห็นได้. ติดเป้าหมายในที่เรามองเห็นได้อย่างที่ตู้เย็น ที่ผนัง หรือบนแล็ปท็อป วิธีนี้จะช่วยให้เราทำตามเป้าหมาย จะสร้างทางเลือกที่นำเราไปใกล้เป้าหมายมากขึ้นด้วยการเตือนให้นึกถึงเป้าหมายทุกวัน
-
กระทำสิ่งที่ตั้งใจไปเรื่อยๆ จนกระทั้งบรรลุเป้าหมาย. การทำเพื่อบรรลุเป้าหมายที่ตั้งไว้แต่แรกและทำต่อไปแม้จะติดขัดบ้างนั้นสำคัญ การทำต่อไปเรื่อยๆ จะช่วยให้เรายังคงตั้งใจ และมุ่งหน้าสู่เป้าหมายต่อไป [4] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- ตัวอย่างเช่น อาจทำสัญญาและลงนามกับตนเองในสิ่งต่างๆ ที่ตกลงว่าจะทำ (ประจำวัน หรือประจำสัปดาห์) เพื่อให้บรรลุเป้าหมาย
-
เริ่มเขียนบันทึก หรือเขียนบล็อกเพื่อติดตามความก้าวหน้า. การเขียนเส้นทางสู่จุดหมายเป็นวิธีการที่ดีเยี่ยม เพราะจะคอยเป็นแรงบันดาลใจให้เราเสมอ การบันทึกช่วยจัดระเบียบความคิดในใจเกี่ยวกับสถานการณ์ใหม่ๆ ขณะที่การเขียนบล็อกทำให้สามารถแบ่งปันการเดินสู่จุดหมายกับผู้อื่นได้ ลองใช้วิธีที่สะดวกและเริ่มเขียนวันนี้เลย [5] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- สามารถใช้บันทึกนี้บันทึกความคิด และความรู้สึกเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงที่พยายามจะทำอยู่ เขียนสิ่งต่างๆ ที่ต้องการทำแต่ละวัน หรือแค่เขียนอะไรที่คิดอยู่ในใจก็ได้
-
นึกภาพตอนบรรลุเป้าหมาย. การนึกภาพเป็นวิธีการอันทรงพลังที่สามารถคอยช่วยเป็นแรงบันดาลใจให้เราเปลี่ยนแปลงชีวิตจากภาพที่เราเห็นในใจ ใช้เวลาประมาณ 10 นาทีทุกวันเพื่อคิดว่าการบรรลุเป้าหมายจะเป็นอย่างไร จินตนาการดูว่าเป็นอย่างไร ผู้คนจะมีปฏิกิริยาอย่างไร และเรารู้สึกอย่างไร [6] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
-
คิดบวกเสมอ. การคิดบวกเสมอสามารถช่วยเราให้บรรลุเป้าหมายได้ เพราะทำให้เรามีความสุขเสมอ ยิ่งมีความสุข ก็ยิ่งรู้สึกว่าสามารถบรรลุเป้าหมายได้ [7] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง พยายามให้ตนเองคิดบวกมากกว่าคิดลบ ถ้าพบว่าปัญหาของตนเองหรือสิ่งรอบข้างนั้นหนักหนามากเกินไป ลองคิดเปลี่ยนแปลงอะไรสักอย่าง [8] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- อย่างน้อยที่สุดทิ้งข้อความสั้นๆ ให้ตนเองยิ้มเมื่อเห็นบ้าง บางครั้งการเขียนข้อความอย่าง “เธอนี่ยอดไปเลย!” หรือ “พยายามต่อไปนะ!” จะสามารถช่วยเป็นแรงผลักดันเล็กๆ ให้เราได้
- ใช้เวลาทำสิ่งต่างๆ ที่ทำให้รู้สึกมีความสุขกับผู้คนที่ทำให้เรารู้สึกดี เดินห้างกับเพื่อนรัก หรือไปดูภาพยนตร์กับคนที่สำคัญ
-
ให้รางวัลตนเอง. สามารถช่วยให้ตนเองมีกำลังใจที่จะทำตามเป้าหมายต่อไปด้วยการให้รางวัลตนเอง การให้รางวัลอย่างง่ายๆ เช่น การซื้อเสื้อผ้าใหม่ให้ตนเอง เมื่อลดน้ำหนักได้ประมาณ 4 – 5 กิโล ก็ทำให้มีกำลังใจอย่างมากที่จะไปสู่เป้าหมายแล้ว แต่ต้องเลือกรางวัลที่ดีต่อสุขภาพ และซื้อหามาได้ด้วยตนเอง เมื่อบรรลุเป้าหมายแล้ว ถึงอย่างไรก็ต้องให้รางวัลตนเอง [9] X แหล่งข้อมูลอ้างอิงโฆษณา
-
ทำสภาพแวดล้อมให้เป็นระเบียบเรียบร้อย. ไม่มีอะไรสามารถทำให้สมองแล่นได้อย่างการขจัดข้าวของที่วางเกะกะอยู่ ถามตนเองว่าต้องการกองเอกสารพวกโน้น พวกดีวีดีที่ไม่เคยดู หรือเสื้อผ้าที่ไม่ได้ใส่อยู่อีกไหม การเอาข้าวของที่ไม่ต้องการออกไปเพื่อทำให้พื้นที่โล่งขึ้นจะช่วยทำให้จิตใจโล่งขึ้นด้วยเช่นกัน
- เริ่มจัดการโต๊ะ เตียงนอน กระเป๋า สื่อสังคมออนไลน์ที่ทำให้เสียสมาธิ หรือข้าวของที่วางระเกะระกะนิดหน่อยอีกสักจุดหนึ่ง เริ่มจัดสัก 1 มุม หรือจัดชั้นวาง 1 จุดในห้อง หรือจัดการกองเอกสาร 1 กอง
- หาวิธีแก้ปัญหาเพื่อป้องกันไม่ให้ห้องรกอีก ตัวอย่างเช่น ตัดสินใจว่าจะใช้เวลา 20 นาที ต่อวันในการจัดบ้าน หรือห้องให้เรียบร้อย
-
ดูแลตัวเองให้ดี. การดูแลตัวเองให้ดีนั้นเป็นปัจจัยเกื้อหนุนไปสู่ความสำเร็จ เป็นการพูดกับตนเองว่า “เธอนั้นสำคัญจริงๆ นะ และฉันกำลังใช้เวลาดูแลสิ่งที่สำคัญนั้นอยู่” วิธีนี้ยังทำให้รู้สึกมีความมั่นใจมากขึ้นในสภาพแวดล้อมใหม่ เราต้องกินอาหารดีๆ หลับให้เพียงพอ และออกกำลังกายเป็นประจำ ถึงจะดีที่สุด
- ทำตนให้ดูดี เมื่อไรคือครั้งสุดท้ายที่เปลี่ยนทรงใหม่ หรือทำเล็บ หรือแต่งเล็บ ต้องซื้อเสื้อผ้าใหม่ไหม ส่วนหนึ่งของการเปลี่ยนแปลงอะไรใหม่ๆ คือการเปลี่ยนแปลงรูปลักษณ์ การลงทุนให้ดูดีคือการลงทุนให้ตนเอง
- ออกกำลังกายเป็นประจำ และกินอาหารที่ดีต่อสุขภาพ เมื่อกลัวการเปลี่ยนแปลงชีวิต ก็อาจจะอยากหมกตัวอยู่ในบ้าน และกินอะไรตามอารมณ์ หันมาดูแลตนเองเถอะ ไปเดินสัก 30 นาทีทุกวัน และกินอาหารที่ดีต่อสุขภาพ
- ไปตรวจร่างกายบ้าง ไปหาทันตแพทย์ หรือแพทย์ครั้งสุดท้ายเมื่อไร ร่างกายอาจต้องมีการปรับตัวบ้างเพื่อให้เหมาะกับสภาพแวดล้อมใหม่ คงไม่อยากให้เกิดปัญหากับสุขภาพร่างกายโดยไม่รู้ตัวหรอก
-
หาแรงสนับสนุน. แรงสนับสนุนนั้นสำคัญ เมื่อต้องพยายามสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่ ขอให้เพื่อนและครอบครัวช่วยสนับสนุนช่วงการเปลี่ยนแปลงนี้ เข้าร่วมกลุ่มที่คอยช่วยเหลือ หรือคุยกับนักบำบัด ถ้าการเปลี่ยนชีวิตทำให้รู้สึกวิตกกังวลหรือหดหู่
- หากคิดว่าเหมาะสมและรู้สึกสบายใจที่จะแบ่งปันการตัดสินใจที่จะเปลี่ยนแปลงชีวิต ลองโพสต์ความตั้งใจนี้ลงเฟซบุ๊ก หรือเว็บสื่อสังคมอื่นที่ใช้บ่อยๆ การสร้างความตั้งใจเป็นวิธีที่ยอดเยี่ยมวิธีหนึ่งที่จะได้รับแรงสนับสนุน และเชิญให้คนอื่นๆ มามีส่วนร่วมได้ [10] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
-
อดทน. อาจต้องก้าวใหญ่ๆ บ้างเพื่อเปลี่ยนแปลงชีวิตในสองสามชั่วโมง แต่การเคยชินการเปลี่ยนแปลงต้องใช้เวลา อย่าถอยกลับไปทางเดิม หรือสภาพแวดล้อมเดิมแค่เพราะรู้สึกกลัว หรือไม่มั่นใจสิ่งที่เลือก ให้เวลาตนเองปรับตัวให้เข้ากับสภาพแวดล้อมใหม่ 6 เดือนหรือหนึ่งปีโฆษณา
เคล็ดลับ
- ต้องมีเงินพอที่จะเปลี่ยนแปลงตนเอง ถ้าหากอยากเปลี่ยนจริงๆ อย่างเช่น อย่าออกจากงานถ้าไม่มีเงินเก็บพอที่จะพึ่งได้ โดยเฉพาะสำหรับคนที่ต้องพึ่งเงินเป็นหลัก
โฆษณา
คำเตือน
- ลองคิดว่าสิ่งที่เปลี่ยนแปลงนี้มีผลต่อครอบครัวและเพื่อนอย่างไรก่อนเริ่มลงมือทำ การเริ่มจัดการชีวิตตนเองเลยเป็นเรื่องที่ยอดเยี่ยม แต่ต้องมั่นใจว่าไม่ทำให้ผู้คนเจ็บปวด หรือเดือดร้อนในการเปลี่ยนแปลงนั้น
โฆษณา
ข้อมูลอ้างอิง
- ↑ http://www.mindtools.com/page6.html
- ↑ http://www.mindtools.com/page6.html
- ↑ http://www.lifehack.org/articles/lifestyle/42-practical-ways-to-improve-yourself.html
- ↑ http://www.forbes.com/sites/glassheel/2013/03/14/6-ways-to-achieve-any-goal/2/
- ↑ http://www.lifehack.org/articles/lifestyle/42-practical-ways-to-improve-yourself.html
- ↑ http://www.lifehack.org/articles/lifehack/10-ways-to-achieve-your-goals-quicker.html
- ↑ http://time.com/2933971/how-to-motivate-yourself-3-steps-backed-by-science/
- ↑ http://www.oprah.com/spirit/How-to-Believe-in-Yourself-Stop-Negative-Thinking
- ↑ http://time.com/2933971/how-to-motivate-yourself-3-steps-backed-by-science/
เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้
มีการเข้าถึงหน้านี้ 2,410 ครั้ง
โฆษณา