ดาวน์โหลดบทความ ดาวน์โหลดบทความ

นักเขียนชื่อดังอย่าง J.K. Rowling เคยพูดถึงชีวิตตัวเองในยามลำบากไว้ว่า "Rock bottom became the solid foundation on which I built my life." เราขอแปลเป็นไทยง่ายๆ ว่า "ถ้าชีวิตมัน ตก จนสุด ก็คงไม่มีอะไรเลวร้ายไปกว่านี้ ต่อไปจะมีแต่ ขึ้น เท่านั้น" บางทีคนเราก็ต้องตกให้เจ็บซะบ้าง ถึงจะตาสว่างฮึดสู้ใหม่อีกครั้ง ถ้าคุณอยากเริ่มต้นชีวิตใหม่เมื่อหลังชนฝา ก็ต้องเปลี่ยนแปลงและพัฒนาตัวเอง เช่น มีรายได้มั่นคง แก้นิสัยเสีย หรือเลิกรอโอกาสแล้วลุกมาลงมือทำ แต่ก่อนจะเริ่มใหม่ได้นั้น ต้องเตรียมร่างกายและจิตใจให้แข็งแรง

วิธีการ 1
วิธีการ 1 ของ 4:

ดูแลตัวเองเบื้องต้น

ดาวน์โหลดบทความ
  1. ปวดใจก็ต้องร้องไห้หรือคร่ำครวญเป็นธรรมดา เป็นเหมือนการปิดฉากความทุกข์เพื่อเริ่มต้นชีวิตใหม่อย่างไฉไลกว่าเดิม อย่าเก็บกดไว้ข้างใน เพราะไม่ดีต่อทั้งร่างกายและจิตใจ ให้เปลี่ยนอดีตเป็น พลัง ผลักดันตัวเองไปในทิศทางใหม่ ถ้าไม่ชอบตัวเองที่เป็นอยู่แล้วต้องทำยังไง? จะอะไรนอกจากลุกขึ้นมาเปลี่ยนแปลง เพราะงั้นร้องหรือบ่นไปเลย ชีวิตก็ไม่ยุติธรรมแบบนี้แหละ
    • เปิดอกพูดคุย เหมือนที่คนลดน้ำหนักควรมี buddy หรือคู่หูไว้คอยแนะนำ หรืออย่างน้อยก็ปรับทุกข์กัน คุณเองก็ควรมีเพื่อนคู่ใจไว้ปรับทุกข์และช่วยเหลือกัน ถึงจะมีเพื่อนแค่คนเดียว ก็ดีกว่าอยู่ลำพัง
  2. ก่อนออกเดินทางครั้งใหม่ ควรหยุดพักเติมพลังซะก่อน บางคนอาจพักสั้นๆ แค่คว้าช็อคโกแลตมานั่งกินคนเดียวหมดแท่งก็ได้ อะไรก็ได้ที่จะเป็นเสบียง เป็นเชื้อเพลิงพาคุณไปถึงฝั่งฝันใหม่ คราวนี้ต้องไปให้สุด
    • ถ้าคุณมีหน้าที่การงาน อาจจะขอลาพักร้อน ไม่ต้องไปนาน อย่าถึงขั้นหายหน้าไปจนได้ซองขาว แค่หนีไปสำรวจความคิดและตั้งสติสัก 1 - 2 วัน ขอให้เป็นเวลาของคุณจริงๆ
  3. มีรายได้มั่นคง . คนเรามีความต้องการหลากหลายที่ต้องคอยตอบสนอง แต่คนส่วนใหญ่ก็ไม่พ้นมีเงินใช้ไม่ขาดมือ จะกินอิ่มนอนหลับได้ก็ต้องใช้เงิน ไม่ต้องถึงขั้นเป็นเศรษฐีก็ได้ ขอแค่อยู่ดีมีสุขไม่ลำบากกายใจ
    • ต้องตั้งเป้าให้ชัดเจน ถ้าตอนนี้ตกงานอยู่ก็ต้องรีบหางานโดยด่วน หาแบบจริงจังให้ได้ 40 ชั่วโมงต่ออาทิตย์ สมัยนี้งานก็ใช่ว่าจะหาง่าย แต่สุดท้ายต้องมีสักตำแหน่งแน่นอน ขอให้มุ่งหน้าไปอย่าถอยกลับ งานดีๆ รอคุณอยู่
  4. ถ้าเรียนไม่จบม.ปลาย ยิ่งต้องขวนขวายเรียนต่อจนจบ อย่างน้อยก็ต้องได้วุฒิม.6 มาครอบครอง ลองค้นในเน็ตหาการศึกษานอกโรงเรียนดู หรือสอบถามที่สถาบันใกล้บ้าน เดี๋ยวนี้ก็มีทุนช่วยเหลือเยอะแยะไป ไม่สิ้นหนทางแน่นอน
    • ถ้าเคยเรียนมหาวิทยาลัยแต่ไม่จบ ก็พยายามกลับไปเรียนต่อจนได้ปริญญา เพื่อเพิ่มโอกาสการได้งานดีๆ แถมเป็นที่ภูมิใจของตัวเองและครอบครัว เอาจริงๆ คำว่าชีวิตตกต่ำนั้นอยู่ที่ใจ คนจนที่สุขกว่าคนรวยล้นฟ้าก็มีถมไป บางทีพอเรียนจบแล้ว คุณอาจมองโลกต่างไปก็ได้
  5. ถ้าติด บุหรี่ , เหล้า หรือสารเสพติดอื่นๆ ต้องเลิกให้เด็ดขาด เริ่มจากวินาทีนี้เลย เพราะพวกนี้เป็นเหมือนตัวถ่วง ถ้าอยากก้าวไปข้างหน้า ก็ต้องเปลี่ยนตัวเอง
    • คิดให้เห็นภาพว่าอยากเป็นคนแบบไหน เป็นคนที่ต้องพึ่งพาใครหรืออะไรอยู่ตลอดหรือเปล่า? จะเปลี่ยนตัวเองทั้งที เอาให้พลิกฝ่ามือกันไปเลย คุณ เท่านั้น ที่ช่วยชีวิตตัวเองได้ ถ้าเลิกพฤติกรรมทำร้ายตัวเองไม่ได้ ก็คงต้องงมโข่งอยู่ตรงนี้แหละ
  6. ถ้าอยากหลุดพ้นจากสถานการณ์ที่เป็นอยู่ และเริ่มต้นชีวิตใหม่แบบขาวสะอาด ก็ต้องปรับเปลี่ยนวิธีคิดและมองโลก ก่อนจะเปลี่ยนแปลงการแต่งตัวหรือคบคนใหม่ๆ ต้องเริ่มจากมั่นใจ มองโลกให้สวยขึ้น เลิกคิดวนว่า "ทำไม่ได้", "ถ้าเกิดมัน...ล่ะ?" หรือ "ก็คงงั้น" ต่อไปให้มีแต่พุ่งชน อย่ารอโอกาสมาหา ต้องออกไปคว้าด้วยตัวเอง
    • แค่เปลี่ยนความคิด ชีวิตก็เปลี่ยน เคยได้ยินไหมว่าคนเรามีตัวตนได้ ก็เพราะรู้จักขบคิด แสดงความคิดเห็นนี่แหละ เรื่องแบบนี้จริงๆ ก็แนะนำกันไม่ได้ แต่บทความนี้จะช่วยให้คุณเปลี่ยนตัวเองได้ง่ายขึ้น เริ่มจากคิดบวกและมั่นใจเข้าไว้ แล้วอย่างอื่นจะง่ายขึ้นเอง
  7. คุณจะรูปร่างหน้าตาแบบไหน? แต่งหน้าแต่งตัวยังไง? คบคนแบบไหน? อยู่ที่ไหนยังไง? กระทั่งขับรถอะไร? ลองใช้เวลาสัก 15 นาที หลับตาแล้วจินตนาการชีวิตในแบบที่ต้องการ รวมถึงความรู้สึกถ้าได้ชีวิตที่ว่ามาครอบครอง เมื่อภาพและความรู้สึกชัดเจนแล้วขอให้จดจำไว้ แล้วย้ำกับตัวเองว่านั่นแหละเรา
    • ต้องเห็นเส้นชัย ถึงจะวางแผนได้ว่าจะไปที่ไหนและด้วยวิธีใด ความสำเร็จของคุณคืออะไร? แล้วเป้าหมายที่ตั้งไว้ล่ะ? เขียนออกมาให้ชัดเจน ไม่มีใครเป็นยอดมนุษย์ ท้อได้เหนื่อยได้ การมีเป้าหมายชัดเจนจะช่วยกระตุ้นเตือนคุณให้ก้าวต่อไป
    โฆษณา
วิธีการ 2
วิธีการ 2 ของ 4:

ฟื้นฟูร่างกาย

ดาวน์โหลดบทความ
  1. อาบน้ำ . อาจจะฟังดูไร้สาระ แต่บอกเลยว่าอาบน้ำให้สบายช่วยชำระล้างได้ถึงจิตใจ อยากเริ่มต้นวันใหม่อย่างสดใส ร่างกายก็ต้องสดชื่น ถ้าตัวเหนียวเหนอะหนะจะทำอะไรก็เซ็ง
    • อย่างที่บอกไปก่อนหน้า ว่า "ชีวิตตกต่ำ" นั้นคุณรู้สึกของคุณคนเดียว เพราะงั้นก็ต้องเปลี่ยนแปลงด้วยตัวเอง การอาบน้ำมีดีตรงที่ช่วยให้ผ่อนคลาย หายกังวล เป็นเหมือนการผัดเปลี่ยนจากชุดเดิมๆ คนเดิมๆ ให้พร้อมเริ่มต้นใหม่ ไม่ได้เป็นแค่การทำความสะอาด แต่เป็นเหมือนการเตรียมตัว
  2. อย่าเพิ่งโวยวาย ว่าใครหน้าไหนชีวิตเฟลแล้วยังมีแรงกายแรงใจมาออกกำลังกายอีก บอกเลยว่าใจเย็นๆ แล้วลองมองมุมใหม่ ให้คิดย้อนกลับแทน สังเกตไหมว่าพวกคนดังหรือคนที่เขาประสบความสำเร็จส่วนใหญ่เขาออกกำลังกาย (อย่างน้อยก็โชว์ใน IG) กันทั้งนั้น เขาออกกำลังกายแล้วประสบความสำเร็จ หรือเพราะประสบความสำเร็จแล้วถึงได้ออกกำลังกาย? ประมาณว่าไข่หรือไก่อะไรเกิดก่อนกันไง
    • พอใจทุกข์ ร่างกายก็เสื่อมโทรมตาม เศร้าแล้วเอาแต่นอนทั้งวัน พอเห็นแสงตะวันก็กลับไปนอนต่อซะงั้น ที่เลวร้ายกว่าคือเป็นเหมือนวงจรอุบาทว์ที่ยากจะหลุดพ้น เศร้าแล้วสุขภาพเสีย สุขภาพเสียแล้วก็ยิ่งเศร้า แต่ถ้าลุกมาออกกำลังกาย ร่างกายสดชื่นจะดึงจิตตกให้กลับมาสดใสตามเดิม คุณจะรู้สึกดีขึ้น รูปร่างหน้าตาดีตาม ประมาณว่าออกกำลังกาย เปลี่ยนชีวิต พอร่างกายและจิตใจแข็งแรงก็พร้อมสู้ทุกปัญหา
  3. กินอาหารที่ดีต่อสุขภาพ . เศร้าไปเศร้ามา รู้ตัวอีกทีก็กินแต่ข้าวกล่องหน้าทีวี ไม่รวมของหวาน ขนมขบเคี้ยว และของมึนเมาอื่นๆ แถมพอกินแหลกจนฉุก็ยิ่งรู้สึกผิด เซ็งจนหาอะไรมายัดปากวนไป ดีที่สุดที่ทำได้ก็คือนอนรอให้หายท้องอืด แล้วแบบนี้เมื่อไหร่ชีวิตจะเปลี่ยนแปลง
    • อาหารที่ดีต้องกินแล้วสดชื่นแข็งแรง ไม่ใช่อิ่มอืดจนกองอยู่ตรงนั้น เวลาคุณกินอาหารดีมีประโยชน์ ร่างกายและจิตใจจะแข็งแรงกระปรี้กระเปร่า พอเห็นภาพแล้วใช่ไหม? ชีวิตจะดีขึ้นได้ ถ้าตัวเอง รู้สึกดีพอ จะลุกไปทำอะไร (ไม่ใช่ว่า ดีพอ สำหรับใคร) อาหารดีมีประโยชน์นี่แหละที่จะปรับความคิดและจิตใจให้คุณพร้อมเริ่มต้นชีวิตใหม่
  4. เราไม่ได้สนับสนุนให้บ้าแฟชั่นหรือมองแต่รูปกายภายนอก แต่ถ้ารูปร่างหน้าตาดี ก็มักทำคุณรู้สึกดีตามไปด้วย เพราะงั้นหลังอาบน้ำ (และออกกำลังกาย) เสร็จ ให้แต่งตัวสวยๆ แล้วออกไปพบปะผู้คน ให้รางวัลตัวเองหน่อย
    • พอภูมิใจในรูปร่างหน้าตาของตัวเอง ก็จะเกิดความมั่นใจและคิดบวกตามมา คนก็จะมองและปฏิบัติต่อคุณต่างออกไป (ฟังดูกลวงๆ แต่นี่แหละความจริง) เคยได้ยินไหม "สวยแล้วจะทำอะไรก็ได้" จริงๆ มันเป็นเรื่องทางจิตวิทยา ถ้าคุณดูดีสมใจ ก็จะใจดีกับตัวเองขึ้น คนมีความสุขใครก็อยากอยู่ใกล้
    โฆษณา
วิธีการ 3
วิธีการ 3 ของ 4:

เยียวยาจิตใจ

ดาวน์โหลดบทความ
  1. เลิกคิดลบ . ตั้งแต่วินาทีนี้เลย! จริงๆ แล้วคุณรู้แหละว่าต้องทำยังไง เลิกคิดว่า "เรามันไอ้ห่วย ทำอะไรไม่เคยขึ้น จะเหนื่อยพยายามไปทำไม?" แล้วเปลี่ยนมาคิดสร้างสรรค์อะไรที่มันมีประโยชน์ดีกว่า เพราะทั้งหมดทั้งมวลนั้น ไม่ใช่ความจริง คุณกำลังล้างสมองตัวเอง ถึงเวลาเปิดตามองความจริงแล้ว
    • ถ้าจับได้ไล่ทันเมื่อไหร่ ว่าตัวเองกำลังคิดลบ ให้หยุดทันที หรือเถียงกลับไป เช่น เผลอด่าตัวเองว่า "ไอ้ห่วย" ก็เปลี่ยนเป็น "วันนี้เป็นไอ้ห่วย เดี๋ยวพรุ่งนี้จะเป็นไอ้รวยให้ดู" ไม่มีใครดีหรือร้ายตลอดศก อย่างที่เขาว่า "เดี๋ยวมันก็ผ่านไป"
  2. ถ้าเศร้าแล้วเอาแต่นอนสลับกับดูซีรีส์ แล้วเมื่อไหร่ชีวิตจะดี๊ดี ถ้าอยากไปให้พ้นจากสถานการณ์ที่เป็นอยู่ ก็ต้องลองทำอะไรที่ตอนแรกอาจไม่ค่อยถูกใจ และลองย้อนกลับไปดูชีวิตก่อนพลิกผันของตัวเองดู ถ้าเคยชอบเล่นดนตรี ให้ลองกลับไปฝึกซ้อมตามเดิม หรือถ้าเคยทำอาหารกินเองประจำ ก็กลับไปทำซะ คุณอาจประท้วงว่าแค่นี้ก็เหนื่อยใจจะแย่ แต่การกลับไปสู่สิ่งที่เคยสร้างความสุข อาจนำพาความสุขครั้งใหม่มาให้คุณก็ได้
    • นอกจากย้อนกลับไปทำกิจกรรมเก่า (ที่ดีๆ) ลองทำกิจกรรมใหม่ควบคู่ไปด้วยสิ! เช่น บริหารทั้งสมองและร่างกาย จะได้หลุดจากชีวิตวนและความคิดซ้ำซากไม่สร้างสรรค์ อาจมองหากิจกรรมใหม่ๆ ในสถานศึกษาหรือที่ทำงาน หรือตามเพื่อนไปทำอะไรที่เขาชอบ สรุปคือใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ จะได้ดึงความสนใจไปจากความทุกข์
  3. ความขี้เกียจไม่เข้าใครออกใคร ยิ่งเศร้าก็ทำให้ยิ่งเหนื่อยเนือย กว่าจะลุกจากเตียงก็ตอนที่ต้องเข้าห้องน้ำ แบบนี้เราถึงต้องมี to-do list เป็นตัวช่วย ให้เขียนทุกอย่างที่ต้องทำให้เสร็จในวันนั้นลงไป ไม่ว่าเล็กน้อยแค่ไหนก็ตาม แต่ to-do list ก็ไม่ถึงกับเปลี่ยนชีวิตคุณได้มหัศจรรย์ แค่กดดันให้คุณต้องเด้งตัวตื่นมาทำตามสัญญา (กับตัวเอง) ให้ได้เท่านั้น
    • อันนี้ก็แล้วแต่ช่วงชีวิตของคุณ สิ่งที่ต้องทำอาจเป็น "ยื่นใบสมัคร 5 บริษัท", "วิ่งให้ได้ 3 กม." หรือ "หาเพื่อนใหม่" ก็ได้ ลองจินตนาการดูว่าคุณอยากให้ชีวิตไปในทิศทางไหนในอนาคตอันใกล้ คุณต้องทำอะไรไปเรื่อยๆ ทุกวัน ถึงจะได้ตามนั้น
  4. อีกวิธีจูงใจให้ตัวเองออกจากลูป ก็คือก้าวออกมาช่วยเหลือคนอื่นที่เราช่วยได้ แล้วจะรู้ว่าโลกภายนอกมันช่างสดใสเหลือเกิน นอกจากทำให้คนอื่นรู้สึกดีขึ้นได้แล้ว คุณจะพลอยรู้สึกดีตามไปด้วย ทำดีได้ดีเป็นยังไงก็รู้ตอนนี้แหละ
    • ช่วยเหลือแค่เล็กๆ น้อยๆ ก็ไม่ผิด เช่น อาสาพาน้องหมาของคุณยายข้างบ้านไปเดินเล่น ช่วยคนท้องถือของพะรุงพะรัง กระทั่งช่วยคนกันเองอย่างพ่อแม่พี่น้องและเพื่อนฝูง พวกนี้อาจฟังดูเล็กน้อย แต่เรื่องเล็กหลายๆ เรื่องก็กลายเป็นเรื่องใหญ่ที่สำคัญได้ คุณอาจพบเป้าหมายชีวิต ได้เพื่อนใหม่ แถมทำให้โลกน่าอยู่ขึ้นไปในเวลาเดียวกัน เรียกว่าดี 3 ต่อเลย
  5. บางทีที่รู้สึกว่าชีวิตตัวเองตกต่ำ อาจเพราะคุณอยู่ผิดที่ผิดทาง จริงๆ ก็ไม่อยากให้คุณมองโลกในแง่ร้าย แต่คนบางคนก็ชอบยกตนข่มท่าน และใครคนนั้นอาจอยู่ข้างตัวคุณ ไม่ว่าจะคนรู้ใจ เพื่อนสนิท หรือใครก็ตาม ถ้าพบว่าคนใกล้ตัวทำให้คุณรู้สึกไม่ดีกับตัวเองละก็ ได้เวลามองหาเพื่อนใหม่แล้วล่ะ
    • บางทีเราก็ต้องยอมรับความจริง ว่าเราไปกันไม่ได้อีกต่อไปกับบางคน ตอนเล็กๆ อาจคุยกันถูกคอ แต่โตมาก็ต่างมีเส้นทางและความชอบของตัวเอง ถือเป็นเรื่องธรรมดา ถ้าเพื่อน (หรือแฟน) คบแล้วมีแต่ทุกข์ใจ ก็ต้องปล่อยเขาไป
  6. เป็นเรื่องที่พูดง่ายแต่ทำยาก แต่ถ้าสภาพแวดล้อมทำชีวิตคุณแย่ (ไม่มีงานดีๆ ไม่มีเพื่อนรู้ใจ) ก็คงถึงเวลาต้องไป แต่ทุนทรัพย์ต้องเอื้ออำนวยด้วยนะ ไม่ต้องถึงขั้นย้ายจังหวัดหรือย้ายประเทศก็ได้ แค่เปลี่ยนบรรยากาศ เรียกว่าเริ่มต้นใหม่แบบล้างกระดานเลย
    • พออะไรๆ รอบตัวเปลี่ยน คุณก็จะลืมเรื่องเดิมๆ ได้ในที่สุด โดยเฉพาะเรื่องร้ายๆ ถ้าสภาพแวดล้อมเดิมๆ คนเดิมๆ ทำคุณหดหู่ท้อแท้ใจ ก็ถือเป็นวิธีที่น่าลอง อาจเป็นที่ใหม่ที่ใกล้พอจะติดต่อกับเพื่อนฝูงกลุ่มเดิมได้ แต่ห่างพอให้ได้ขบคิดพิจารณา ว่าเราพลาดไปตรงไหนและที่ใหม่เป็นที่ที่ใช่หรือเปล่า อย่างน้อยคุณก็ได้ก้าวออกจากโลกหม่นๆ ใบเดิม
    โฆษณา
วิธีการ 4
วิธีการ 4 ของ 4:

สร้างวินัยให้สมดุล

ดาวน์โหลดบทความ
  1. ทำใจแล้วออกเดินไปสู่ชีวิตใหม่ใช่จะทำได้ในชั่วข้ามคืน บางคนก็ต้องพยายามกันเป็นปีๆ บางทีคุณอาจเริ่มเปลี่ยนไปแล้วโดยไม่รู้ตัว ก่อนจะลดน้ำหนักได้เป็น 10 กก. ก็ต้องเริ่มจากลดวันละไม่กี่ขีดเสมอ กว่าจะเห็นผลชัดเจนต้องใช้เวลา แต่วันหนึ่งคุณจะหันกลับไปแล้วเห็นตัวเองจากมาแสนไกล เหมือนกางเกงตัวเก่าที่หลวมโพรกไปตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้
    • กว่าจะสังเกตเห็นการเปลี่ยนแปลงชัดเจน คุณอาจกลายเป็นคนคูลๆ เต็มที่กับชีวิตซะจนลืมว่าเคยเฟล กว่าจะหัวเราะได้ว่า "เราตอนนั้นฮาชะมัด" ไม่ใช่แค่วันสองวัน แต่ก็ไม่นานเกินรอ ฟ้าหลังฝนมีจริงเสมอ
  2. หรือช่วงที่เรียกว่า "ช้าเพื่อชัวร์" แน่นอนว่าการเปลี่ยนแปลงยากเสมอ จนบางทีทำคุณท้อถอย ถ้ารู้สึกเหนื่อยจนอยากทิ้งตัวกลับไปจุดเดิมเมื่อไหร่ ขอให้คิดถึงช่วงเวลาเลวร้ายที่คุ้นเคยเข้าไว้ ว่าตอนนี้ก็ยังดีกว่าตอนนั้น ถือเป็นช่วงเวลาที่ต้องใช้แรงกายแรงใจขั้นสุด พยายามโลกสวยเข้าไว้ เดี๋ยวมันก็จะผ่านไปเอง
    • ตอนนี้คุณมาได้ครึ่งทางแล้ว ข้างหลังคืออดีตโหดหิน ข้างหน้าคืออนาคตที่เฝ้าฝัน ไม่อยากย้อนกลับไป แต่ข้างหน้าก็ไกลเหลือเกิน แล้วใครบอกให้คุณมัดมือปิดตาเดินไปคนเดียวล่ะ เราถึงได้มีบทความนี้ไว้ให้คุณอ่านไง ไว้เตือนใจว่ามีอะไรรอคุณอยู่ การเปลี่ยนแปลงเจ็บปวดเสมอ แต่เดี๋ยวก็หาย กลั้นใจแล้วรีบเดินไปให้ถึงดีกว่า
  3. ตอนนี้ชีวิตคุณกำลังอยู่ในช่วงขาขึ้นแบบสุดๆ ได้เวลาหาความชอบใหม่ๆ ให้ได้ทุ่มเทกายใจแล้ว อะไรที่จะเติมเต็มชีวิตคุณ อะไรที่สนุกจนไม่อยากวางมือ เป็นเหมือนเป้าหมายไม่ให้ชีวิตหลงทางอีก ง่ายๆ คือลองถามตัวเองดูว่าชอบทำอะไร ขั้นต้นคือขอแค่ทำแล้วมีความสุขก็ใช้ได้แล้ว เจอแล้วให้ต่อยอดไปเรื่อยๆ ให้เป็นเป้าหมายชีวิตได้ยิ่งดี
    • คนมีความรู้ความเชี่ยวชาญถือว่าโชคดี แต่ถ้าเชี่ยวชาญในสิ่งที่รักชอบด้วยแล้วยิ่งเหมือนโชคสองชั้น เพราะอาจต่อยอดไปเป็นอาชีพหรือเป็นประโยชน์ต่อชีวิต จนลืมไปเลยว่าเคยเฟล
  4. อ่านมาถึงนี่คงพอได้ไอเดียจนมีไฟอยากลุกมาเปลี่ยนแปลงตัวเองแล้ว แต่จะทำได้จริงต้องจัดตารางชีวิตในแต่ละวัน กว่าจะเข้าที่เข้าทางอาจต้องใช้เวลา 2 - 3 อาทิตย์ แต่สุดท้ายคุณจะบริหารหน้าที่การงาน การเข้าสังคม และชีวิตส่วนตัวได้ในที่สุด
    • แค่มีวินัยก็มีชัยไปกว่าครึ่ง ขอแค่คุณจัดลำดับความสำคัญของสิ่งต่างๆ ในชีวิตได้ (ดูแลร่างกายและจิตใจตามที่บอก) ทุกอย่างจะตามมาเอง
    โฆษณา

เคล็ดลับ

  • เริ่มต้นชีวิตใหม่แล้ว อย่าทำตัวแบบเดิมๆ
  • หมั่นเตือนสติตัวเอง ถ้าคิดจะเปลี่ยนชีวิตแล้ว ต้องตั้งเป้าหมายที่มีเหตุผลรองรับ จะได้มีกำลังใจก้าวเดินต่อไป
  • เข้าร่วมกลุ่มบำบัด (ออนไลน์หรือตัวเป็นๆ) หรือพูดคุยกับคนที่เคยเจอเรื่องราวคล้ายๆ กัน จำไว้ว่าทุกคนมีปัญหาของตัวเอง คุณแค่ยังไม่รู้เรื่องของเขาเท่านั้น
  • บอกตัวเองว่าสู้ๆ เราทำได้! เคยได้ยินไหม "คนเราขอแค่ตั้งใจจริง ไกลแค่ไหนก็ไปถึง"
  • ทำเรื่องที่หลงใหลและเชี่ยวชาญ บางทีที่รู้สึกจนตรอกก็เพราะมีบางคนหรือบางอย่างมากระทบใจ แต่ให้คิดซะใหม่ว่าเราไม่มีทางทำอะไรได้ถูกใจทุกคน ใครไม่ชอบคุณก็เดินผ่านไป พรุ่งนี้เดี๋ยวก็เจอคนใหม่ที่ชื่นชมสิ่งที่คุณทำอยู่ อย่าคิดเปลี่ยนตัวตนที่แท้จริง
  • คบหาแต่กับคนที่คิดบวก อย่าเอาตัวเองไปอยู่ในสถานการณ์ตัดกำลังใจ
โฆษณา

เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

มีการเข้าถึงหน้านี้ 13,870 ครั้ง

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม

โฆษณา