ดาวน์โหลดบทความ ดาวน์โหลดบทความ

ปกติเมืองไทยก็ร้อนจัดอยู่แล้ว แต่หน้าร้อนก็ยิ่งร้อนไปกันใหญ่ จนบางทีก็ทำให้ตัวบวมได้เลย เพราะร่างกายขับน้ำจากเนื้อเยื่อได้น้อยลง ส่วนใหญ่อาการบวมมักเกิดที่เท้าและข้อเท้า หรือข้อฝืดแข็งร่วมด้วย รวมถึงน้ำหนักตัวเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว วันนี้คุณมาถูกที่แล้ว เพราะบทความวิกิฮาวนี้จะแนะนำวิธีการป้องกันอาการบวมให้คุณเอง

วิธีการ 1
วิธีการ 1 ของ 3:

ปรับชีวิตประจำวัน

ดาวน์โหลดบทความ
  1. ไม่ถึงขั้นต้องออกกำลังกายหนักๆ แรงๆ ทั้งที่ร้อนแทบบ้าก็ได้ แค่ลุกเดินไปมาก็ช่วยป้องกันอาการบวมได้แล้ว เพราะเป็นคาร์ดิโอที่มากพอจะกระตุ้นให้เลือดไหลเวียนดี การที่เลือดไหลเวียนสม่ำเสมอนี่แหละ ที่ช่วยป้องกันไม่ให้คุณตัวบวม เดินวันละ 30 นาทีขึ้นไป จะช่วยป้องกันอาการบวมได้แน่นอน
    • ถ้าปกติชอบออกกำลังกายอยู่แล้ว ก็ทำต่อไป การออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอนี่แหละที่จะช่วยให้สุขภาพร่างกายโดยรวมแข็งแรง
    • ถ้าต้องขลุกอยู่ที่เดียวนานๆ ก็ต้องพยายามลุกเดิน ขยับเขยื้อนเคลื่อนไหวบ้าง อย่านั่งหรือยืนเฉยๆ นานๆ เพราะจะทำให้เท้าบวมได้
  2. อากาศร้อนๆ อย่าพยายามใส่ผ้าคอตตอน เพราะจะกักความชื้น ทำให้รู้สึกร้อนกว่าเดิม พยายามใส่กางเกงแนบเนื้อหรือปลอกแขนกระตุ้นการไหลเวียนของเลือด [1]
    • ให้เลือกเสื้อผ้าที่เขียนว่าใช้เส้นใย Celliant แบรนด์ดังที่นิยมใช้เส้นใยชนิดนี้คือ Reebok, Adidas และ Saucony เป็นเส้นใยที่ช่วยคืนพลังงานที่ปล่อยออกมาจากร่างกาย กลับคืนไปสู่ร่างกายของคุณเอง ช่วยเพิ่มการไหลเวียนของเลือ และระดับออกซิเจนในเลือด [2]
    • ถ้าอยากสวยหรูดูโปร ให้เลือกซื้อ circulation tights หรือกางเกงแนบเนื้อที่ใส่แล้วกระตุ้นการไหลเวียนของเลือด ส่วนหนุ่มๆ ให้ใช้ circulation sleeves หรือปลอกรัดแขน แล้วสวมเสื้อทับได้เลย
  3. พยายามอยู่ในร่มในอาคารให้ได้มากที่สุดในช่วงกลางวัน โดยเฉพาะช่วงบ่าย เพราะเป็นเวลาที่ร้อนที่สุดของวัน บางพื้นที่กระทั่งเย็นค่ำก็ไม่ได้ช่วยคลายร้อนได้เลย ยังไงทำกิจกรรมกลางแจ้งตอนเช้าแทนดีกว่า
    โฆษณา
วิธีการ 2
วิธีการ 2 ของ 3:

เปลี่ยนอาหารการกิน

ดาวน์โหลดบทความ
  1. ถ้าร่างกายได้รับน้ำเพียงพอ ก็จะไม่กักตุนน้ำไว้ พยายามดื่มน้ำให้ได้อย่างน้อย 30 - 50 ออนซ์ (900 - 1,500 มล.) ต่อวัน จะช่วยขับน้ำส่วนเกินจากเซลล์ แต่ถ้าออกกำลังกายด้วย หรือตั้งครรภ์อยู่ ก็ต้องดื่มมากกว่าปริมาณที่ว่ามา [3]
  2. ถ้าใครดื่มคาเฟอีนเยอะๆ ร่างกายจะขาดน้ำจนบวมได้ เพราะงั้นให้พยายามหลีกเลี่ยงการดื่มชาและกาแฟ เปลี่ยนเป็นน้ำเปล่าแช่ผลไม้ดีกว่า ถ้าเบื่อน้ำเปล่ารสจืดชืด
  3. นอกจากดื่มน้ำเยอะๆ แล้ว สำคัญมากว่าต้องกินอาหารที่มีประโยชน์ แค่ปรับเปลี่ยนอาหารการกินนิดๆ หน่อยๆ ก็แก้อาการตัวบวมได้มากเลย
    • เน้นวิตามิน B6, B5 และแคลเซียมเยอะๆ แหล่งที่แนะนำก็เช่น ข้าวกล้อง และผลไม้สด
    • หลีกเลี่ยงอาหารแปรรูป อย่างอาหารแช่แข็งและอาหารกระป๋องก็มีเกลือเยอะ เพราะงั้นให้ซื้ออาหารสดแทน แต่ถ้าจำเป็นต้องกินอาหารแปรรูปจริงๆ ให้เลือกยี่ห้อที่ดีต่อสุขภาพที่สุด
  4. อาหารที่ใส่เกลือน้อยๆ (น้อยกว่า 1 ช้อนชา) ถือว่าดีมาก. เพราะลดอาการบวมเพราะความร้อนได้แน่นอน เกลือนี่แหละตัวทำร่างกายบวมเลย ที่ต้องหลีกเลี่ยงก็มีมันฝรั่งทอดและถั่วอบเกลือ ที่สำคัญคืออย่าเติมเกลือตอนทำอาหาร รวมถึงตอนกินอาหาร
    โฆษณา
วิธีการ 3
วิธีการ 3 ของ 3:

ลดอาการบวม

ดาวน์โหลดบทความ
  1. ถ้าขาบวม ให้นอนหงาย หนุนขาสูงกว่าระดับหัว จะช่วยลดอาการบวมได้ แต่ถ้าบวมหนักขึ้นเรื่อยๆ ให้ลองนอนโดยหนุนขาสูงอย่างที่ว่า
  2. อย่ากดแรงจนเจ็บ ให้ค่อยๆ นวดบริเวณที่บวม และออกแรงสม่ำเสมอ เพื่อลดการสะสมคั่งค้างของน้ำในกล้ามเนื้อ [4]
  3. ถ้าเพิ่งรู้ตัวว่านั่งหรือยืนท่าเดียวนานๆ ตลอดทั้งวัน ให้รีบลุกไปยืดเหยียด แต่ละชั่วโมงต้องยืดเหยียดให้ได้ 2 - 5 นาทีขึ้นไป ท่า ankle pumps (กระดกข้อเท้า), quad stretches (ยืดเหยียดกล้ามเนื้อต้นขาด้านหน้า) และ calf stretches (ยืดเหยียดน่อง) เป็นท่าที่ช่วยกระตุ้นให้เลือดไหลเวียนดีแบบไม่ต้องออกท่าทางมากนัก แค่นั่งทำเงียบๆ ไปเรื่อยๆ ตอนนั่งอยู่ที่โต๊ะทำงาน หรือตอนยืนทำอะไรอยู่ก็ได้ ไม่ผิดแปลกหรือเป็นอุปสรรคต่อกิจวัตรประจำวัน
    • ถ้ารู้สึกว่ามือและนิ้วเต่งๆ บวมๆ ให้เน้นยืดเหยียดไหล่และหลัง
    โฆษณา

คำเตือน

  • ถ้ามีอาการบวมต่อเนื่องไม่ยอมหาย แถมวิธีการที่ว่ามาก็ช่วยไม่ได้ ให้รีบไปหาหมอจะดีกว่า
  • ให้เริ่มวันใหม่ทุกวันโดยดื่มน้ำ 16 ออนซ์ (ประมาณ 500 มล.) ตอนที่ท้องยังว่าง
โฆษณา

เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

มีการเข้าถึงหน้านี้ 5,572 ครั้ง

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม

โฆษณา