ดาวน์โหลดบทความ ดาวน์โหลดบทความ

ในฐานะมนุษย์ แหล่งพลังงานของเรามาจากอาหารที่เรากินเข้าไป และวิถีชีวิตของเราเอง มีหลายอย่างเลยที่คุณทำได้ เพื่อเพิ่มระดับพลังงานให้สูงตลอดวัน ไม่ว่าคุณจะอยากกระฉับกระเฉง ทำงานได้ทั้งวัน หรืออยากเพิ่มพลังไว้ออกกำลังกาย ก็ทำได้อย่างเป็นธรรมชาติ ไม่ต้องพึ่ง “ยาวิเศษ” หรืออาหารเสริมเพิ่มพลังแต่อย่างใด บทความวิกิฮาวนี้จะแนะนำเทคนิคและเคล็ดลับดีๆ ให้คุณได้ไปลองทำกันดู!

วิธีการ 1
วิธีการ 1 ของ 15:

นอนหลับวันละ 7 - 8 ชั่วโมง

ดาวน์โหลดบทความ
  1. การนอนหลับพักผ่อนไม่เพียงพอ เป็นสาเหตุหลักทำคุณอ่อนเพลีย. ให้เข้านอนเวลาไหนก็ได้ ที่นอนได้ยาว 7 ชั่วโมงขึ้นไป ที่สำคัญคือต้องเข้านอนเวลาเดิมทุกวัน การเข้านอนและตื่นนอนเวลาเดิมทุกวัน ช่วยสร้างเสริมกิจวัตรการนอนอันดี ทำให้รู้สึกสดชื่นแจ่มใสตลอดวัน [1]
    • นอนในห้องที่อากาศเย็นสบาย เช่น ห้องที่เปิดแอร์หรือพัดลม ถ้าเป็นไปได้ ถ้าในห้องนอนอากาศเย็นสบาย จะช่วยให้หลับสนิทขึ้น เพราะอากาศเย็นแล้วช่วยให้อุณหภูมิแกนกลางของร่างกายลดลง ทำให้เรารู้สึกง่วง
    • พยายามอย่างีบหลับระหว่างวัน เพราะจะยิ่งเพลียตอนกลางคืน
    โฆษณา
วิธีการ 2
วิธีการ 2 ของ 15:

เปิดม่านหรือมู่ลี่รับแสง

ดาวน์โหลดบทความ
  1. ไม่ว่าจะอยู่บ้านหรือที่ทำงาน ก็ขอให้แสงสว่างภายนอกส่องเข้ามา จะช่วยให้ร่างกายสดชื่นกระปรี้กระเปร่าขึ้น ถ้าเป็นไปได้ ให้ขยับโต๊ะใกล้หน้าต่างขึ้น หรือเลือกห้องอื่นที่มีหน้าต่างเยอะขึ้นหรือกว้างขึ้นเพื่อรับแสง [2]
    • แสงไฟก็ช่วยให้สดชื่นได้ ในตอนกลางคืนที่พระอาทิตย์ตกดินแล้ว ลองใช้หลอดฟลูออเรสเซนต์ที่ฉลากเขียนว่า “cool white” หรือ “daylight” ดู เพราะจะแผ่แสงขาวที่ใกล้เคียงกับแสงธรรมชาติ ดีกว่าหลอดไฟแสงเหลืองทั่วไป
วิธีการ 3
วิธีการ 3 ของ 15:

ฝึกหายใจเข้า-ออกลึกๆ

ดาวน์โหลดบทความ
  1. หายใจเข้าช้าๆ ทางจมูก นับ 1 - 4 จากนั้นกลั้นหายใจ แล้วนับ 1 - 7 สุดท้ายหายใจออกทางปาก นับ 1 - 8 ทำซ้ำแบบนี้ 4 ครั้ง [3]
    • เป็นแบบฝึกหายใจง่ายๆ ที่แนะนำให้ทำวันละ 2 ครั้ง ช่วยเพิ่มระดับพลังงานให้ร่างกายได้
    • แถมช่วยคลายเครียดได้ดีอีกต่างหาก
    โฆษณา
วิธีการ 4
วิธีการ 4 ของ 15:

อาหารเช้าต้องหนักแป้ง

ดาวน์โหลดบทความ
  1. กินอาหารเช้าแล้วช่วยคงระดับการเผาผลาญ (metabolism) เพิ่มพลังให้ได้เบิร์น. ห้ามงดอาหารเช้า ไม่งั้นร่างกายจะไม่ได้รับสุดยอดพลังงานที่จำเป็นต่อการเริ่มวันใหม่ของคุณ! อาหารเช้าที่แนะนำคือพวกคาร์โบไฮเดรตดี เช่น ซีเรียล และขนมปังโฮลเกรน [4]
    • ข้าวโอ๊ตสักชาม กับท็อปปิ้งดีมีประโยชน์อย่างผลไม้ เบอร์รี่ หรือถั่วต่างๆ ก็เป็นตัวเลือกของอาหารเช้าที่ช่วยเพิ่มพลังได้ดี
    • โปรตีนไขมันต่ำ อย่างไข่และโยเกิร์ต ก็เหมาะจะกินเป็นมื้อเช้า
    • ถ้าอยากหาอะไรดื่มเป็นมื้อเช้า ลองปั่นผลไม้ น้ำผลไม้ โยเกิร์ต และส่วนผสมอื่นๆ ที่ดีมีประโยชน์เข้าด้วยกัน จะได้เป็นสมูธตี้แสนอร่อยแถมเปี่ยมพลังงาน
วิธีการ 5
วิธีการ 5 ของ 15:

ดื่มคาเฟอีนช่วงเช้า

ดาวน์โหลดบทความ
  1. กาแฟสักแก้วตอนเช้า ช่วยให้ตื่นเต็มตา แต่ระวังอย่าดื่มคาเฟอีนหลังบ่าย 2 เป็นต้นไป การดื่มกาแฟหรือเครื่องดื่มอื่นๆ ที่มีคาเฟอีนในช่วงบ่าย จะรบกวนการนอน ทำให้รู้สึกอ่อนเพลียในวันถัดไป [5]
    • ดื่มคาเฟอีนเยอะไป จะทำให้เพลียทีหลัง ไม่สดชื่น
    • ถ้ารู้สึกเหนื่อยตลอดเวลา จนต้องซ้ำคาเฟอีนเรื่อยๆ ลองงดคาเฟอีนดู โดยค่อยๆ ลดคาเฟอีนในช่วง 3 อาทิตย์ แล้วงดไปเลย 1 เดือน ดูว่ากระฉับกระเฉงขึ้นไหม
    โฆษณา
วิธีการ 6
วิธีการ 6 ของ 15:

กินมื้อเล็กๆ ทุก 3 - 4 ชั่วโมง

ดาวน์โหลดบทความ
  1. ถ้ากินมื้อเล็กแต่บ่อย จะช่วยให้สดชื่นตลอดวัน. ลองเปลี่ยนจากกินมื้อใหญ่ 2 - 3 มื้อ มากินมื้อเล็กแต่บ่อยขึ้นดู ถ้าไปทำงานหรือไปโรงเรียน ก็ให้พกของว่างไปด้วย ช่วยเติมพลังงานระหว่างวัน [6]
    • ให้กินอาหารปริมาณเดิมทุก 3 - 4 ชั่วโมง หรือกินของว่างที่มีประโยชน์ระหว่างมื้อเล็กๆ
วิธีการ 7
วิธีการ 7 ของ 15:

กินอาหารที่มีประโยชน์ครบ 5 หมู่

ดาวน์โหลดบทความ
  1. แบบนี้ร่างกายจะได้สารอาหารที่จำเป็นต่อการสร้างพลังงาน. กินอาหารสดใหม่ไม่แปรรูป โดยเฉพาะผักผลไม้ โปรตีนไขมันต่ำ ผลิตภัณฑ์นมไขมันต่ำ และโฮลเกรน ลดอาหารไขมันสูง น้ำตาลสูง และอาหารเค็มๆ เพราะไม่ค่อยมีประโยชน์ต่อร่างกาย แถมทำให้ระดับพลังงานตกด้วย [7]
    • ตัวอย่างของว่างมีประโยชน์ ช่วยเพิ่มพลัง ก็เช่น ถั่วเปลือกแข็ง มะกอก โยเกิร์ต ผลไม้สด และพืชตระกูลถั่วอื่นๆ
    • ผักใบเขียว บรอคโคลี และผักสีส้ม อย่างแครอทและมันเทศ ก็เป็นผักที่สารอาหารสูงมาก ควรรวมอยู่ในอาหารทุกมื้อ
    • ปลาและพืชตระกูลถั่วก็เป็นโปรตีนดีที่แนะนำ
    • พยายามกินซีเรียล พาสต้า ข้าว และขนมปังที่เป็นโฮลเกรนให้ได้วันละ 3 ออนซ์ (85 กรัม)
    โฆษณา
วิธีการ 8
วิธีการ 8 ของ 15:

นั่งแล้วลุกเดินสลับกันไป

ดาวน์โหลดบทความ
  1. ลุกเดินยืดเส้นยืดสายทุก 30 นาที จะช่วยให้เลือดลมไหลเวียนดี กู้ระดับพลังงานให้กลับมาสดชื่น พยายามอย่านั่งดูทีวีหรือนั่งหน้าคอมนานเกินไปนัก [8]
    • ถ้าจำเป็นต้องนั่งทำงานที่เดิมนานๆ ให้พัก 2 - 5 นาทีทุกชั่วโมง พักยังไงให้กระฉับกระเฉง ก็เช่นลุกเดินไปรอบๆ ออฟฟิศ ยืดเส้นยืดสายที่โถงทางเดิน หรือลุกไปชงกาแฟในครัวก็ได้
    • ถ้าต้องนั่งทำงานหน้าคอมที่บ้านหรือที่ออฟฟิศนานๆ ลองเปลี่ยนมาใช้โต๊ะแบบยืน หรือโต๊ะที่ปรับระดับได้ แล้วนั่งสลับยืนทำงานตลอดวัน
วิธีการ 9
วิธีการ 9 ของ 15:

กินวิตามินรวมตอนมื้อกลางวัน

ดาวน์โหลดบทความ
  1. เลือกวิตามินรวมที่มีวิตามินบี เช่น วิตามินบี 12 ส่วนผสมอื่นที่ดีต่อร่างกายก็เช่น แมกนีเซียมและธาตุเหล็ก ช่วยเพิ่มระดับพลังงานของร่างกายได้ดี [9]
    • แต่ย้ำว่าวิตามินรวมก็แทนอาหารมีประโยชน์ครบหมู่ไม่ได้
    โฆษณา
วิธีการ 10
วิธีการ 10 ของ 15:

ดื่มน้ำเยอะๆ

ดาวน์โหลดบทความ
  1. ให้ดื่มน้ำเรื่อยๆ ตลอดวัน ร่างกายจะได้ไม่ขาดน้ำ โดยเฉพาะก่อน ระหว่าง และหลังกิจกรรมที่ต้องออกแรง ที่โต๊ะควรมีน้ำสักแก้ว หรือออกนอกบ้านก็ต้องพกขวดน้ำหรือกระติกน้ำไปด้วย [10]
    • ทั้งคุณหมอและนักวิทยาศาสตร์ ต่างก็เชื่อว่าการดื่มน้ำนั้นเป็นหัวใจสำคัญของสุขภาพอันดี ทำให้คุณรู้สึกสดชื่นมีแรงตลอดวัน แต่ก็ยังสรุปชัดเจนไม่ได้ซะทีเดียว ว่าควรดื่มน้ำวันละเท่าไหร่กันแน่
    • สถาบันวิทยาศาสตร์ วิศวกรรม และการแพทย์แห่งชาติ ของสหรัฐอเมริกา (The U.S. National Academies of Sciences, Engineering, and Medicine) แนะนำว่าผู้ใหญ่เพศหญิงควรดื่มน้ำวันละประมาณ 12 แก้ว (2.5 - 3 ลิตร) ในขณะที่ผู้ใหญ่เพศชายควรดื่มน้ำวันละประมาณ 16 แก้ว (3.5 - 4 ลิตร) [11]
    • สถาบันสุขภาพแห่งชาติ ของสหรัฐอเมริกา (The Institute of Health) แนะนำว่าเด็กและวัยรุ่น ควรดื่มน้ำวันละ 7 แก้ว (1.5 - 2 ลิตร) - 14 แก้ว (3 - 3.5 ลิตร) [12]
    • แต่จำง่ายสุดคือให้ดื่มน้ำวันละ 8 แก้วเต็มๆ ขึ้นไป
    • วิธีอื่นๆ ที่ช่วยให้ร่างกายไม่ขาดน้ำ ก็คือกินผักผลไม้นั่นเอง รวมถึงดื่มน้ำผักผลไม้ และจิบน้ำสมุนไพรหรือชาสมุนไพรด้วย
    • จะรู้ได้ว่าร่างกายเราขาดน้ำหรือเปล่า คือให้สังเกตจากฉี่ของเราเอง ถ้าเป็นสีใสหรือเหลืองจางๆ แสดงว่าดื่มน้ำเพียงพอ แต่ถ้าเป็นสีเหลืองสดหรือเหลืองเข้มจัด ให้ดื่มน้ำเพิ่มขึ้น
วิธีการ 11
วิธีการ 11 ของ 15:

ออกกำลังกายเป็นประจำ

ดาวน์โหลดบทความ
  1. การออกกำลังกายทำให้อารมณ์ดี กระฉับกระเฉงขึ้นเยอะ. เริ่มจากเดินอย่างน้อยวันละ 15 นาที แล้วขยับเขยื้อนร่างกาย ออกแรงเพิ่มขึ้นในช่วงหลายอาทิตย์ไปจนถึงหลายเดือน จนสามารถออกกำลังกายแบบแอโรบิกหนักปานกลางได้อาทิตย์ละ 2.5 ชั่วโมง [13]
    • การออกกำลังกายแบบแอโรบิกหนักปานกลางที่แนะนำ ก็เช่น เดินเร็ว ปั่นจักรยาน และว่ายน้ำ
    • โยคะก็เป็นการออกกำลังกายที่ดี ช่วยเพิ่มระดับพลังงานของร่างกายได้
    โฆษณา
วิธีการ 12
วิธีการ 12 ของ 15:

คบคนคิดบวก

ดาวน์โหลดบทความ
  1. ถ้าอยู่ในหมู่คนคิดบวก คอยกระตุ้น สนับสนุนกันในทางที่ดี ก็จะรู้สึกตื่นตัว มีแรงบันดาลใจ อย่าพยายามคุยกับคนคิดลบ มองโลกในแง่ร้าย เพราะจะเสียพลังกายพลังใจเปล่าๆ [14]
    • พยายามหาแล้วใช้เวลากับคนที่คุยภาษาเดียวกัน ชอบอะไรเหมือนๆ กัน เช่น ถ้าชอบกินขนมดื่มชา ก็ชวนกันไปคาเฟ่ใหม่ๆ ซะเลย
    • อยู่ห่างๆ คนที่ชวนกันไปในทางที่ผิด หรือเอาแต่บ่นทั้งวัน
วิธีการ 13
วิธีการ 13 ของ 15:

หาอะไรทำคลายเครียด

ดาวน์โหลดบทความ
  1. หาอะไรที่ทำแล้วผ่อนคลาย เช่น ฟังเพลง อ่านหนังสือ พยายามปล่อยวางความเครียดทั้งหมด ระหว่างทำกิจกรรมที่ช่วยคงความกระตือรือร้น [15]
    • ถ้าเพิ่งเจอเรื่องเครียดครั้งใหญ่ในชีวิต หาทางออกไม่ได้ ลองไปหานักจิตบำบัดหรือเข้าร่วมกลุ่มบำบัดดู แต่ง่ายกว่านั้นคือพูดคุยเปิดอกกับเพื่อนๆ และครอบครัว
    • ถ้าเครียดจัดเพราะทำงานหนักเกินไป ลองแบ่งงานกันทำกับเพื่อนร่วมงานดู
    • บางทีปฏิเสธงานสังคมบ้างก็ได้ เพื่อใช้เวลาอยู่กับตัวเอง ถ้ารับหมดทุกงาน ทั้งสังสรรค์กับออฟฟิศ เพื่อนฝูง และครอบครัว ก็ต้องรู้สึกเหนื่อยบ้างเป็นธรรมดา!
    โฆษณา
วิธีการ 14
วิธีการ 14 ของ 15:

ควบคุมปริมาณแอลกอฮอล์

ดาวน์โหลดบทความ
  1. แอลกอฮอล์มีฤทธิ์กล่อมประสาท สุดท้ายจะอ่อนเพลียขั้นสุด. พยายามอย่ากินมื้อเที่ยงแกล้มแอลกอฮอล์ ตอนบ่ายจะได้ไม่เซื่องซึม ถ้าคืนไหนต้องใช้พลังเยอะ ก็ระวังค็อกเทลช่วงประมาณ 5 โมงเย็น [16]
    • แอลกอฮอล์ดื่มแล้วทำให้ร่างกายขาดน้ำ เป็นอีกสาเหตุทำคุณอ่อนเพลีย
    • ถ้าคืนนั้นอยากหลับสนิทตลอดคืน ระวังอย่าดื่มแอลกอฮอล์ก่อนเข้านอน ถ้าจำเป็นต้องดื่มตอนมื้อเย็นหรือมื้อค่ำ ให้หยุดดื่มก่อนเข้านอนประมาณ 3 ชั่วโมง เปลี่ยนมาดื่มน้ำเปล่าแทน
วิธีการ 15
วิธีการ 15 ของ 15:

ทำอะไรที่ชอบทุกวัน

ดาวน์โหลดบทความ
  1. หาเวลาทำอะไรที่รักจริงๆ หรือใช้เวลาฝึกทักษะดีๆ ในแต่ละวัน ขอให้เป็นช่วงเวลาแห่งความสุข อย่าเก็บเรื่องยุ่งๆ มากดดันตัวเอง [17]
    • ไม่ต้องคิดซับซ้อน หรือต้องทำอะไรยิ่งใหญ่ แค่ทำอาหารกินเอง หรือเต้นให้มันไปรอบๆ ห้องนั่งเล่นก็สุดยอดแล้ว
    • ถ้าไม่รู้ว่าตัวเองชอบอะไร จะทำอะไรดี ก็หาอะไรใหม่ๆ ทำเลย! เพราะงานอดิเรกหรือกิจกรรมแปลกใหม่ ช่วยกระตุ้นให้คุณกลับมาตื่นตัว กระฉับกระเฉงได้ เช่น คอซีรีส์ก็ลองเรียนภาษาเกาหลี หรือหัดเล่นเซิร์ฟสเก็ตแบบที่เขากำลังฮิตๆ กัน
    โฆษณา

เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

มีการเข้าถึงหน้านี้ 3,439 ครั้ง

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม

โฆษณา