ดาวน์โหลดบทความ ดาวน์โหลดบทความ

หลายคนคงเคยรู้สึกขาดความมั่นใจในร่างกายของตัวเองมาก่อนในช่วงใดช่วงหนึ่งของชีวิต ไม่ว่าจะเป็นช่วงที่มีการเปลี่ยนแปลงด้านร่างกายเมื่อเข้าสู่วัยรุ่น ช่วงหลังคลอดใหม่ๆ หรือช่วงที่น้ำหนักตัวเพิ่มขึ้นจากเดิม เราทุกคนต่างเคยประสบปัญหาเหล่านี้กันมาแล้วทั้งนั้น! การมีความมั่นใจในรูปลักษณ์มีผลอย่างมากต่อสุขภาพทั้งทางกายและจิตใจและความพึงพอใจในตัวเองของคุณ หากคุณต้องการหลุดพ้นจากวงจรของความคิดเชิงลบ เราได้รวมวิธีที่จะช่วยให้คุณมีทัศนคติต่อร่างกายของตัวเองในแง่บวกมากขึ้น

1

รับรู้และหยุดยั้งความคิดเชิงลบ

ดาวน์โหลดบทความ
  1. ตั้งสติทุกครั้งเมื่อคุณเริ่มคิดลบในร่างกายของตัวเอง. เมื่อมีความคิดเชิงลบผุดขึ้นมาในหัว ในขณะนั้นคุณกำลังทำอะไรและความคิดนั้นทำให้คุณรู้สึกอย่างไร สิ่งสำคัญคือคุณจะต้องรู้ตัวเมื่อมีความคิดเชิงลบต่อรูปลักษณ์ของตัวเองเกิดขึ้นมาและสังเกตดูว่าสิ่งใดที่กระตุ้นให้เกิดความคิดดังกล่าวเพื่อเตรียมรับมือกับความคิดเชิงลบที่อาจผุดขึ้นมาซ้ำในอนาคต [1]
    • ยกตัวอย่างเช่น ในระหว่างที่คุณกำลังลองเสื้อผ้าในห้องแต่งตัว คุณอาจเกิดความคิดขึ้นมาว่า "ฉันอ้วนมากจนใส่เสื้อผ้าพวกนี้ไม่ได้เลย ถ้ารู้อย่างนี้ฉันไม่น่าลองเสื้อผ้าเลยตั้งแต่แรก" ความคิดดังกล่าวฟังดูน่าเจ็บปวด โกรธ หรือเศร้าใช่มั้ย
    • หรือคุณอาจเห็นคนวิ่งจ๊อกกิ้งและคิดขึ้นมาว่า "ไม่มีทางที่ฉันจะมีหุ่นดีเหมือนคนนั้นได้แน่นอน" การคิดแบบนี้อาจทำให้คุณรู้สึกหดหู่ใจหรือหงุดหงิดได้
    โฆษณา
2

รับมือกับความคิดเชิงลบที่เกิดขึ้น

ดาวน์โหลดบทความ
  1. อย่ายอมสยบกับความคิดเชิงลบเหล่านี้โดยเด็ดขาด! ลองถามตัวเองว่าคุณปฏิบัติต่อตนเองอย่างยุติธรรมดีหรือไม่และความคิดเหล่านี้ทำให้ชีวิตของคุณดีขึ้นจริงหรือ และลองนึกดูว่าคุณจะพูดเช่นเดียวกันนี้กับเพื่อนของคุณหรือไม่ คุณสามารถปรับเปลี่ยนทัศนคติเชิงลบของคุณได้ดังตัวอย่างต่อไป: [2]
    • "ใส่ชุดนี้แล้วดูไม่ค่อยเข้ากับฉันเลย แต่ไม่เป็นไร ฉันยังมีเสื้อผ้าอีกตั้งหลายชุดที่ใส่แล้วรู้สึกมั่นใจ"
    • "แค่เสื้อผ้าพวกนี้ไม่พอดีตัวก็ไม่ได้หมายความว่าฉันไม่ควรหยิบมาใส่เลย ฉันเพียงแค่อยากลองแต่งตัวแบบใหม่ๆ เท่านั้นเอง"
    • "ฉันอาจไม่ชอบต้นแขนที่หย่อนยานของตัวเองมากนัก แต่แขนทั้งสองข้างนี้แหละที่ทำให้ฉันอุ้มลูกหรือกอดใครสักคนแน่นๆ ได้"
3

จดบันทึกส่วนของร่างกายที่คุณชอบ

ดาวน์โหลดบทความ
  1. หันไปมองสิ่งที่มีคุณค่าแทนที่จะนึกถึงแต่สิ่งที่ไม่ชอบ. ใช้เวลาสักเล็กน้อยจดบันทึกว่าส่วนใดของร่างกายบ้างที่คุณรู้สึกภาคภูมิใจมากที่สุดไม่ว่าจะเป็นลักษณะทางกายภาพหรือความสามารถทางด้านร่างกาย และเมื่อคุณรู้สึกขาดความมั่นใจในร่างกายของตัวเองขึ้นมา ให้คุณหยิบบันทึกนี้ขึ้นมาเปิดอ่านดูเพื่อเตือนตัวเองว่าร่างกายของคุณยอดเยี่ยมไม่น้อยหน้าใคร! [3]
    • ยกตัวอย่างเช่น คุณอาจจดบันทึกไว้ว่าร่างกายของคุณทำให้คุณได้ว่ายน้ำ ได้กอดคนที่คุณรัก หรือได้เอาชนะความท้าทายที่เจอในแต่ละวัน
    โฆษณา
4

สวมใส่เสื้อผ้าที่พอดีตัว

ดาวน์โหลดบทความ
  1. เลือกเสื้อผ้าที่สวมใส่สบายตัวเพื่อสร้างความมั่นใจให้ตัวเอง. การแต่งตัวตามเทรนด์ใหม่ๆ อาจเป็นเรื่องน่าอึดอัดใจสำหรับใครหลายคน โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากเสื้อผ้าเหล่านี้ดูไม่เหมาะกับรูปร่างของคุณ นอกจากนี้หลายคนยังคิดว่าการสวมเสื้อผ้าไซส์เล็กจึงจะทำให้ตัวเองออกมาดูดีที่สุด ถึงเวลาแล้วที่คุณจะต้องขจัดความเข้าใจผิดเหล่านี้ทิ้งไปซะ! สิ่งที่คุณควรทำคือการมองหาเสื้อผ้าที่ดูเหมาะกับคุณและสวมใส่ได้พอดีตัวเพื่อสร้างความมั่นใจให้ตัวเองและแสดงออกมาให้ทุกคนได้เห็น [4]
    • อย่าเขินอายที่จะเลือกซื้อเสื้อผ้าที่มีขนาดพอดีกับรูปร่างของคุณจริงๆ ซึ่งคุณอาจพบว่าเสื้อผ้าเหล่านี้เก็บกระชับได้ดีกว่าและถูกออกแบบมาให้เข้ากับรูปร่างของคุณได้ดีกว่า
5

ปฏิบัติต่อร่างกายของตัวเองด้วยความเคารพ

ดาวน์โหลดบทความ
  1. ทานอาหารที่มีประโยชน์ หมั่นขยับร่างกาย และพักผ่อนให้เพียงพอ. เมื่อเกิดทัศนคติด้านลบต่อร่างกายของตัวเอง คุณอาจมีความคิดที่จะเปลี่ยนแปลงทัศนคติดังกล่าวด้วยวิธีการต่างๆ ที่เกินขีดจำกัดร่างกายตัวเอง เช่น ไดเอทอย่างหักโหมเมื่อรู้สึกว่าน้ำหนักตัวเพิ่มขึ้นหรือออกกำลังกายอย่างหนักเพื่อปั้นกล้ามเนื้อ หยุดพฤติกรรมดังกล่าวโดยด่วนแล้วหันมาดูแลร่างกายอย่างเหมาะสม เลือกทานอาหารรสชาติอร่อยที่ดีต่อสุขภาพ และหมั่นขยับร่างกายเป็นประจำ รวมทั้งงดเว้นพฤติกรรมเสพติดต่างๆ อย่างการดื่มสุราหรือเสพยาเสพติด [5]
    • การดูแลเอาใจใส่ร่างกายอย่างดีเยี่ยมย่อมส่งผลให้สุขภาพจิตของคุณดีตามไปด้วย ดังนั้นอย่าลืมหาเวลาดูแลตัวเองอยู่เป็นประจำ
    โฆษณา
6

ทำกิจกรรมที่คุณชอบหรือช่วยให้ผ่อนคลาย

ดาวน์โหลดบทความ
  1. ออกกำลังกาย ฝึกสมาธิ ทำสวน หรือทำกิจกรรมอื่นๆ ที่คุณชื่นชอบ. พยายามหากิจกรรมแอคทีฟต่างๆ ที่ชอบและทำให้ตัวเองรู้สึกดีมาทำบ่อยๆ เช่น คุณอาจเลือกวิ่งจ๊อกกิ้งเพราะทำให้รู้สึกกระปรี้กระเปร่าหรือเลือกฝึกโยคะเพราะช่วยให้จิตใจสงบมากขึ้น การทำกิจกรรมที่ชอบจะทำให้คุณหันมารักร่างกายของตัวเองที่ให้คุณได้ทำสิ่งต่างๆ มากยิ่งขึ้น [6]
    • อย่าลืมจดกิจกรรมเหล่านี้เพิ่มลงไปในบันทึกส่วนของร่างกายที่คุณชอบ
7

ชื่นชมในคุณลักษณะและจิตวิญญาณของตัวเอง

ดาวน์โหลดบทความ
  1. เตือนตัวเองทุกวันถึงตัวตนที่ยอดเยี่ยมของตัวเอง. จำไว้ว่าการจะเป็นคนที่มีบุคลิคโดดเด่นนั้นไม่จำเป็นต้องมีร่างกายที่ "สมบูรณ์แบบ" ดังนั้นอย่างน้อยวันละครั้ง ให้คุณลองนึกถึงคุณลักษณะที่เป็นจุดแข็งของตัวเองสักหนึ่งอย่าง เช่น คุณอาจเป็นคนที่มีความเห็นอกเห็นใจ เป็นคนเด็ดเดี่ยว หรือเป็นคนช่างสงสัย และบอกตัวเองว่าลักษณะพิเศษเหล่านี้ไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับรูปลักษณ์ภายนอกของคุณ [7]
    • ลองนึกถึงคนที่คุณชื่นชมหรือคนมีชื่อเสียงโด่งดังในประวัติศาสตร์และถามตัวเองว่าคุณนับถือพวกเขาจากรูปลักษณ์ภายนอกหรือเพราะสิ่งที่แสดงถึงความยอดเยี่ยม ความเมตตากรุณา หรือความละเอียดรอบคอบที่เขาหรือเธอเคยทำไว้
    โฆษณา
8

พูดคุยกับคนรักเกี่ยวกับการขาดความมั่นใจในร่างกายของตัวเอง

ดาวน์โหลดบทความ
  1. ซื่อสัตย์กับตัวเองหากความใกล้ชิดทางกายทำให้คุณอึดอัดใจ. หลายคนอาจรู้สึกอึดอัดใจเมื่อมีความสัมพันธ์ทางกายกับใครสักคน โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากเขาหรือเธอเห็นร่างอันเปลือยเปล่าของคุณ เพื่อช่วยให้คุณมั่นใจในร่างกายของตัวเองและรู้สึกสบายใจเมื่ออยู่กับคนรักมากขึ้น คุณควรเปิดอกพูดคุยกับคนรักเพื่อระบายความรู้สึกและปรึกษาหารือร่วมกันถึงสิ่งที่คุณทั้งสองคนสามารถทำได้อย่างสบายใจ [8]
    • ยกตัวอย่างเช่น คุณอาจเปิดบทสนทนาโดยพูดว่า "ฉันชอบเธอจริงๆ และรู้สึกมีความสุขกับความสัมพันธ์ที่เป็นอยู่ แต่ฉันรู้สึกอึดอัดใจและเป็นกังวลอย่างมากเมื่อต้องถอดเสื้อต่อหน้าเธอ"
9

อยู่ท่ามกลางคนที่พร้อมให้กำลังใจ

ดาวน์โหลดบทความ
  1. เอาตัวออกห่างจากคนที่ทำให้คุณขาดความมั่นใจในร่างกายของตัวเอง. บางทีคุณอาจจะมีสมาชิกครอบครัวที่มักพูดอยู่บ่อยๆ ว่าคุณผอมเกินไปหรือมีเพื่อนที่คอยจู้จี้ให้คุณลดน้ำหนัก ซึ่งในบางครั้งอาจเป็นการยากที่คุณจะทำหูทวนลมและเพิกเฉยต่อคำพูดเหล่านี้ ดังนั้นสิ่งที่คุณควรทำคือพยายามตีตัวออกห่างจากพวกเขาเสียบ้างและอยู่ท่ามกลางเพื่อนและสมาชิกในครอบครัวที่ยอมรับในสิ่งที่คุณเป็นโดยไม่ตัดสินจากเพียงรูปลักษณ์ภายนอก [9]
    • คุณไม่จำเป็นต้องยกประเด็นนี้ขึ้นมาพูดกับเพื่อนหรือสมาชิกในครอบครัวของคุณเว้นแต่ว่าคุณต้องการที่จะจับเข่าคุยกันกับพวกเขาจริงๆ โดยคุณอาจพูดว่า "ฉันไม่อยากมางานปาร์ตี้ของเธอเลย เธอมักทำให้ฉันรู้สึกแย่กับรูปร่างหน้าตาของตัวเองและฉันไม่ต้องการพลังลบเหล่านี้จากเธอ"
    โฆษณา
10

หลีกเลี่ยงหรือเพิกเฉยต่อเรื่องที่ไม่สมจริงบนโซเชียลมีเดีย

ดาวน์โหลดบทความ
  1. เลิกติดตามผู้ที่เลือกแชร์แต่ภาพความ "สมบูรณ์แบบ" ในอุดมคติ. หากคุณเห็นแต่โพสต์รูปถ่ายผู้คนที่ผ่านการแต่งให้ออกมาดูดีในทุกครั้งที่เลื่อนดูหน้าฟีดบน Facebook หรือ Instagram คุณอาจเริ่มรู้สึกหดหู่และนึกไม่ชอบในรูปร่างหน้าตาของตัวเอง ขจัดความรู้สึกอับอายนี้ไปและใช้เวลากับเว็บไซต์อื่นๆ แทน [10]
    • หากคุณมีปัญหาในการลดการใช้เวลาบนโลกออนไลน์ ลองใช้แอพที่ช่วยบันทึกระยะเวลาที่คุณใช้ในการเข้าชมแต่ละเว็บไซต์
11

จำกัดการพินิจพิเคราะห์ร่างกายของตัวเอง

ดาวน์โหลดบทความ
  1. ไม่ต้องชั่งน้ำหนักทุกวันและใช้เวลาหน้ากระจกให้น้อยลง. การหมกมุ่นอยู่กับรูปร่างหน้าตาของตัวเองอาจทำให้การสร้างความมั่นใจให้ตัวเองเป็นเรื่องที่ยากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากคุณมีความกังวลในสิ่งที่ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ เลิกกดดันตัวเองด้วยการออกห่างจากตาชั่ง หยุดวัดรอบเอว และหลีกเลี่ยงการส่องกระจก [11]
    • แทนที่จะสนใจแต่น้ำหนักตัวและรูปร่าง คุณควรหันมาให้ความสำคัญกับสุขภาพและสุขภาวะแทน
    โฆษณา
12

ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านการดูแลสุขภาพ

ดาวน์โหลดบทความ
  1. ขอคำปรึกษาจากผู้เชี่ยวชาญหากคุณรู้สึกหดหู่ในรูปลักษณ์ของตัวเอง. พูดคุยกับแพทย์หรือนักบำบัดโรคหากความรู้สึกด้านลบในร่างกายของตัวเองกำลังทำให้คุณรู้สึกแย่ลงเรื่อยๆ จำไว้ว่าไม่ใช่คุณเพียงคนเดียวที่ต้องเผชิญกับปัญหาเช่นนี้! การมีความพึงพอใจในตนเองต่ำบ้างเป็นเรื่องปกติธรรมดาและผู้เชี่ยวชาญด้านการดูแลสุขภาพสามารถให้ความช่วยเหลือคุณในการจัดการความรู้สึกเหล่านี้ได้ด้วยการบำบัดทางความคิดและพฤติกรรม (Cognitive behavioral therapy) หรือการบำบัดแบบกลุ่ม [12]
    • หากความวิตกกังวลเกี่ยวกับรูปร่างหน้าตาส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวันของคุณ แพทย์อาจสั่งจ่ายยาระงับอาการวิตกกังวลให้กับคุณ
    • ต้องการคำปรึกษาใช่หรือไม่? คุณสามารถติดต่อสายด่วนสุขภาพจิตในประเทศคุณได้ตลอด 24 ชั่วโมง [13]

เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

มีการเข้าถึงหน้านี้ 2,551 ครั้ง

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม

โฆษณา