ดาวน์โหลดบทความ ดาวน์โหลดบทความ

ถ้าคุณอยากลดน้ำหนักให้ได้ใน 10 วัน" คุณสามารถทำได้ตราบที่คุณมุ่งมั่นทุ่มเทเต็มร้อย คุณอาจมีเวลาแค่ 240 ชั่วโมง แต่ถ้าอดทนและรู้ว่าต้องเน้นตรงไหน คุณจะสามารถลดน้ำหนักได้เร็วและปลอดภัย!

ส่วน 1
ส่วน 1 ของ 4:

วางแผนลดน้ำหนักใน 10 วัน

ดาวน์โหลดบทความ
  1. อยากลดกี่กิโลกรัม? 1.5 กิโลหรือ 5 กิโล? จริงๆ แล้วน้ำหนักที่ลดได้อย่างปลอดภัย คือ 0.5 - 1 กก. ต่ออาทิตย์ แต่ช่วงอาทิตย์แรกคนส่วนใหญ่จะลดได้มากกว่านั้น (บวมน้ำไง) บางคนลดได้น้อยก็มี แต่ต้องให้กำลังใจตัวเองไว้ก่อน เอาเป็นตั้งเป้าว่าจะลดให้ได้กี่โลใน 240 ชั่วโมงข้างหน้าแล้วกัน
    • เช่น อยากลดให้ได้ 2.5 กก. ใน 10 วัน แปลว่าต้องลดให้ได้ประมาณ 1 กก. ในทุก 4 วัน ปกติน้ำหนักครึ่งกก. เท่ากับ 3,500 แคลอรี่ แสดงว่าต้องลดให้ได้ 1,750 แคลอรี่ ทุกวัน ลองคำนวณดูตามน้ำหนักที่ต้องการจะลด
  2. ให้ยึดตัวอย่าง 2.5 กก. ที่ว่า คือจะลด 1,750 แคลอรี่ทุกวัน หรือก็คือลดน้ำหนักให้ได้ 0.25 กก. ต่อวัน ถึงจะเป็นเรื่องยาก แต่เห็นผลแล้วชื่นใจแน่นอน วิธีการก็คือ
    • เข้าเว็บ เช่น Lovefitt หา BMR และแคลอรี่คุณต้องการในแต่ละวัน
    • พอรู้แคลอรี่ที่คุณควรกินในแต่ละวันแล้ว ให้ลบด้วย 1,750 จะเหลือแคลอรี่ที่ต้องกินถ้าอยากลดน้ำหนัก 2.5 กก. ให้ได้ใน 10 วัน แต่ข่าวดีคือยิ่งออกกำลังกาย คุณก็ยิ่งกินได้มากขึ้นเท่านั้น
  3. บันทึกอาหารที่กิน . ไหนๆ ก็จะลดจริงจังแล้ว เพราะงั้นให้คว้าสมุดหรือดาวน์โหลดแอพมาใช้ (เดี๋ยวนี้มีแอพฟรีสำหรับบันทึกอาหารที่กินเยอะแยะไปหมด) พอเห็นชัดๆ ว่าในแต่ละวันคุณกินอะไรเข้าไปบ้าง คุณจะรู้เลยว่าเราพลาดไปตรงไหน แต่ถ้ากินน้อยก็มีหลักฐานให้ภูมิใจไง! เดี๋ยวนี้แต่ละแอพแนวนี้มีอะไรให้เล่นเยอะ รับรองว่าไม่เบื่อแน่นอน
    • ในไดอารี่อาหารนี้ ให้บันทึกแคลอรี่ไว้ติดตามอย่างใกล้ชิดด้วย ถ้ากินเป๊ะๆ ตลอด ก็อาจมี cheat day ได้สักวัน แต่ถ้ากลับกันก็เหนื่อยหน่อยเพราะต้องชดเชย
  4. เลือกออกกำลังกายแบบที่ทำได้ตลอดรอดฝั่งและไม่เป็นภาระระหว่างวัน ลองพิจารณาดูว่าถ้าออกกำลังกายทุกเช้าจะสะดวกกว่าออกหลังเลิกงานหรือเปล่า หรือกลับกันคือคุณตื่นเช้ามาออกกำลังกายไม่ไหว ลองกางตารางงาน/เรียนของคุณในอีก 10 วันข้างหน้า แล้วล็อคเวลาไว้เลย ว่าสะดวกออกกำลังกายช่วงไหนบ้างของแต่ละวัน จากนั้นก็ยึดตามนั้นอย่างเคร่งครัด
    • ออกกำลังกายให้ได้ทุกวัน วันละ 1 ชั่วโมงจะดีมาก แต่ถ้าได้สัก 30 นาทีก็ถือว่าใช้ได้ หรือแตกแยกย่อยจำนวนชั่วโมงที่ว่าออกเป็นหลายช่วงในวันเดียวกันก็ได้! อย่าอ้างว่า "ไม่มีเวลา" 5 นาที 10 นาทีก็ต้องออก ถึงเราจะตั้งเป้าไว้แค่ 10 วัน แต่ขอให้วางแผนออกกำลังกายแบบที่ทำได้ในระยะยาวจะดีที่สุด
  5. พอวางแผนเรียบร้อยแล้ว กำลังใจก็มาเต็ม เหลือแค่เตรียมความพร้อมสู่ความสำเร็จ ฟังดูทำใจยาก แถมเปลืองเงิน แต่ให้คุณเดินเข้าครัวไป เดี๋ยวนี้เลย แล้วกวาดอาหารจานด่วนและของสำเร็จรูปต่างๆ ลงถังให้เกลี้ยง อย่าไปเสียดายถ้าคิดจะจริงจังกับแผนลดน้ำหนักใน 10 วันนี้ นี่คือทางเดียวที่จะกำจัดตัวล่อของคุณไปได้
    • เอาจริงๆ ก็เป็นเรื่องพูดง่ายแต่ทำยาก แถมคนในบ้านที่ไม่ได้มีส่วนได้ส่วนเสียกับคุณอาจมีประท้วง แบบนี้ก็ต้องต่อรอง คือคนที่จะกินก็กินไป แต่ต้องกินและซ่อนอาหารที่ว่าให้พ้นหูพ้นตาคุณ ห้ามใบ้เด็ดขาดว่าอยู่ที่ไหน!
    โฆษณา
ส่วน 2
ส่วน 2 ของ 4:

เปลี่ยนแปลงวิถีชีวิต

ดาวน์โหลดบทความ
  1. มาเข้าประเด็นกันเลย อย่าลืมว่าเรามีแค่ 10 วัน เพราะงั้นต้องกินให้ถูกวิธีแต่แรก คุณอาจถามว่าคนเราก็กินมาตั้งแต่เกิด ต้องมีวิธีกินด้วยเหรอ! แน่นอน ไม่มีแม่ที่ไหนสอนวิธีกินเพื่อลดน้ำหนักให้ลูกหรอก นั่นเป็นเรื่องที่คุณต้องเรียนรู้เองดังต่อไปนี้
    • กินบ่อยๆ ไม่ได้หมายถึงกิน 6 มื้อย่อยๆ ต่อวันเหมือนที่คุณเคยได้ยิน แต่ให้กิน 3 มื้อหลักกับ 2 มื้อรอง (ของว่าง) เวลากินมื้อเล็กๆ 6 มื้อต่อวัน ร่างกายจะสร้างอินซูลินตลอดไม่มีพัก กลายเป็นว่าคุณกินไม่เต็มอิ่มสักที เพราะงั้นเราต้องเสริมด้วยของว่าง สุดท้ายแล้วจะทำให้กิน น้อยกว่า [1]
    • กินช้าๆ . เคี้ยวนานๆ วางส้อมไปเลยจนกว่าจะหมดหนึ่งคำ ถ้ากินเร็วไป สมองจะยังไม่ทันรู้สึกอิ่ม ทั้งๆ ที่ร่างกายประท้วงแล้วว่า "โอ๊ย! อิ่มจะตายอยู่แล้ว! เมื่อไหร่จะหยุดกินสักที?" กินช้าๆ ให้เวลาสมองได้ประมวลผลหน่อย
    • ใช้จานเล็กๆ เพื่อหลอกตาตัวเอง เพราะวางอะไรตรงหน้า สมองจะสั่งให้จัดการให้เรียบ เพราะงั้นถ้าอาหารทั้งหมดอยู่แค่ในจานเล็กๆ ถึงกินจนหมดก็ไม่เป็นไร
    • อย่ากินไปทำอย่างอื่นไป ถ้าเดินไปยืนกินหน้าตู้เย็น สมองจะไม่รับรู้ว่านั่นคือเวลาอาหาร เพราะงั้นให้นั่งลงที่โต๊ะให้เรียบร้อย แล้วกินอย่างมีสติ พิจารณารสสัมผัส กินให้เสร็จ แล้วค่อยรีบเร่งทำภารกิจของคุณต่อไป
    • อาหารสีฟ้า/น้ำเงินไม่ค่อยน่าอร่อย เพราะงั้นให้ใช้จาน (ใบเล็ก) ผ้าปูโต๊ะ กระทั่งใส่เสื้อผ้าสีฟ้า/น้ำเงิน อย่างร้านอาหารก็ไม่ค่อยมีตกแต่งด้วยสีน้ำเงินทั้งร้าน คงเพราะเหตุนี้เอง [2]
  2. มีงานวิจัยไม่นานมานี้ที่ชี้ว่า บางวันกินอาหารแคลอรี่สูงบ้างกลับช่วยให้ลดน้ำหนักได้ มากขึ้น ฟังดูไม่น่าเชื่อเนอะ? แต่เหตุผลก็คือถ้าคุณระเบียบจัดกับร่างกายมากเกินไป ระบบเผาผลาญจะเริ่มเฉื่อยชา แถมร่างกายจะกักเก็บสารอาหารเพราะกลัวอดอยาก ถ้ามี cheat day หรือกินเยอะขึ้นบ้างในบางวัน ให้ร่างกายได้เปลี่ยนบรรยากาศ ผ่อนคลาย จนยอมปล่อยไขมันที่กักเก็บไว้ แล้วกลับมาเผาผลาญดีตามเดิม เพราะงั้นในช่วง 10 วันนี้ ให้กินเยอะขึ้นสัก 1 - 2 วัน
    • การกระตุ้นระบบเผาผลาญแบบหนึ่งก็คือกินแป้งบ้างบางวัน ถ้าขนาดผักยังเลือกที่ไร้คาร์โบไฮเดรต และกินแต่โปรตีน (ซึ่งไม่ใช่คาร์โบไฮเดรตแน่นอน) ก็ควรมีวันที่กินแป้งบ้าง ร่างกายจะเลือกเบิร์นคาร์โบไฮเดรตมากกว่าไขมันหรือโปรตีน เพราะงั้นให้จัดเมนูแป้งบ้าง จะได้กระตุ้นการเผาผลาญ ช่วยลดน้ำหนักได้ดีขึ้น
  3. คลายเครียด . อีกเรื่องที่ควรระวัง คืออย่าเครียดให้มาก ยิ่งเครียด ระดับฮอร์โมนคอร์ติซอลในร่างกายก็ยิ่งสูง ทำให้อยากกินแหลก หลายคนเครียดจัดแล้วก็ซัดหนักตามมาด้วย แถมนอนไม่ค่อยหลับ สมาธิจดจ่อก็น้อยลง เพราะงั้นสบายๆ เข้าไว้! จะดีต่อรอบเอวคุณมากกว่า
    • จะคลายเครียดยังไงดี? ลอง ฝึกสมาธิ หรือเล่นโยคะดู อย่างโยคะก็ช่วยเบิร์นแคลอรี่อีกต่างหาก เหมือนยิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัว หรือง่ายกว่านั้นคือหาเวลามานั่งสงบจิตใจสัก 15 นาทีต่อวัน จะได้ไม่ "เครียดจัด" เรื่องลดความอ้วนจนเกินไป!
  4. นอนหลับพักผ่อน . อันนี้เป็นเรื่องทางวิทยาศาสตร์เลย! ที่ว่าใครนอนเยอะกว่าจะผอมกว่า เหตุผลก็คือพอรู้สึกสบายตัวสบายใจ สุขภาพก็แข็งแรง แถมไม่กินจุกจิกเหมือนคนนอนดึก (จนหิว)! ให้คุณนอน 8 ชั่วโมงขึ้นไป จะรู้สึกดีกว่าแน่นอน
    • เรื่องนี้เกี่ยวข้องกับฮอร์โมน leptin และ ghrelin [3] พอฮอร์โมนพวกนี้ไม่สมดุลย์ ร่างกายจะคิดว่ากำลังหิว ทั้งๆ ที่จริงๆ แค่เหนื่อย ที่แย่ไปกว่าคือตอนง่วงแต่ยังนอนไม่ได้ คุณจะโหยน้ำตาลจนกินขนมเยอะ ขี้เกียจทำอาหารจนพึ่งอาหารจานด่วน และเพลียเกินกว่าจะเข้าฟิตเนส เห็นหรือยังว่ากระทบต่อกันเป็นโดมิโน่ขนาดไหน
  5. ลองคิดดูว่า 10 วันต่อจากนี้ถ้าคุณดื่มแค่น้ำมะนาวกับซอสพริกศรีราชา แน่นอนว่าลดน้ำหนักได้แบบน่าตกใจแน่นอน แต่จะเป็นช่วงเวลาโหดหินสำหรับคุณ แถมพอกลับมากินอาหารตามปกติ น้ำหนักจะพุ่งพรวดคืนมา ถือว่าทำร้ายระบบเผาผลาญมาก ไม่เหมาะอย่างยิ่งที่จะยึดเป็นแนวทางในระยะยาว แต่ถ้าอยากลดน้ำหนักแบบปัจจุบันทันด่วนให้ทันใส่ชุดสวยไปงานละก็...คงต้องแล้วแต่วิจารณญาณของคุณ ถ้าร่างกายรู้สึกผิดปกติเมื่อไหร่ให้หยุดทันที และอย่าฟ้องแม่ล่ะว่าอ่านเจอเรื่องนี้จากเรา
    • ในอีกบทความของวิกิฮาวเรื่อง ลดน้ำหนักให้ได้ผลเร็ว ก็มีพูดเรื่อง fad diet หรือการอดอาหารให้ผอมเร็วๆ เหมือนกัน เช่น ดื่มแต่เมเปิ้ลไซรัป กินแต่กะหล่ำปลี อบซาวน่าทั้งวัน หรือกระทั่งสวนล้างลำไส้ ในนั้นมีบอกหมด (รวมถึงเรื่องที่คุณอาจไม่เคยได้ยินด้วย) แต่ก็ย้ำกันอีกทีว่าอันตรายเหมือนกัน ควรพิจารณาเลือกใช้ตามสภาพร่างกายของตนเอง
    โฆษณา
ส่วน 3
ส่วน 3 ของ 4:

ปรับเปลี่ยนอาหารการกิน

ดาวน์โหลดบทความ
  1. น้ำ นี้แหละ จะช่วยชีวิตคุณ. เป็นเหมือนสิ่งพิเศษที่จะช่วยคุณลดน้ำหนักได้ถึงฝั่งฝัน คุณดื่มน้ำจนอิ่มเมื่อไหร่ ก็ถึงเวลาสวยสั่งได้ ลองอ่านเหตุผลต่อไปนี้ดู แล้วจะรู้ว่าทำไมถึงต้องพกขวดน้ำติดตัว
    • ดื่มน้ำแล้วกินน้อยลง ยิ่งดื่มก็ยิ่งอิ่ม
    • อาหารอื่นก็ยังกินได้ แต่ถ้าดื่มน้ำเยอะขึ้น ก็เท่ากับปิดโอกาสไม่ให้กินจุกจิก
    • น้ำช่วยขับสารพิษในร่างกาย (อึง่ายถ่ายคล่อง)
    • ดื่มน้ำเยอะๆ ผมสวยผิวพรรณดี
    • กล้ามเนื้อและอวัยวะต่างๆ จะแข็งแรงเพราะได้รับน้ำเพียงพอ
  2. เป็นเหมือนไฟเขียวให้คุณพุ่งไปสู่ความผอม ถ้าอยากลดน้ำหนักให้ได้เร็วๆ ง่ายที่สุดคือกินผักให้เยอะๆ ไม่ว่าผักชนิดไหนก็ "ดี" ต่อร่างกายทั้งนั้น บางชนิดก็ยิ่งมีประโยชน์กว่าผักอื่น ส่วนใหญ่จะเป็นผักใบเขียวนี่แหละ เป็นอาหารจำพวก "ประโยชน์เยอะแคลอรี่น้อย" แถมกินแล้วอิ่มเร็วอิ่มนาน ได้ทั้งวิตามินและแร่ธาตุ
    • พวกผักใบเขียวนี่แหละดีมีประโยชน์ ตั้งแต่ผักเคล swiss chard บร็อคโคลี่ ปวยเล้ง กะหล่ำปลี ผักกาดหอม ไปจนถึงกะหล่ำดาวเลย! กินเยอะแค่ไหนก็ยังเหลือแคลอรี่สำหรับกินอาหารอื่นอยู่ดี
  3. ปกติสัญญาณหยุดมักสีแดง แต่อันนี้ขาวเต็มๆ อาหารไหนสีขาว มักเป็นคาร์โบไฮเดรตขัดสีหรือแปรรูป จะไม่เหลือไฟเบอร์หรือกากใยให้คุณ แถมไม่ค่อยมีสารอาหารที่จำเป็น [4] เพราะงั้นให้เพลาๆ ข้าวขาว ขนมปังขาว กระทั่งมันฝรั่งขาวๆ แป้งๆ หรืองดไปเลยระหว่าง 10 วันนี้
    • แต่อย่าตัดอาหารที่เป็นคาร์โบไฮเดรตไปเลยนะ คุณยังมีแหล่งคาร์โบไฮเดรตอื่น อย่างผักและธัญพืชโฮลเกรน ซึ่งมีประโยชน์น่าดู พวกนี้เป็นคาร์โบไฮเดรต เชิงซ้อน ไม่ขัดสี ที่น่าเป็นห่วงคือของหวานกับอาหารแปรรูปนี่แหละ
      • คุณคงเคยได้ยินวิธีไดเอทแบบ Atkins (งดแป้ง) ถ้าใช้แค่ 10 วันก็น่าจะเห็นผลอยู่ ก็คล้ายๆ กับ fad diet นั่นแหละ ใน 10 วันนี้ผอมทันตาเห็นแน่นอน แต่ถ้ากลับไปกินอาหารตามปกติเมื่อไหร่ ก็เตรียมใจรับกรรมได้เลย สรุปแล้วอยากลองก็จัดไป แต่บอกเลยว่ามีผลเสียระยะยาวแน่นอน
  4. แต่ละมื้อขอให้มีโปรตีนอย่างน้อย 10% ถ้าอยากลดน้ำหนักให้ได้ผล ก็ต้องกินเยอะ ยิ่งกว่านั้น โปรตีนช่วยเสริมสร้างกล้ามเนื้อแถมอิ่มนาน สองอย่างที่จะทำให้ผอมได้ดังใจ เพราะงั้นให้เน้นกินปลา เนื้อขาว อาหารเมนูถั่วเหลือง และถั่วอื่นๆ
    • เดี๋ยวนี้คนนิยมกินโปรตีนกันมากถึง 30% ด้วยซ้ำ เพราะมีงานวิจัยที่ชี้ว่าการกินอาหารโปรตีนสูง ควบคู่ไปกับการออกกำลังกาย จะช่วยลดไขมันในเลือดได้ แถมโปรตีนยังช่วยปรับอินซูลินให้ได้สมดุลย์ คุณจะไม่โหยเหมือนเคย [5] เรียกว่ามีแต่ได้แต่ดี
  5. ร่างกายก็ต้องการไขมัน แต่ต้องเป็นไขมันดีนะ! ห้ามงดไขมันไปเลยเด็ดขาด แค่เลือกกินแต่ไขมัน ดี หรือก็คือไขมันที่ ไม่อิ่มตัว พวกนี้พบมากในอะโวคาโด น้ำมันมะกอก ถั่วต่างๆ ปลาที่มีไขมันสูง เช่น ปลาแซลมอนและปลาเทราต์ ไปจนถึงผลิตภัณฑ์นมพร่องมันเนย จริงๆ แล้วพอกินไขมันดี (แบบพอประมาณ) ก็ช่วย ลด คอเลสเตอรอลได้ แถมเสี่ยงเป็นโรคหัวใจน้อยลง [6]
    • อย่างน้อย 10% ของอาหารในแต่ละวัน ควรมาจากไขมัน ประมาณ 25% นี่แหละกำลังดี อย่าให้ไขมันอิ่มตัวเกิน 7% หรือก็คือเพลาๆ เนื้อแดง ผลิตภัณฑ์นมไขมันสูง ไข่ ไปจนถึงเนื้อไก่ติดหนัง
      • ไข่จริงๆ แล้วก็เป็น แหล่งโปรตีน ชั้นดี แต่กินแค่วันละ 1 ฟองก็พอ อะโวคาโดก็เหมือนกัน เพราะอย่างหลังอุดมไขมันกว่าโปรตีน [7] กินได้แต่ต้องควบคุมปริมาณ!
  6. นอกจากโซเดียมจะทำหลอดเลือดคุณตีบตันจนความดันสูงแล้ว ยังกักเก็บน้ำในร่างกายจนคุณบวมน้ำ เอวเป็นห่วงยางด้วย [8] เพราะงั้นถ้าไม่เห็นแก่สุขภาพหัวใจ ก็คิดถึงกางเกงไซส์ยักษ์ไว้แล้วกัน!
    • เกลือ 1 ช้อนชามีโซเดียม 2,300 มก. แต่จริงๆ แล้วเราต้องการแค่ 200 มก. ต่อวันเท่านั้น แต่แทบจะทำจริงไม่ได้เลย เพราะงั้นปริมาณที่แนะนำเลยอยู่ที่ 1,500 มก. ต่อวัน ห้ามเกิน 2,300 มก. เด็ดขาด! [9]
  7. อันนี้ไม่เน้นวิทยาศาสตร์ แต่เน้นจิตวิทยา ว่าคนเราชอบกินอาหารขยะ (หรืออะไรก็ตามที่ขวางหน้า) ตอนกลางคืน เพราะงั้นต้องตัดไฟแต่ต้นลม โดยปฏิญาณว่าจะไม่เลี้ยวเข้าครัวหลัง 2 ทุ่ม ถ้าโหยกลางดึกเมื่อไหร่ ให้ตัดใจคว้าน้ำมาดื่มให้ชื่นใจ แน่นอนว่าทำยาก แต่คุ้มค่าแน่นอน
    • ข้อนี่แหละทำได้ยากสุด ลองคิดดูว่าออกเที่ยวรอบดึกกับเพื่อน เขานั่งดื่มนั่งโซ้ยกัน แต่เราได้แต่นั่งเม้าท์แล้วมองตาเป็นมัน เพราะงั้นต้องตัดสินใจว่า จะไป ก็ต่อเมื่อแข็งใจได้เท่านั้น แค่ 10 วันเอง อดทนหน่อย เดี๋ยวก็หุ่นดีสมใจแล้ว
    โฆษณา
ส่วน 4
ส่วน 4 ของ 4:

ออกกำลังกายตามแผน

ดาวน์โหลดบทความ
  1. เพราะคาร์ดิโอแล้วช่วยเบิร์นแคลอรี่เร็วกว่ายกเวท แต่ ถ้าออกทั้ง 2 อย่าง ก็เท่ากับ เบิร์น 2 เท่า ไม่มีอะไรจะดีกับร่างกายไปกว่าการบริหารกล้ามเนื้อกลุ่มต่างๆ วนไป ซึ่งคาร์ดิโอกับเวทนี่แหละคำตอบของคุณ เล่นมันทั้ง 2 แบบเลย!
    • ภายใน 10 วันนี้ ขอให้คาร์ดิโอทุกวัน แล้วเล่นเวทแค่วันเว้นวัน ถ้าอยากยกเวทเพิ่มต้องเปลี่ยนกลุ่มกล้ามเนื้อที่บริหาร อย่าลืมว่าร่างกายต้องการเวลาซ่อมแซมตัวเองหลังออกกำลังกายด้วย
  2. ไปฟิตเนสทุกวันแน่นอนว่าเห็นผลทันตา แต่มีน้อยคนที่ทำได้ตามนั้น ถ้าทำไม่ได้ แต่ก็ยังอยากออกกำลังกายเต็มที่ในช่วง 10 วันที่ว่า ต้องใช้เวลาว่างระหว่างวันให้เป็นประโยชน์ ไม่ว่าจะเล็กน้อยแค่ไหนก็ตาม ขยับแค่ปลายเท้าหรือปลายนิ้วก็ยังดีกว่าอยู่เฉยๆ นะ! [10]
    • ที่ว่า "เวลาว่างเล็กๆ น้อยๆ" ก็ต้องออกกำลังกาย ก็เช่น โยกย้ายไปมาระหว่างล้างจาน เล่นโยคะตอนดูซีรีส์ แพลงก์ตอนโฆษณา ทำความสะอาดห้องแทนนั่งติดจอเฝ้า Facebook ถูพื้น ล้างรถเองกับมือ เดินขึ้นบันไดแทนลิฟท์ จอดรถไกลๆ แล้วเดินเอา....นี่แค่ตัวอย่างนิดหน่อยนะ
  3. คาร์ดิโอก็ดี แต่วิทยาการสมัยนี้เขาชี้ว่า interval training หรือ HIIT นั้นดียิ่งกว่า ที่สำคัญคือจบเร็วกว่า เลยสะดวกที่จะทำ! ถ้าปกติคุณวิ่งจ็อกกิ้ง 30 นาที ให้เปลี่ยนไปวิ่งเร็วสุดฝีเท้า 30 วินาที สลับกับเดินชิลล์ 15 - 20 วินาที ไหงงั้น? เพราะอย่างหลังเบิร์นแคลอรี่ได้ เยอะกว่า แถมหัวใจเต้นรัว แม้จะหยุดออกกำลังกายไปแล้ว ก็ยังเบิร์นต่อ! [11]
    • จริงๆ แล้วจะออกที่ไหนก็ได้ ไม่จำเป็นต้องวิ่งลู่อย่างเดียว ขอแค่ออกกำลังกายเร็วแรง สลับกับออกเบาๆ ช้าๆ ก็พอ
    • ยังติดใจสงสัยเรื่องหยุดออกแล้วก็ยังเบิร์นต่อใช่ไหม? นั่นคือ excess post-exercise oxygen consumption (EPOC) หมายถึงเวลาคุณออกกำลังกายหนักจนร่างกายตามไม่ทัน ต้องใช้เวลาเป็นวันกว่าจะสร้างออกซิเจนทดแทน ทำให้เผาผลาญแคลอรี่ได้ แม้ตอน อยู่เฉยๆ
  4. ออกท่าเดิมซ้ำๆ ก็ทำเอาเบื่อได้ในไม่นาน ทั้งคุณเองเบื่อ และกลุ่มกล้ามเนื้อนั้นๆ ก็เหนื่อย แบบนี้จะทำให้ตัน เบิร์นแคลอรี่ได้น้อยลง เหมือนทำไปก็ไม่ได้อะไรขึ้นมา เพราะงั้นจะรออะไร รีบเปลี่ยนวิธีออกกำลังกายเร็ว! อาจเพิ่มลดเวลา หรือความหนักเบา ไม่ก็เปลี่ยนกิจกรรมไปซะเลย จะทำให้ทั้งร่างกายและจิตใจกระปรี้กระเปร่าขึ้นเยอะ
    • เลือกกิจกรรมมันส์ๆ สนุกๆ จะได้มีไฟ แทนที่จะเล่นเครื่องในฟิตเนส ก็อาจเปลี่ยนไปต่อยมวยแทน หรือว่ายน้ำ ไม่ก็เดินขึ้นเนิน อีกแนวคือชวนเพื่อนไปเล่นบาส ตีเทนนิส หรือเล่นวอลเล่ย์ นอกจากเบิร์นแคลอรี่แล้วยังสนุกจนลืมเวลา
    • โยคะร้อนก็แปลกดี ไม่จำเจ แถมช่วยขับโซเดียมส่วนเกินจากระบบ ทำให้คุณไม่บวมน้ำ แต่ต้องดื่มน้ำชดเชยเยอะๆ นะ จะน้ำเปล่าหรือชาเขียวก็ได้
  5. ถามนักเพาะกาย ก็คงบอกให้คุณเล่นเวท ก่อน แล้วค่อยคาร์ดิโอ ส่วนผู้เชี่ยวชาญด้านไดเอท จะแนะนำให้คาร์ดิโอแต่แรก พอเจอคนอื่นก็แนะนำให้คาร์ดิโอแต่เช้าตอนท้องว่างแทน แต่สุดท้ายแล้วคุณนั่นแหละรู้ดีสุด ว่าแบบไหนที่ "ใช่" สำหรับร่างกายคุณ ช่วงไหนคาร์ดิโอได้ยาวๆ แรงดีสุดๆ ตอนไหนอยากเล่นเวท จะกลางดึกหรือหลังอาหาร ก็แล้วแต่คุณเลย ได้หมดถ้าสดชื่น
    • ลองดูหลายๆ แบบ! คุณอาจจะเกลียดการวิ่งเพราะเคยวิ่งแต่หลังเลิกงานตอนเหนื่อยๆ ถ้าสลับมาวิ่งตอนเช้าอาจถูกใจกว่าก็ได้ ดีไม่ดีจะสดชื่นยาวไปทั้งวัน เพราะงั้นลองสลับสับเปลี่ยนดูเลยใน 10 วันนี้ สุดท้ายคงเจอแนวทางการออกกำลังกายที่ใช่ในระยะยาว
    โฆษณา

เคล็ดลับ

  • เตรียมของว่างไว้ตั้งแต่คืนก่อนหน้า โดยเฉพาะสำหรับพกไปกินที่ทำงาน จะได้ควบคุมปริมาณ ไม่กินเพลินเกินพิกัดจนปวดท้อง
  • ต้องเริ่มจากการเตรียมใจ อย่าถอดใจง่ายๆ เว้นแต่มีปัญหาเรื่องสุขภาพ
  • ถ้าใครมานินทาหรือตราหน้าว่าคุณอ้วน (หรืออะไรที่ใกล้เคียง) อย่าเก็บไปใส่ใจ ยิ่งคุณตอบโต้ เขาก็ยิ่งได้ใจ
  • อย่าอยู่ๆ เลิกควบคุมอาหารหรือหยุดออกกำลังกายกลางคัน เพราะน้ำหนักอาจตีกลับได้
โฆษณา

คำเตือน

  • ถ้าอดอาหาร ร่างกายจะหยุดเผาผลาญ เข้าสู่ภาวะจำศีล ทีนี้พอกลับมากินอีกเมื่อไหร่ น้ำหนักจะพุ่งพรวด ระวังไว้ให้ดี
โฆษณา

บทความวิกิฮาวอื่น ๆ ที่่เกี่ยวข้อง

ลดน้ำหนัก 20 กิโลกรัมภายใน 2 เดือน
ผอมด้วยวิธีธรรมชาติ
จดไดอารี่อาหาร
ยับยั้งอาการอยากของหวาน
รับประทานอาหารแบบแบรทไดเอท (BRAT Diet)
คำนวณแคลอรี่จากโปรตีน
ลดน้ำหนัก 5 กิโลกรัมภายใน 1 เดือน
เก็บกล้วยไม่ให้สุกเร็วเกินไป
ลดน้ำหนักใน 1 อาทิตย์
ลดน้ำหนัก 7 กิโลกรัมใน 2 สัปดาห์
เผาผลาญไขมันและมีสุขภาพดี
รักษาหุ่นโดยที่ยังดื่มแอลกอฮอล์ได้
วิธีทานอาหารเสริมจากส้มแขก: ความเสี่ยง, คุณประโยชน์ และข้อมูลด้านความปลอดภัย
ทำให้หน้าท้องแบนเรียบในหนึ่งสัปดาห์
โฆษณา

เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

มีการเข้าถึงหน้านี้ 15,069 ครั้ง

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม

โฆษณา