ดาวน์โหลดบทความ ดาวน์โหลดบทความ

คุณเคยมีไข่ต้มสุกกับไข่ดิบวางรวมกันไว้ในตู้เย็นหรือเปล่าล่ะ? ไม่ต้องกลัวไป มันอาจดูเหมือนกัน แต่คุณก็สามารถบอกได้ว่าไข่ใบไหนดิบ ใบไหนสุกแล้วด้วยการหมุนไข่ดู โดยไข่ต้มสุกจะดูมั่นคง ส่วนไข่ดิบจะดูแกว่งๆ ถ้าไม่ได้ผล ก็ยังมีวิธีดูแบบอื่นที่จะใช้ดูแยกไข่ที่ดิบและไข่ต้มสุกแล้วอยู่อีกนะ

วิธีการ 1
วิธีการ 1 ของ 3:

หมุนไข่

ดาวน์โหลดบทความ
  1. มีพื้นผิวแบบนี้ในครัวคุณมากมายเลยล่ะ คุณสามารถใช้เขียง เคาน์เตอร์ หรือก้นอ่างล้างจานก็ย่อมได้
  2. Watermark wikiHow to ดูว่าไข่ยังดิบหรือต้มสุกแล้ว
    จับไข่ไว้ด้วยนิ้วมือทั้งสี่และนิ้วหัวแม่โป้ง โดยให้มีลักษณะไขว้กันเตรียมจะหมุน แล้วหมุนไข่ด้วยความเร็วทางด้านบนของไข่ โดยมันจะหมุนด้วยความเร็วคงที่
  3. Watermark wikiHow to ดูว่าไข่ยังดิบหรือต้มสุกแล้ว
    ชี้นิ้วชี้เหมือนว่าคุณกำลังชี้อะไรบางอย่างอยู่ แล้วรีบวางนิ้วชี้ลงบนกึ่งกลางของไข่ มันควรหยุดหยุดในทันที จากนั้นรีบถอนนิ้วออกจากไข่ ให้เร็วที่สุดเมื่อไข่หยุดหมุน
    • กดไว้ในแรงพอที่จะทำให้ไข่ที่หมุนอยู่หยุดในทันที มันควรจะหยุดจากการหมุนภายในเวลาประมาณหนึ่งวินาที
  4. Watermark wikiHow to ดูว่าไข่ยังดิบหรือต้มสุกแล้ว
    ขึ้นอยู่กับว่าไข่ของคุณต้มสุกแล้วหรือยังดิบอยู่ มันจะต่างกันตรงนี้นั่นเอง ซึ่งต่างกันอย่างไรให้ดูด้านล่างนี้:
    • ถ้าไข่หยุดหมุนอยู่นิ่ง แปลว่าต้มสุกแล้ว
    • ถ้าไข่ยังคงหมุนต่อช้าๆ หรือแกว่งไปมา แปลว่ามันยังดิบอยู่ นั่นเพราะว่าไข่ขาวและไข่แดงภายในเปลือกไข่ยังหมุนอยู่นั่นเอง จุดศูนย์กลางแรงโน้มถ่วงของไข่จะเปลี่ยนไปเมื่อของเหลวด้านในเคลื่อนไปรอบๆ เป็นสาเหตุทำให้ไข่ยังคงขยับอยู่นั่นเอง [1]
  5. Watermark wikiHow to ดูว่าไข่ยังดิบหรือต้มสุกแล้ว
    สำหรับการทดสอบที่เร็วขึ้น ให้มองทิศทางการเคลื่อนไหวของไข่ตอนที่มันหมุนอยู่. การทดสอบด้านบนจะช่วยบอกให้คุณรู้ว่าไข่ใบนั้นดิบหรือต้มสุกแล้ว อย่างไรก็ตาม คุณก็สามารถรู้ได้ด้วยการสังเกตการหมุนของไข่ โดยไม่ต้องใช้นิ้วหยุดให้ไข่หยุดหมุนเลย ซึ่งจะสะดวกกับคุณมากขึ้น ถ้าคุณต้องทดสอบไข่หลายๆ ใบภายในครั้งเดียว
    • ถ้าไข่หมุนอย่างรวดเร็วและมั่นคง ไข่ใบนั้นย่อมถูกต้มสุกแล้ว จนจุดศูนย์ถ่วงมั่นคงนั่นเอง
    • ถ้าไข่หมุนช้าๆ และแกว่งมาก หรือหมุนไปแบบหยาบๆ แปลว่าไข่ใบนั้นยังสุกอยู่ ของเหลวด้านในที่เคลื่อนไปรอบๆ ขณะที่ไข่หมุนอยู่จะเปลี่ยนความสมดุลไปยังส่วนต่างๆ ของไข่ [2]
    โฆษณา
วิธีการ 2
วิธีการ 2 ของ 3:

วิธีทดสอบอื่นๆ

ดาวน์โหลดบทความ
  1. Watermark wikiHow to ดูว่าไข่ยังดิบหรือต้มสุกแล้ว
    จับไข่ไว้ด้วยปลายนิ้วมือแล้วเขย่าเบาๆ เหมือนเขย่าลูกแซก ให้จับความรู้สึกที่ได้จากการเขย่าไข่ไว้ด้วย
    • ถ้าไข่ต้มสุกแล้ว จะรู้สึกเหมือนเป็นของแข็ง คล้ายหิน
    • ถ้ายังดิบอยู่ ก็จะรู้สึกเหมือนมีของเหลวเคลื่อนไหวอยู่ภายใน และขยับไปมาตามที่คุณเขย่า
  2. Watermark wikiHow to ดูว่าไข่ยังดิบหรือต้มสุกแล้ว
    วางไข่ลงในหม้อหรือชามที่บรรจุน้ำอุณหภูมิร้อนมาก (ยิ่งใกล้จุดเดือดยิ่งดี) แล้วสังเกตฟองอากาศขนาดเล็กที่จะผุดขึ้นบนเปลือกไข่ เมื่อทดสอบเสร็จแล้ว ให้นำไข่ออกให้เร็วที่สุดยกเว้นว่าคุณจะอยากให้ไข่ถูกต้มแหละนะ
    • ถ้าไข่ดิบ คุณจะมองเห็นฟองอากาศเหล่านั้น เปลือกไข่ยังไม่เป็นของแข็งโดยสมบูรณ์ มันจะเต็มไปด้วยรูเล็กๆ เป็นพันๆ รูที่ปล่อยให้ก๊าซผ่านได้ การเพิ่มความร้อนให้ไข่ทำให้ก๊าซด้านในเปลือกไข่ออกมาด้านนอกผ่านรูเหล่านี้ และทำให้เกิดฟองอากาศขึ้น [3]
    • ถ้าไข่ถูกต้มสุกแล้ว คุณคงจะมองไม่เห็นฟองอากาศเหล่านี้ เพราะก๊าซพวกนั้นถูกไล่ออกไปตอนที่นำไปต้มเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
  3. Watermark wikiHow to ดูว่าไข่ยังดิบหรือต้มสุกแล้ว
    รอจนกว่าจะถึงเวลากลางคืน หรือเข้าไปในห้องมืดๆ กับไข่ที่ต้องการทดสอบและไฟฉายที่ส่องไฟได้สว่างๆ เปิดไฟฉายและถือเอาไว้ข้างๆ ไข่ วิธีนี้ได้ผลดีที่สุดกับไฟฉายที่มีขนาดเล็ก เพราะขอบของไฟฉายจะ"ติด"กับเปลือกไข่แน่น
    • ถ้าไข่ส่องสว่างคล้ายกับโคมไฟ นั่นแปลว่ามันดิบอยู่ ของเหลวด้านในปล่อยให้แสงลอดผ่านได้นั่นเอง
    • ถ้าไข่ทึบมืด แปลว่ามันต้มสุกแล้ว ไข่ขาวและไข่แดงที่กลายเป็นของแข็งจะไม่ปล่อยให้แสงผ่านไปได้
    โฆษณา
วิธีการ 3
วิธีการ 3 ของ 3:

ทำสัญลักษณ์บนไข่ต้ม

ดาวน์โหลดบทความ
  1. Watermark wikiHow to ดูว่าไข่ยังดิบหรือต้มสุกแล้ว
    ถ้าคุณทำสัญลักษณ์เอาไว้ขณะที่ต้มไข่ ก็จะได้ไม่ต้องมาทดสอบทีหลังเพื่อแยกไข่ดิบออกจากไข่ต้มสุก วิธีหนึ่งในการทำสัญลักษณ์ง่ายๆ คือการใส่เปลือกหัวหอมที่หลุดออกมาลงในน้ำเดือดกับไข่ ไข่ต้มจะออกมาเป็นสีเบจสวย (สีฝุ่น) ซึ่งทำให้แยกออกจากไข่ดิบได้โดยง่าย [4]
    • ยิ่งใช้เปลือกหัวหอมมากเท่าไร ก็จะยิ่งย้อมสีไข่ให้เห็นชัดขึ้นเท่านั้น ถ้าเป็นไปได้ ให้ใช้เปลือกหัวหอมสัก 12 ลูกเพื่อย้อมสีไข่ให้เข้มสุดๆ ไปเลย
    • ผิวของหอมแดงมีแนวโน้มที่จะย้อมสีไข่ให้เข้มกว่าหอมใหญ่
  2. การใช้สีผสมอาหารหรือชุดอุปกรณ์ย้อมสีไข่อีสเตอร์ทำให้ช่วยแยกไข่ต้มออกได้อย่างง่ายดาย คุณสามารถกำหนดสีสำหรับไข่ได้อีกด้วย อย่างเช่น สีแดงคือต้มสุก สีฟ้าคือยางมะตูม เป็นต้น
    • ถ้าคุณต้มไข่ในหม้อใบเล็ก ก็สามารถหยดสีผสมอาหารลงไปปริมาณเล็กน้อย และน้ำส้มสายชูอีกสองสามช้อนชาลงไปในน้ำต้มโดยตรง หรือว่าจะต้มไข่ก่อน แล้วแช่ไข่ลงในส่วนผสมของน้ำเดือด ½ ถ้วย น้ำส้มสายชู 1 ช้อนชา และสีผสมอาหารอีกสองสามหยด ตามลงทีหลัง ก็ได้
  3. Watermark wikiHow to ดูว่าไข่ยังดิบหรือต้มสุกแล้ว
    วิธีนี้อาจดูไม่สวยงามเท่าไร แต่ก็ไวและง่ายดี เพียงแค่ต้มไข่ตามปกติ แล้วนำออกจากน้ำ ปล่อยให้แห้ง เมื่อไข่แห้งสนิทดีแล้ว ให้ใช้ปากกามาร์คเกอร์หรือดินสอทำสัญลักษณ์ไว้บนเปลือกไข่ อย่างเช่น เขียน "ส" ไว้เพื่อบอกว่า "สุก" ก็ได้
    • ไม่ต้องกังวลไป เพราะอย่างไรก็ต้องแกะเปลือกออกก่อนกินไข่ต้มอยู่แล้ว การเขียนบนเปลือกไข่ไม่ทำให้มันอันตรายจนรับประทานไม่ได้ แม้ว่าคุณจะใช้หมึกก็ตาม
    โฆษณา

เคล็ดลับ

  • ผลของการทดสอบเหล่านี้จะดูง่ายที่สุดเมื่อต้องการสังเกตระหว่างไข่ดิบกับไข่ต้ม ถ้าหากว่าคุณมีไข่ที่รู้อยู่แล้วว่าดิบหรือต้ม จะใช้เพื่ออ้างอิงและตรวจสอบผลลัพธ์อีกครั้งก็ได้
  • เว็บไซต์นี้ มีคำแนะนำภาษาอังกฤษที่ดี ในเรื่องปริมาณสีผสมอาหารที่จำเป็น สำหรับการย้อมสีไข่ที่ต่างกันออกไป [5]
โฆษณา

เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

มีการเข้าถึงหน้านี้ 44,490 ครั้ง

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม

โฆษณา